posttoday

"สมเด็จพระเจ้าตากสิน" อยู่สวรรค์(ตอน1)

06 พฤษภาคม 2555

ถาม : ถ้าเรายึดมั่นในพระรัตนตรัย เราจะพ้นจากการตกนรกหรือไม่

ถาม : ถ้าเรายึดมั่นในพระรัตนตรัย เราจะพ้นจากการตกนรกหรือไม่

ตอบ : อันนี้รับรองว่าไม่ตกนรกแน่นอน...

โยมจะสังเกตดูพระเจ้าแผ่นดินอย่าง สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชอย่างนี้ อย่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราชอย่างนี้ ทำไมท่านไม่ตกนรก ท่านฆ่าคนเยอะ อันนี้มันน่าสงสัย ก็นี่แหละ เพราะท่านมั่นใจในไตรสรณคมน์

ดูพระมหากษัตริย์สมัยเก่าๆ พระชนมพรรษาไม่ค่อยยืนหรอก 50 พรรษา หรือเกินกว่านั้นก็ไม่มาก อันนี้เพราะท่านทำปาณาติบาตกันมามาก อย่างสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชนี้อาตมาก็มั่นใจ เพราะอาตมามาอยู่วัดของท่านตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 (วัดอินทาราม) ท่านภาวนาที่วัดนี้ แล้วครูบาอาจารย์หลายองค์ท่านก็เคยเตือนและเคยดุอาตมาว่า อยู่วัดพระเจ้าตากสิน แต่ไม่เคยสนใจพระเจ้าตากสิน

หลวงพ่อมหาปิ่นด่าอาตมาแรงๆ และที่อาตมาไปสร้างวัดโพธิคุณก็เหมือนกัน อาตมาก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำเพื่อใคร จะทำเพื่อพระพุทธศาสนา แต่เหตุที่อาตมาไปสร้างวัดก็ไม่ใช่เป็นความตั้งใจของอาตมาที่จะไปสร้าง อาตมาชอบเที่ยวธุดงค์มากกว่า คือมันมีอิสระ ไม่ติด อย่างน้อยก็ไม่ติดโยม

คือพระเรานี่มันติดโยม หรือโยมติดพระมันเป็นภาระ มันเป็นปลิโพธในการปฏิบัติกรรมฐาน คือถ้าอยู่ไหนนาน มันเป็นห่วงโยม โยมเจ็บป่วยอะไรสารพัด อันนี้อาตมาพยายามตัด

อีกอย่างหนึ่งที่เราเข้าใจว่าในสองวงศ์ระหว่างวงศ์จักรีกับวงศ์ตากสินมีการฆ่ากันนั้น อยากจะให้ลืมความรู้สึกอย่างนี้เสีย จริงๆ แล้วท่านไม่ได้ฆ่ากัน คือบางคนก็ยังเคียดแค้นวงศ์จักรีว่าไปแย่งสมบัติของวงศ์ตากสิน อะไรทำนองนี้ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ คือท่านสละของท่านเอง และโยมนั่งหลับตาภาวนาเมื่อสักครู่ โยมอาจจะเห็นอะไรๆ ในชีวิตที่ผ่านมา คือผ่านมาเมื่อวานบ้าง วันก่อนบ้าง หรือนานกว่านั้นบ้าง แต่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในขณะที่พระองค์ท่านกอบกู้ชาติบ้านเมือง ท่านต้องทำงานอย่างเร็ว และเริ่มฆ่าคนตั้งแต่จันทบุรีเรื่อยไปกว่าจะจบรอบ

ประเทศนี้ฆ่าเท่าไร แล้วในระหว่างนั้นก็มีศึกพม่ามาติดพันกันนุงนังอยู่แล้ว ท่านก็ไม่มีเวลาที่จะมาสนใจในการทำบุญทำกุศล ก็พอดีพระราชมารดาท่านประชวรหนัก ขนาดมารดาเจ็บก็ไม่มีเวลาจะมาดูมารดา เพราะติดพันอยู่กับข้าศึก ในที่สุดพระราชมารดาท่านสิ้นพระชนม์ ก็ทำศพที่วัดอินทาราม ก็ทำลวกๆ ไปครั้งหนึ่ง

"สมเด็จพระเจ้าตากสิน" อยู่สวรรค์(ตอน1)

 

เมื่อท่านเสร็จศึกเรียบร้อยแล้ว ท่านก็มาทำพิธีใหญ่อีกครั้งหนึ่ง แล้วในช่วงนี้ศึกอะไรต่างๆ ก็เบาลง เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกท่านก็รับหน้าที่หน้าศึกอะไรได้ และท่านก็มีโอกาสมาใกล้ชิดกับวัดอินทาราม และในครั้งนั้นอาตมาก็เข้าใจว่าคงจะมีพระกรรมฐานที่เชี่ยวชาญพอสมควร จึงให้อารมณ์กรรมฐานท่านได้ดี และในระหว่างที่ท่านทำศพพระราชมารดา ท่านก็มานั่งกรรมฐานที่วัดอินทาราม เตียงบรรทมของท่านปัจจุบันนี้ยังอยู่ เตียงที่ท่านไปทรงธรรมยังอยู่ที่วิหาร เขาเรียก วิหารพระเจ้าตาก เป็นไม้สักสองแผ่น รอบๆ นี้ก็เป็นงาฉลุ ยังอยู่ที่วัดอินทาราม

ในระหว่างที่ท่านนั่งกรรมฐานอย่างที่โยมนั่งกันเมื่อสักครู่นี้ เมื่อหลับตานั่งภาวนาลงไป ภาพที่ท่านฆ่าคนจำนวนมากก่อนที่จะมานั่งภาวนาจะต้องปรากฏทางใจของท่าน และภาพเหล่านี้เป็นลักษณะที่ทำให้ท่านตัดสินพระทัยได้ คือเมื่อปรากฏในใจของท่าน ท่านก็มีความเพียร ทำให้จิตของท่านเป็นสมาธิได้ ในบางช่วงของจิตของท่านสงบเป็นสมาธิ มีอิสระ จิตของท่านเริ่มมีอิสระ ท่านจึงรู้ว่าความสุขกับความทุกข์มันต่างกันอย่างไร ความสุขในการครองราชย์กับความสุขที่มันเป็นอิสระจริงๆ จากสมาธิมันห่างไกลกันมาก

นี่แหละเป็นเหตุให้ท่านตัดสินพระทัยไปในทางว่า ถ้าเรายังจะเป็นพระมหากษัตริย์ต่อไป เราก็จะต้องกำดาบตัดคอคนอยู่ตลอดเวลา ไม่มีโอกาสจะมานั่งหาความสุขความสงบทางจิตใจได้อย่างนี้ และท่านเห็นว่าบ้านเมืองก็เข้มแข็งแล้ว เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกก็เข้มแข็ง แล้วท่านก็เสียสละ การเสียสละครั้งนี้ อาตมาว่าเป็นการเสียสละครั้งยิ่งใหญ่ของท่าน คือ ท่านสละราชย์ให้กับพระพุทธยอดฟ้าฯ แล้วท่านก็ให้เขียนประวัติของท่านในลักษณะที่ท่านเป็นคนบ้า เสียสติ วิกลจริต จะต้องฆ่ากันตาย อะไรทำนองนั้น อันนี้อาตมาว่าเป็นเจตนาของท่าน

คือถ้าหากว่าท่านจะออกไปในลักษณะที่ไม่มีเหตุไม่มีผล ในเมื่อขุนศึกที่จะอยู่ฝ่ายท่านก็เยอะ ขุนทหารที่ยังรักเคารพท่านก็ยังมาก ทางออกที่ดีก็มีอยู่ทางนี้ทางเดียว คือเพื่อจะให้ขุนศึกขุนทหารเห็นว่าถ้าเอาคนบ้าขึ้นไปนั่งเมืองบ้านเมืองก็จะไม่มีความสงบ นี่เป็นเจตนาของท่าน ท่านให้เขียนประวัติอย่างนั้น ท่านให้ออกข่าวอย่างนั้นว่า พระเจ้าตากสินเป็นบ้า เฆี่ยนตีพระเณรอะไรทำนองนี้ อันนี้เป็นเรื่องที่ท่านให้ทำขึ้นมากกว่านะ ปรากฏว่าท่านได้ออกบวช เป็นเรื่องที่น่าจะตกนรก แต่ท่านไม่ตก ก็เพราะไตรสรณคมน์อย่างที่โยมว่าเมื่อกี้ คือท่านอยู่สวรรค์

อาตมาเข้าใจว่าท่านอยู่สวรรค์

เมื่อปี พ.ศ. 2517 ขโมยมันลักงาช้างจากเตียงของท่านไป 8 แผ่น หลวงพ่อเจ้าอาวาสองค์เดิมท่านเป็นนักปฏิบัติ ท่านประชุมสงฆ์ ตอนนั้นโยมชีแกดูแลสมบัติพระเจ้าตากสินอยู่ ขโมยมันมาลักไปได้ หลวงพ่อท่านให้เปลี่ยนจากชีมาเป็นพระ เปลี่ยนเป็นเวรกันลงไปดูสมบัติพระเจ้าตากสิน สมบัติของท่านก็มีเตียงกับดาบเล่มหนึ่ง ในระหว่างที่ประชุมกัน พอดีอาตมาก็มานั่ง คือ นั่งติท่านหน่อย ติในใจ ไม่ได้ออกปาก และก็ไม่ได้ปรารภให้ใครฟังด้วย นั่งตำหนิท่านในใจ เอ...พระเจ้าตากฯ นี่ยังไงกัน วันหนึ่งๆ คนเขามาบูชาสักการะขอความคุ้มครองตัว ขอความคุ้มครองทรัพย์สมบัติของพวกเขา และนี่สมบัติของท่านเองยังคุ้มครองไม่ได้ ท่านจะไปคุ้มครองใครเขาได้นะ นี่เป็นแต่เพียงนึก อาตมานึกในใจเพียงแค่นี้ แล้วตอนเย็นอาตมาไปนั่งสวดมนต์เจริญภาวนาแผ่เมตตาถึงท่าน เสร็จแล้วอาตมาก็เข้าจำวัด พอรู้สึกเคลิ้มๆ ก็มีเสียงพูดข้างหูบอก มันเรื่องอะไรของท่าน มันเอาไปได้ มันก็ต้องเอามาคืนได้ ที่ท่านคิดนะ มันไม่ถูก แล้วก็มีอะไรคล้ายๆ มือคนลูบลงที่หน้าอาตมา ไม่ใช่ตบ คล้ายๆ ผู้ใหญ่ปลอบเด็ก

ผลปรากฏว่าขโมยมันเอาไปเดือนมิถุนานะ พอสิงหามันก็เอาใส่ถุงมาคืนหมด ยังครบอยู่ทุกวันนี้ อันนี้แหละแสดงว่าอยู่ในสวรรค์ ไม่ได้อยู่ในนรก ไตรสรณคมน์ขอให้เรามั่นคงจริงๆ ช่วยเราได้

ขอโทษเถอะไม่ใช่ติ ชาวพุทธเราทั่วไปนี่ อันนี้ไม่ใช่ตำหนิญาติโยม ที่นี่เขาเรียกว่ามั่นคงในไตรสรณคมน์กันอย่างแน่นอนแล้วละ ที่ทั่วไปมีแต่ทะเบียนเป็นชาวพุทธ คือ บางที่มีอะไรเกิดขึ้น แทนที่จะพุทโธ เรื่องอะไรกันก็ไม่ทราบ อันนี้อาตมาก็เคยโดนตำหนิมาทีหนึ่ง ในการบรรยายนี่แหละ บอกว่าชาวพุทธเราไม่รู้เป็นชาวพุทธแบบไหน บางทีจอมปลวกก็ไปยอมแพ้ บางทีตอไม้เราก็ไปยอมกลัว แม่น้ำเราก็เห็นศักดิ์สิทธิ์ ต้องไปอะไรต่ออะไร เพื่อจะชำระ เขาเรียกว่าชำระทุกข์ มันจะชำระได้อย่างไร มันก็แค่ทำให้ร่างกายของเรามันเย็นเท่านั้น ล้างขี้ไคลได้หน่อยหนึ่ง จอมปลวกนี่เราไปยอมเอา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ไปแลก อาตมาเห็นว่ามันผิด มันไม่สมควรเลย

อาตมาลงมากรุงเทพฯ สังเกตเห็นว่ามีจอมปลวกแห่งหนึ่งอยู่ข้างถนนแถวอยุธยา คนไปบูชาสักการะด้วยเครื่องสังเวยเยอะเหลือเกิน เรียกว่ามีชาวพุทธที่ยอมแพ้จอมปลวกไปกราบไหว้เป็นจำนวนมาก อาตมาก็บอกว่าศรัทธานี่มันไม่ถูกต้อง ศรัทธาในศาสนามันมีสองศรัทธา คือ ศรัทธาที่เป็นญาณวิปปยุต กับศรัทธาที่เป็นญาณสัมปยุต ศรัทธาที่ผิดไม่ประกอบด้วยปัญญา พระพุทธเจ้าท่านว่าเป็นโมหศรัทธา ศรัทธา แปลว่า เชื่อ เชื่อแล้วมันก็จะได้เลื่อมใสสิ่งที่เราเชื่อ เมื่อเลื่อมใสจิตของเรามันจะแล่นไป และถ้าไปเชื่อจอมปลวก มันจะวิ่งไปที่ไหน มีทุกข์มันก็วิ่งไปที่จอมปลวกทุกที ถ้ามันวิ่งไปที่จอมปลวก เวลาเจ็บไข้ได้ป่วย แทนที่จะนึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พุทโธ ธัมโม สังโฆ แต่ไปนึกถึงจอมปลวกให้ช่วย แต่ถ้าจอมปลวกมันช่วยไม่ได้ เกิดตายลง จิตมันวิ่งไปที่นั่น แล้วมันจะไปเป็นอะไร ก็ที่จอมปลวกนั่นมันมีพ่อปลวกแม่ปลวกเป็นล้านๆ ตัว มันพร้อมที่จะให้กำเนิดอยู่แล้ว ก็ต้องไปเป็นลูกปลวก ก็นี่แหละเขาเรียก โมหศรัทธา

พระราชามหากษัตริย์ของเราหลายพระองค์ที่พระภาวนาเจอะเจอกัน อย่างเช่น สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อาตมาไม่สงสัย สมเด็จพระนเรศวรมหาราชอย่างนี้ แม้จริงๆ แล้วอาตมายังไม่มีประสบการณ์กับท่านก็ตาม และก็อีกหลายพระองค์ แต่สมเด็จพระเจ้าตากสินนี่อาตมาค่อนข้างจะมีประสบการณ์

ที่อาตมาไปสร้างวัดนี้ครั้งหนึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2525 ลูกเสือชาวบ้านที่ธนบุรีเขาจะทอดผ้าป่าหาเงินสร้างกุฏิ ตอนนั้นอาตมาไปอยู่ใหม่ๆ ไปอยู่ในป่าสงวน ที่วัดไม่มีอะไรเลย ห้องน้ำ ห้องส้วม ที่อาบน้ำอาบท่า อาหารการกินอะไรมันไม่มี แล้วก็ญาติโยมที่จะไปจากกรุงเทพฯ ก็ร้อยกว่าคน ญาติโยมทางแม่สอดเขามาบอกอาตมาเหมือนกันว่า ท่านไม่ต้องวิตก โยมจะจัดการต้อนรับกันเอง อาตมาก็ไม่ไว้ใจ เพราะอาตมาไปอยู่ใหม่ๆ และยังไม่ได้ทำอะไรให้กับคนแม่สอด เกิดเขาไม่มาช่วยเรื่องอาหารการกิน โยมจะไปกินอาหารกันที่ไหน แล้วน้ำท่า ห้องน้ำห้องส้วมมันไม่มี โยมจะทำยังไงกัน แต่ระหว่างที่อาตมานั่งภาวนาตอนหัวค่ำ พอจิตเป็นสมาธิ ปรากฏว่าพระองค์ท่านมาปรากฏเต็มองค์ของท่านเลย ทรงเครื่องกษัตริย์ครบ ในขณะนั้นอาตมาคล้ายๆ ถูกผีอำ ขยับตัวไม่ได้ ขนาดนั่งภาวนาขยับตัวไม่ได้ และแล้วภาพที่ปรากฏให้เห็นแล้วค่อยๆ จางหายไป แม้อาตมาจะขยับตัวไม่ได้ แต่หูนี่ได้ยินเสียงเหมือนมีคนทำความสะอาดวัดวาอาราม ทั่วบริเวณป่าที่อาตมาอยู่ตั้งแต่หัวค่ำจนสว่าง พอสว่าง อาตมาขยับตัวได้ก็รีบออกไปดู พอดีรถผ้าป่าขึ้นมา ปรากฏว่าลูกเสือชาวบ้านแม่สอดมาต้อนรับกันอย่างสนุกสนาน คืนนั้นทั้งคืนเขาเล่นกัน เขาไม่มีเรื่องไม่สบายใจอย่างที่อาตมาคิดเลย เขาไม่ได้วิตกเขาไม่ได้เดือดร้อนกัน เขาแก้ปัญหากันได้

อันนี้อาตมาเคยคิดว่า ท่านคงจะไม่ให้อาตมาคิด ก็เลยมาทำให้อาตมาเป็นอย่างที่เล่า โยมไปเที่ยวที่วัดแล้วจะเข้าใจเอง

โบสถ์ที่อาตมาสร้างขึ้นนี่ อาตมาไม่ได้มีเจตนาจะทำอย่างนั้น แต่หลวงพ่อครูบาอาจารย์ท่านก็พูดในทำนองว่า พระเจ้าตากท่านต้องการบุญว่างั้น ช่วยทำอะไรให้ท่านหน่อย

ข่าวล่าสุด

เปิด Top 3 ดวงขึ้นแรงสุด 12 นักษัตร นักธุรกิจ ใครปัง รับปีม้าไฟ