หวานๆ สวยๆ สไตล์ฝรั่งเศส

โดย...รอยนวล

ฝรั่งเศสเป็นเจ้าแห่งผู้สร้างสรรค์ของอร่อย สำหรับรอยนวลแล้วตอนนี้กำลังตกหลุมรักของหวานจากฝรั่งเศสอย่างแรง

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วพีอาร์สาวคนสวยแห่งพารากอนส่งการ์ดเชิญรอยนวลไปร่วมงาน Emporium Sweets Passion : Macaron Festival แต่เสียด๊ายเสียดายที่ไม่สามารถไปร่วมงานได้ พร้อมกับจดหมายเป็นกล่องสีสดใสบรรจุขนมสีสวยแนบมาให้ด้วย ขนมที่เรียกว่า...

“มา–กา–ครง...”

อดีตนักเรียนฝรั่งเศสพยายามสอนเราออกเสียงชื่อขนมก้อนกลมๆ นั้นให้ถูกต้อง โดยต้องทำเสียงเหมือนมีอะไรอยู่ในคอด้วย ว้า...ยากจัง เอาเป็นว่าเราขอสะกดง่ายๆ ว่าเป็น มาการง แล้ว

มาการง (Macaron) ขนมสไตล์ฝรั่งเศสชนิดนี้มีประวัติความเป็นมายาวนาน และเมื่อไม่กี่ปีหลังก็หวนกลับคืนสู่ความนิยมอีกครั้ง ฮิตระบาดไปหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงบ้านเรา ปัจจุบันมีร้านขนมในเมืองไทยมากมายมีมาการงขาย ราคาก็แพงไม่ใช่ย่อย อาจเพราะว่าขั้นตอนการทำนั้นพิถีพิถันใส่ใจทุกขั้นตอน

ว่ากันว่า มาการงเกิดในอารามของอิตาลีเมื่อปี 1792 ต่อมาแม่ชีสองคนซึ่งหลบซ่อนตัวในเมืองเล็กๆ ของฝรั่งเศสระหว่างช่วงปฏิวัติฝรั่งเศสก็ได้ทำขนมชนิดนี้ออกขาย จึงถูกเรียกว่า มาการง ซิสเตอร์ ต่อมาสูตรขนมก็แพร่ไปถึงชุมชนคนยิวในฝรั่งเศส มาการงกลายเป็นขนมสำหรับเทศกาลในฤดูใบไม้ผลิของคนยิว ต่อมาขนมชนิดนี้จึงถูกแนะนำให้ทั่วโลกได้รู้จักในเวลาต่อมา

 

มาการง คล้ายๆ เบอร์เกอร์ชนิดหวาน เป็นคุกกี้ชิ้นเล็กๆ กลมๆ สีสันสดใส 2 ชิ้นประกบกัน ตรงกลางมีไส้ รสหวาน กรอบนอกนุ่มใน ของดีต้องเนื้อเต็ม ไม่เบา หรือมีโพรงอากาศ ไม่แข็ง แรกนั้นมาการงมีรูปร่างคล้ายคุกกี้ ส่วนผสมหลัก คือ น้ำตาล ไข่ขาว และผงอัลมอนด์ จนกระทั่งศตวรรษที่ 20 จึงได้มีการดัดแปลงสูตรให้ออกมาเหมือนทุกวันนี้โดยมีไส้ตรงกลาง ปัจจุบันก็ปรับเปลี่ยนหน้าตาและรสชาติแปลกใหม่ออกมา

ปกติไส้ของมาการงมักเป็นช็อกโกแลต แต่ก็มีเชฟสมัยใหม่ที่คิดค้นสร้างสรรค์ให้ออกมาเป็นไส้ต่าง อย่างที่ร้าน มิลล์ เครป ร้านเก๋ๆ บนถนนดินสอมีมาการงให้เลือกชิมถึง 40 รสชาติ แต่พิเศษสุด คือ วาซาบิ มาการง!!! ซึ่งได้นำรสชาติแบบฝรั่งเศสมาผสมผสานกับญี่ปุ่น ใครผ่านไปทางนั้นอย่าลืมแวะไปหามาชิมดูว่าจะจี๊ดขนาดไหน หรือโทร.ไป 02-281-4445

ส่วนใครอยากลองอีกไส้แปลกๆ ก็เป็นของร้านเลอ กูเต้ ซึ่งมีเชฟเป็นผู้เชี่ยวชาญการทำขนมแบบฝรั่งเศส ในวันงานทางร้านได้สร้างสรรค์มาการงรสชาติแปลกอย่าง อาฟเตอร์ ดาร์ก ที่ส่วนผสมของไส้ทำมาจากโรเซ แชมเปญจากฝรั่งเศสออกมาให้คนรักมาการงได้ชิม แต่ไม่รู้ว่าจะมีจำหน่ายที่ร้านไหม สงสัยต้องไปสอบถามดูที่ 02-930-2913

ส่วนมาการงที่สาวพารากอนส่งมาให้ และลงภาพประกอบนี้มาจาก กูร์มองดิสส์ โรงแรมสวิสโฮเต็ล ปาร์ค นายเลิศ มีให้ได้ลิ้มลอง 5 สี 5 รส คือ เลมอน คาราเมล ราสพ์เบอร์รี วานิลลา และพิสตาชิโอ ชิมแล้วอร่อยค่ะ กินกับชาได้รสชาติพอดี ไม่หวานมากเกินไป (สอบถามโทร. 02-253-0123, 02-253-0123)

 

ย้อนกลับไปเมื่อหลายเดือนก่อน รอยนวลมีโอกาสแวะไปสการ์เล็ต ซึ่งเป็นไวน์บาร์ตั้งอยู่ ณ ชั้น 37 โรงแรมพูลแมน กรุงเทพ จี หรือโซฟิเทล กรุงเทพ สีลม เดิม ที่นี่มีอาหารสไตล์ยุโรปเมนูสร้างสรรค์โดยเชฟมานูเอล มาร์ติเนซ์ เชฟมิชลินสตาร์ระดับ 2 ดาว ชาวฝรั่งเศสให้เลือกสั่ง ไม่ได้โม้แต่ว่าอร่อยทุกเมนู ถ้าเป็นของหวานขอบอกว่าต้องไม่พลาด มิลล์เฟย

เจ้ามิลล์เฟยที่คุณปณิฏา สุวรรณปาล บรรณาธิการของเราให้จำกัดความว่าเป็น “หนึ่งพันชั้นอันแสนหวานกรอบ” ซึ่งมาจากคำว่า Mille ภาษาฝรั่งเศสแปลว่า 1,000 Feuille แปลว่า ใบไม้/แผ่น เวลามองมิลล์เฟยเราจะเห็นว่าเป็นแป้งและครีมสลับเรียงกันอยู่แค่ 3 ชั้นเรียงกันนั้น ในความเป็นจริงมีแป้งบางๆ เรียงกันเกือบพันอย่างชื่อนั่นแหละ

มิลล์เฟยสูตรดั้งเดิมจะเป็นแป้งกับครีมล้วนๆ แต่ต่อมาก็มีการสร้างสรรค์เพิ่มเติมส่วนผสมต่างๆ เข้าไปในครีม ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ อย่างกีวี แพสชันฟรุต สตรอเบอร์รี ราสพ์เบอร์รี เป็นต้น

เรื่องเล่าบอกต่อๆ กันมาบอกว่า มิลล์เฟยเป็นเค้กฝรั่งเศสที่ได้รับอิทธิพลถ่ายทอดมาจากอิตาลี (อีกแล้ว...!!!) ทำเป็นครั้งแรกในสมัยนโปเลียน ทุกวันนี้ยังมีคนเรียกมิลล์เฟยว่า เค้กนโปเลียน อยู่ ... แต่ไม่ว่าเรื่องเล่าจะจริงเท็จอย่างไร เราก็รู้แต่ว่าขนมชนิดนี้อร่อยเริ่ด!!! (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สการ์เล็ต โทร. 02-238-1991)

รสชาติเมื่อแรกชิมเราจะพบกับความกรอบของแป้งก่อนจะได้เจอกับความเย็นนุ่มเนียนของครีม หวาน มัน และเค็มปะแล่มจากตัวแป้ง รวมกันเป็นความอร่อย ... กินแล้วก็อยากกินอีก

เมื่อนึกถึงของหวานสไตล์ฝรั่งเศสแล้วละก็ มาการงกับมิลล์เฟย จะเป็นชื่อแรกๆ ที่วิ่งปรู๊ดดมาสู่สมอง เพราะความอร่อยของขนมทั้งสองชนิดนี้ลืมไม่ลงจริงๆ