สิเรียม คัมแบ็ก กับชีวิตที่ออกแบบได้
อดีตนักแสดงสาวสวย แอน-สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์
โดย... มีนา/ภัทรชัย ปรีชาพานิช
อดีตนักแสดงสาวสวย แอน-สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ ที่อำลาวงการอย่างสายฟ้าแลบพร้อมข่าวด้านลบที่ยังคลุมเครือเพื่อไปอยู่ดูแลลูกสาว น้องนนนี่-นนลนีย์ ภักดีดำรงฤทธิ์ ที่ประเทศอังกฤษ หลังห่างหายจากหน้ากล้องนาน 3 ปี ครั้งนี้เธอกลับมาอีกครั้งกับภาพลักษณ์ใหม่ ผันตัวเองไปทำธุรกิจด้านความงาม โดยเปิดตลาดที่เมืองไทยกับแบรนด์ใหม่ “Slimming Plus Instituion” สถาบันดูแลรูปร่างและผิวพรรณแบบครบวงจร มูลค่าลงทุนเฉียด 90 ล้านบาท! วันนี้โพสต์ทูเดย์ได้โอกาสจับเข่าคุยกับเธอว่า หายไปทำอะไร ชีวิตที่อังกฤษเป็นอย่างไร และข่าวด้านลบข่าวไหนกระทบใจเธอมากที่สุด !
แง่มุมทำธุรกิจ
แง่มุมการทำธุรกิจผู้บริหารสาว สิเรียม รั้งตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท สลิมมิ่ง พลัส สถาบันดูแลรูปร่างและผิวพรรณแบบครบวงจรที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องการดูแลรูปร่าง ลดกระชับสัดส่วน ก่อนจับธุรกิจตัวใหม่โดยต้องการให้ผู้คนลบภาพ “สิเรียม บิวตี้” ไปให้หมด สิเรียมต้องศึกษาพฤติกรรมของผู้หญิงไทยและพบว่าตลาดความงามแต่ละเจ้ามีความชำนาญต่างกัน แม้เธอไม่ได้เรียนมาโดยตรงในสายธุรกิจ แต่พัฒนาตัวเองเพิ่มด้วยการเรียนเพิ่มเติมด้านโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ผสมผสานกับใช้ประสบการณ์จริงด้านความงามเมื่อครั้งอยู่ในวงการบันเทิงมาเกิน 20 ปี เธอจึงรู้ว่า ความงามไหนที่เรียกว่า “พอดี” ที่ไม่ให้เกิดโทษกับลูกค้า ก่อนนำนวัตกรรมมาใช้เธอลองเองทุกตัว
“ทุกวันนี้ยอมรับว่า ทุกคนหิวก็ต้องรับประทานอาหารจังก์ฟู้ดบ้าง แต่ไม่บ่อย แต่จะทำอย่างไรให้เราดีทอกซ์สิ่งไม่มีออกจากร่างกาย เช่นเดียวกัน พอเรามาประกอบธุรกิจความงาม เรื่องนี้เป็นองค์ความรู้ที่เราเก็บสะสมมาอยู่ในตัวเรา ซึ่งเราสามารถนำมาดัดแปลงทรีตเมนต์ต่างๆ เพื่อพัฒนาให้เกิดแคมเปญใหม่ๆ”
จุดเด่นของธุรกิจใหม่ที่แตกต่างจากสถาบันความงามอื่นๆ สิเรียมบอกว่า อยากให้ทุกคนลืมชื่อแอนไปเลย และลืมชื่อ สิเรียม บิวตี้ ไม่อยากให้พูดถึงอีกต่อไป เราอยากให้ทุกคนจดจำในแบรนด์สลิมมิ่ง พลัสฯ ดังนั้นตัวแบรนด์เองต้องแข็งแรง เธอก็จะอยู่เบื้องหลังให้คำแนะนำองค์ประกอบสำคัญกับทีมงาน ต้องให้ความรู้จริงกับลูกค้า จริงๆ ผู้หญิงทุกคนอยากสวย อยากรูปร่างดี อยากสมบูรณ์แบบ แต่สวยกับงามก็ไม่เหมือนกัน ปัญหาเรื่องรูปร่างกับผิวพรรณของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ต้องให้ความรู้แต่ละบุคคลไป
ชีวิตนักแสดงและบทบาทคุณแม่
ในแง่การเป็นดาราที่ติดตัวสิเรียมนานนับ 20 ปี มีฐานแฟนคลับมากจำนวนหนึ่งซึ่งทำให้เธอรู้สึกดีและขอบคุณที่ทำให้ยังมี สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ อยู่จนมาถึงทุกวันนี้
“รู้สึกดีใจที่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากแฟนๆ ที่ให้โอกาส ทำให้แอนได้พัฒนาและปรับตัวเองในบุคลิกที่เปลี่ยนไป แอนเป็นคนที่รักและเกิดในวงการบันเทิงมาตั้งแต่อายุ 14 ตอนนี้ 41 ถือว่ายาวนานพอสมควร เวลาขาขึ้นมีชื่อเสียงโด่งดัง บางทีเราอาจจะลืมตัวหรือทำอะไรผิดพลาดบ้าง แต่วันหนึ่งพอเรามองย้อนกลับมามองตัวเอง เราต้องกำหนดทิศทางชีวิตของเราแล้วล่ะ ว่าเราอยากจะเดินไปในทิศทางไหน ในเมื่อชีวิตเราโตขึ้น เราก็อยากทำงานที่ตื่นเต้นมากขึ้น
พูดจริงๆ อาชีพนักแสดงก็ไม่มีอะไรที่ทำให้ชีวิตของเราตื่นเต้นเหมือนเดิมแล้ว เราก็อยากหาอะไรที่เปลี่ยนตัวเราเองบ้าง การทำงานถ้าหมดความตื่นเต้นก็เหมือนหมดไฟในชีวิต ก็จะไม่มีงานอะไรที่สร้างสรรค์หรือพัฒนามากไปกว่านั้น แต่ในช่วงเวลาที่แอนออกไปจากวงการ ช่วงนั้นมันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก แอนต้องยอมสำหรับคนเป็นแม่ทุกคน แอนเชื่อว่า เวลาเรามีจุดหนึ่ง บางทีเราต้องเลือกตัดสินใจ เราโตมากขึ้น เรื่องจะให้มาตัดสินใจมีมากขึ้น ดังนั้นการที่เราต้องไปดูแลลูก เราจะสามารถทำอะไรที่ซับพอร์ตงานเราได้บ้าง การเป็นนักแสดงแอนต้องตามคิวเขา แอนไม่สามารถกำหนดชีวิตตัวเองได้ แต่ถ้าเราเป็นเจ้าของกิจการของตัวเองสักอย่าง เรากำหนดได้”
ข่าวไหนกระทบใจมากสุด
อยู่ในวงการบันเทิงนาน 20 ปี ข่าวไหนกระทบใจสุด? (สิเรียมทำท่าครุ่นคิดและตอบว่า)
“แอนมองว่าทุกอย่างผ่านเข้ามาแล้วก็จะผ่านไป มันเป็นช่วงจังหวะปัญหาชีวิตที่ทุกคนต้องเจอ ถ้าเรามองดูและคิดบวกก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง อย่างข่าวกับคุณพายัพก็ถือเป็นข่าวที่แรงที่สุด แต่ประเด็นนี้แอนได้ชี้แจงไปหลายรอบว่า ไม่มีอะไรเป็นแค่ผู้ใหญ่ที่เราเคารพ แต่เรื่องก็ไม่จบสิ้น เป็นสิ่งที่น่ารำคาญใจพอสมควร แล้วก็ไม่มีอะไรจะตอบอีกแล้วสำหรับเรื่องนี้ ไม่รู้ว่าต้องพูดกันไปอีกจนต้องจากกันไปข้างหนึ่งเลยเหรอ แอนคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ผ่านเข้ามาแล้วเราก็เข้าใจ เราก็บอกไปตามนี้ เชื่อก็เชื่อ ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร (หัวเราะ)”
ชีวิตที่อังกฤษ
สิเรียม บอกว่า ตอนนี้ลูกสาวนนนี่เรียนโรงเรียนประจำอยู่ที่อังกฤษ และมีกำหนดกลับบ้านเมื่อโรงเรียนปิดเทอมปีละ 5 ครั้ง เมื่อลูกปิดเทอมเธอจะบินจากเมืองไทยไปอยู่เป็นเพื่อนลูกสาวที่อังกฤษ ซึ่งไม่เป็นปัญหากับการทำธุรกิจ เพราะเธออยู่ในฐานผู้บริหารจึงไม่ต้องนั่งบริหารงานทุกวัน เพราะได้มอบหมายให้ซีอีโอดูแลธุรกิจบ้างบางส่วน
“เป็นผู้บริหารไม่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน เรามองและตัดสินใจในภาพรวม ชีวิตประจำวันที่อังกฤษของแอนเป็นชีวิตที่ธรรมดาและเรียบง่าย ไม่ต้องแต่งตัว อาศัยความจริงใจต่อกัน อยู่ร่วมกัน ลูกก็ไปโรงเรียน แม่ก็ทำนู้นทำนี่ไป แอนก็ดูแลลูก เป็นแม่ครัว ทำข้าวกล่องให้ลูกไปกินโรงเรียน แอนจะบินไปกลับตามวันหยุดลูก อย่างหยุดอีสเตอร์ 20 วัน แอนจะบินไปอยู่กับลูกเป็นเพื่อนลูก ช่วงนี้เรียกว่าชีวิตแอนรู้สึกสบาย อยู่ได้แบบไม่มีเรื่องมากังวลใจอะไรมากมาย ใช้ชีวิตในแบบที่เราอยากใช้ อยู่ในแบบที่เราสามารถออกแบบชีวิตตัวเองได้ และแอนก็ได้ออกแบบชีวิตแอนให้เป็นแบบนี้ แอนเชื่อว่าโลกนี้ยังมีสิ่งอื่นที่ให้น่าศึกษา น่าเรียนรู้ติดตามอีกเยอะแยะมากมาย
สิ่งที่แอนคาดหวัง จริงๆ ชีวิตไม่มีอะไรมาก แค่งานและครอบครัวและตัวเอง แอนก็ได้วางงานและเราได้หุ้นส่วนได้พาร์ตเนอร์ที่ดี อยากให้ลูกน้องมีความสุข ทำงานออกมาดี ด้านครอบครัวเราก็ดูแลลูก ดูแลแม่ของเราให้ดีเต็มความสามารถ ที่เหลือเป็นชีวิตของเราเอง แอนชอบออกกำลังกาย ทำบุญ สนับสนุนพระศาสนา ทำอะไรที่อยากทำเท่านั้นเอง”
เรื่องหัวใจ ชีวิตความรักตอนนี้ของเธอ สิเรียมเปิดเผยว่า ไม่มีอะไรหวือหวา แค่ยอมรับกับมันให้ได้ อะไรที่ไม่ดีแก้ไข
“ชีวิตเราต้องจัดสมดุลให้ได้ อะไรที่ไม่ดีก็แก้ไข แอนยึดหลักนี้มาตลอด ตอนนี้ความรักแอนไม่รู้สึกตื่นเต้น ไม่ใช่สิ่งสำคัญอันดับหนึ่งอีกต่อไป ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ ตอนนี้แอนรู้สึกตื่นเต้นกับงานกับธุรกิจ เพราะเติบโตขึ้นมีลูกน้องมากขึ้นถึง 500 คน รู้สึกสนุกกับงานที่ท้าทายมากขึ้น”
เคล็ดลับความงามของแอน
อดีตนางเอกยอดนิยมแนะการดูแลรูปร่างให้สวยคงทนแบบนี้ได้ ทั้งดูแลควบคู่กันหมด ทั้งการออกกำลังกาย เลือกรับประทานอาหารที่ดีและนวัตกรรม เพราะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากไปก็ไม่ดี
ผิว เมื่อก่อนสิเรียมบอกว่า เป็นคนผิวแห้งมาก แต่ปัจจุบันด้วยการดูแลผิว บำรุงผิวหน้าผิวตัวอย่างสม่ำเสมอ สภาพผิวจึงเปลี่ยนไป จนช่างแต่งหน้าประจำทักว่า สภาพผิวหน้าเธอไม่แห้งเหมือนเก่าแล้ว
“ในขณะที่แอนอายุ 41 แล้ว โอกาสที่ผิวจะแห้งหนักกว่าเดิมมีค่อนข้างมาก จากการเดินทางบ่อย แอนพบครีมและเลือกใช้ให้เหมาะกับตัวเอง ผิวจึงปรับสภาพไป เดี๋ยวนี้หน้าไม่แห้ง ความเหี่ยวจึงไม่มาเยือน เพราะหากผิวแห้งหากเกิดริ้วรอยจะเห็นชัด ดังนั้นคนหน้ามันดีตรงหน้าจะชุ่มชื้น แต่ตรงควบคุมเรื่องความมันให้ดี ต้องมีวินัยกับตัวเอง”
การกิน สำคัญมากต้องดูแลเป็นพิเศษ แต่ไม่จำกัดการกินตลอดเดือน แต่ภายใน 1 วัน ใน 1 สัปดาห์ จะปล่อยฟรีหนึ่งวัน อยากกินอะไรก็กิน
“วันไดเอตสุดๆ เพราะอีก 3 วัน ต้องใส่ชุดฟิตสวยแป๊ะ ก็จะควบคุมอาหารจริงจัง ลดคาร์โบไฮเดรตโดยกินมื้อเช้า เป็นคนติดนิสัยตื่นตอนเช้าต้องกินเลย มื้อเย็นกิน แต่เลือกทานเฉพาะเนื้อสีขาวของปลา ไก่ เนื้อแดงที่เป็นเนื้อหมูไม่กินเลยเพราะไขมันเยอะ พอร่างกายเราควบคุมปริมาณอาหารได้ กระเพาะจะหดตัวมีขนาดเล็กลง แอนจะควบคุมปริมาณอาหารมื้อละน้อยๆ กินวันหนึ่ง 5 มื้อ”


