อิตาลี อัซซูรีนิวลุคหวังสร้างเซอร์ไพรส์
ขุนพล “อัซซูรี” ตีตั๋วมาโปแลนด์และยูเครนด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มซี ในรอบคัดเลือก
โดย...มิวโกโตะ
ฉายา : อัซซูรี
อันดับฟีฟ่า : 12
ผลงานดีที่สุดในยูโร : แชมป์ปี 1968
ขุนพล “อัซซูรี” ตีตั๋วมาโปแลนด์และยูเครนด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มซี ในรอบคัดเลือก แต่ในศึกยูโรหนนี้ทีมชาติอิตาลีชุดนี้ พวกเขากลับถูกมองเป็นแค่เต็ง 5 จากการลงความเห็นจากแฟนบอล
แม้ทีมชาติอิตาลีจะถูกมองว่าเป็นชาติมหาอำนาจทางวงการลูกหนังของโลก เนื่องจากพวกเขาเคยคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมากที่สุดในทวีปยุโรป เป็นรองแค่ บราซิล (5 สมัย) เท่านั้น แต่ในทางกลับกัน ทีมลูกหนังจากแดนมะกะโรนีกลับไม่สามารถเฉิดฉายได้อย่างเจิดจรัสในเวทีฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือยูโร โดยเป็นแชมป์รายการนี้เพียงแค่ครั้งเดียว นั่นคือในปี 1968 ที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพ ซึ่งครั้งนั้นขุนพลอัซซูรีลงสนามแค่ 2 นัดเท่านั้น
หลังจากนั้นผลงานที่ดีที่สุดของอิตาลี คือ การเป็นรองแชมป์ในปี 2000 ที่พ่าย ฝรั่งเศส ในช่วงต่อเวลาพิเศษของรอบชิงชนะเลิศ ด้วยสกอร์ 1-2 อาจเป็นไปได้ว่าคู่แข่งในทวีปเดียวกันจับแนวทางการเล่นของอิตาลี จนกระทั่งหาวิธีรับมือได้สำเร็จ ซึ่งแตกต่างจากเวทีโลกที่หลายชาติยังมืดแปดด้านกับวิธีจะเจาะตาข่ายแนวรับอัซซูรี โดยแท็กติกที่พวกเขาใช้มาตลอดไม่ว่าจะทัวร์นาเมนต์ใดนั่นคือ “เกมรับที่เหนียวแน่น” หรือภาษาบอลบ้านเราเรียกว่าสไตล์ตีหัวเข้าบ้าน หมายถึงการเล่นเกมรับอย่างเต็มรูปแบบ และขอโอกาสเดียวเน้นๆ เข้าโจมตีคู่แข่ง หลายต่อหลายประเทศเสียน้ำตาให้กับแผนการเล่นนี้มาแล้ว
อย่างไรก็ดี ศึกยูโรหนนี้อาจเปลี่ยนไป เมื่อ เชซาเร บรันเดลลี เทรนเนอร์ทีมชาติอิตาลี ประกาศว่าเตรียมโละสไตล์เกมอุดแล้วโต้ ซึ่งเปรียบเสมือนดีเอ็นเอของวงการลูกหนังอิตาลีมาช้านาน พร้อมยืนยันว่าจะพาทีมเล่นฟุตบอลเกมรุกแบบโททัลฟุตบอล โดยเปิดใจว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากสไตล์ฟุตบอลของอาแจ็กซ์ ซึ่งเป็นมหาอำนาจลูกหนังในช่วงยุค 1970
“ทุกคนจะได้เห็นอิตาลีโฉมใหม่ในยูโร ผมจะให้ลูกทีมเล่นเกมรุกอย่างมีชีวิตชีวา ทีมจะไม่เอาแต่บีบพื้นที่คู่แข่งเพียงเท่านั้น แต่เราจะเคลื่อนที่และจะบุกด้วยความรู้สึกอันยอดเยี่ยม” บรันเดลลี ให้สัมภาษณ์
นอกจากนี้ อดีตนายใหญ่ฟิออเรนตินา ยังขู่เพื่อนร่วมกลุ่มอย่างสเปน ที่มีดีกรีแชมป์เก่า รวมถึงเป็นเจ้าของแชมป์โลกครั้งล่าสุด ทำนองว่า ทัพกระทิงดุอาจจะมีขุมกำลังที่แข็งแกร่ง แต่ก็ใช่ว่าจะสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น และในเกมที่พบกันเขาจะเน้นให้ลูกทีมแย่งบอลกลับมาให้ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อเล่นเกมบุกเข้าใส่โดยทันที
ขุมกำลังก็อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ บรันเดลลี หันมาเปลี่ยนแท็กติก เนื่องจากขุนพลอัซซูรีชุดนี้อยู่ระหว่างช่วงผลัดใบ แผงแบ็กโฟร์ยุคใหม่ ประกอบไปด้วย คริสเตียน มาจโจ (นาโปลี) โดเมนิโก คริสซิโต (เซนิต) อิกนาซิโอ อบาเต (มิลาน) จอร์โจ คิเอลลินี (ยูเวนตุส) แต่ดูจากรายชื่อแล้วมีเซ็นเตอร์ฮาล์ฟจากทีมม้าลายคนเดียวที่พอมีประสบการณ์ในระดับชาติ
ยิ่งไปกว่านั้น ข่าวร้ายคือกัปตันแชมป์สคูเด็ดโตปีล่าสุดได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา จนทำให้เขาจะหมดสิทธิลงเล่นเกมอุ่นเครื่อง 2 นัดกับ ลักเซมเบิร์ก (29 มิ.ย) และรัสเซีย (1 มิ.ย.) โดยเจ้าตัวหวังว่าจะฟิตทันกลับมาเล่นในนัดแรกของศึกยูโร 2012
“อาการของผมดีขึ้นมากแล้ว ผมไม่มีส่วนร่วมในเกมอุ่นเครื่อง เพราะต้องป้องกันเอาไว้ก่อน แต่ผมต้องการพร้อมสำหรับนัดเปิดสนามกับสเปน แน่นอนผมจะพร้อม” คิเอลลินี วัย 27 ปี กล่าว
แนวรุกทัพอัซซูรีนำโดย อันเดรีย ปีร์โล ห้องเครื่องวัย 33 ที่กลับมาโชว์ฟอร์มได้เด่นกับยูเว ส่วนความหวังการจบสกอร์จำเป็นต้องฝากไว้กับ มาริโอ บาโลเตลลี ดาวยิงจอมเกรียนจากทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี เนื่องจาก จูเซปเป รอสซี ศูนย์หน้าความหวังจากบียาร์เรอัล ได้รับบาดเจ็บหนักบริเวณเอ็นหัวเข่าข้างขวาจนต้องปิดเทอมยาว
ส่งผลให้สื่อหลายสำนักออกโรงวิจารณ์ บรันเดลลี ว่าเหมาะสมแล้วหรือไม่ที่เอาอนาคตทีมมาฝากไว้กับกองหน้าจอมสร้างเรื่องรายนี้
อย่างไรก็ตาม ดาวยิงทีมชาติอิตาลี วัย 21 ปี ได้ออกมาให้สัญญากับกุนซือเช่นกันว่าจะปฏิบัติตัวให้เป็นนักเตะที่ดี และจะปรับพฤติกรรมแย่ๆ ให้ดีขึ้น ในการฟาดแข้งฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012
“ไม่ต้องกังวล ผมจะไม่เป็นปัญหาในศึกบอลยูโร ผมจะอยู่ภายใต้การควบคุม ผมฝันที่จะได้ลงเล่นในยูโรมาตั้งแต่เด็ก ได้สวมเสื้อทีมชาติอิตาลี ซึ่งมันอยู่ในความฝัน และขณะนี้ฝันได้เป็นจริงแล้ว มันเป็นเกมที่ยิ่งใหญ่พอกับฟุตบอลโลก ตอนนี้ผมแทบจะรอไม่ไหวในการเริ่มดวลแข้ง” บาโลเตลลี กล่าว
สำหรับศึกยูโร 2012 รอบสุดท้ายครั้งนี้ อิตาลี อยู่ในกลุ่มซี ร่วมกับ สเปน ไอร์แลนด์ และโครเอเชีย และแม้พวกเขาจะมีผลงานที่น่าผิดหวัง โดยจบเพียงแค่รอบแรกในศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ แต่หากใครที่คิดประมาทมีสิทธิน้ำตาเช็ดหัวเข่าได้ง่ายๆ เช่นกัน เพราะพวกเขายังคงเป็นทีมที่น่ากลัวอยู่เสมอ ทั้งในเรื่องของแท็กติกที่เฉียบขาด และการตั้งรับที่เหนียวแน่นดุจหินผา ซึ่งนั่นคืออัซซูรีในอดีต ส่วนอิตาลีเวอร์ชันเกมบุกนั้นจะไปได้ไกลเพียงใด ต้องรอพิสูจน์ของจริงในเดือนหน้า...


