posttoday

ยี่สิบนาฬิกา ศูนย์วินาที ที่เทียนอันเหมิน

11 มีนาคม 2555

ฐานะของปักกิ่งโฮเต็ลคงเปรียบได้กับวัลดอร์ฟ แอสโทเรีย แห่งนิวยอร์ก หรืออิมพีเรียล โฮเต็ล แห่งโตเกียว ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักเพียงไร

ฐานะของปักกิ่งโฮเต็ลคงเปรียบได้กับวัลดอร์ฟ แอสโทเรีย แห่งนิวยอร์ก หรืออิมพีเรียล โฮเต็ล แห่งโตเกียว ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักเพียงไร

อัครสถานแห่งการพักแรมและเลี้ยงต้อนรับอันหรูหรา ตั้งอยู่ห่างจากจัตุรัสเทียนอันเหมินในระยะเพียง 500 เมตร ความใกล้ชิดเพียงแค่นี้ไม่สมควรทิ้งเวลาให้เปล่าประโยชน์ แม้ว่าเวลาที่คุณมีสำหรับการเยี่ยมชมเทียนอันเหมินจะมีอยู่น้อยนิด และมันเป็นช่วงเวลาระหว่างกลางดึก และเช้าตรู่ก็ตาม

ในแต่ละวันมีผู้คนนับล้านที่สัมผัสเท้า หรือหายใจรดความกว้างของเทียนอันเหมิน การผ่านที่ปราศจากการทักทายของเปกินนีสหลายแสนคนหมายถึงการพบหน้ากันทุกวันจนเอียน แต่สายตาของทัวริสต์อีกหลายหมื่นคือประกายของความตื่นเต้น เทียนอันเหมินยังรอผู้สังเกตการณ์อย่างไม่ขาดสายต่อไป รวมถึงความคิดที่กำลังเดินทางของผม

คืนแรกในห้องอบอ้าว (เพราะใครบางคนเผลอเปิดฮีตเตอร์ทั้งๆ ที่ฤดูกาลชุนเทียนกำลังอุ่นได้ที่เพราะอากาศปิดตาย!) จู่ๆ นักแรมทางลืมตาตาลุกโพลงในเวลาที่นาฬิกาวิ่งมาที่เลขสิบสองของคืนดาวดับ เขานอนกระสับกระส่ายจนรำคาญตัวเอง

ความคิดเดียวที่มีคงเป็นการหนีความเงียบงันอันแสนหรูหราของโรงแรมโอ่โถง พยายามลัดเลาะซอกมุมต่างๆ ของย่านหวางฟู่จิงหมายจะหายานอนหลับชนิดน้ำได้ดับความงุ่นง่าน แต่ร้านรวงปิดบริการอย่างรวดเร็วเพียงแค่หัวค่ำ ไม่มีวี่แววของทิวแถวร้านค้าบนถนน... ไม่มีเพิงขายอาหารเปิบพิสดาร ปลาดาวทอดกรอบ แมงป่องเทมปุระ จนถึงอาหารสามัญประจำบ้านของชนเผ่าหุย หอมกรุ่นเครื่องเทศในน้ำสตูว์เนื้อแพะ

มีเพียงร้านของชำเล็กๆ ซ่อนตัวในบางมุมของอาคารใหญ่บนถนน หลังจากลัดเลาะผ่านเส้นทางที่มุ่งสู่ประตูตงฉางเหมิน ผู้มาเยือนสื่อสารด้วยภาษามือจนสามารถซื้อสุราท้องถิ่นในราคาถูกเหลือเชื่อ เหล้าดาวแดง–เกาเหลียงเอื้ออาทร ขนาดพกพาเท่ากับขวดแบนขนาดหนึ่งก๊ก

แต่อานุภาพไม่กั๊ก ด้วยระดับความมึนเมาถึง 50 พรูฟ! ดีกรีรุนแรงขนาดนี้สามารถราดทิ้งแล้วจุดไฟติดเป็นกองเพลิงโชติช่วง

แต่ในอากาศหนาวพอควรของชุนเทียนยามค่ำคืนไม่มีอะไรดับหนาวภายนอกดีไปกว่าเหล้าเกาเหลียง ราคาประชาชน มันยังเป็นเพื่อนชาวจีนที่ดีในเวลาที่เข็มนาฬิกาพลอยจะหลับใหลไปพร้อมกับนคร

ในความเงียบงันนั้น เขาพาเท้าทั้งสองมาถึงมุมด้านทิศตะวันออกของเทียนอันเหมินในบริเวณประชิดประตูใหญ่ในชื่อเดียวกับจัตุรัส หลังจากย่ำผ่านความสลัวของหูถง (อาคารที่พักแบบโบราณในลักษณะเปิดลานกว้างและประกบด้วยอาคารสี่ด้านหรือมากกว่านั้น) บางย่านและคฤหาสน์โบราณบางแห่ง

คล้ายกับว่ามีเสียงเพรียกจากมหาจัตุรัสให้เขาเดินทางมาให้ในยามวิกาลอย่างน่าสนเท่ห์

ยี่สิบนาฬิกา ศูนย์วินาที ที่เทียนอันเหมิน

 

ใครบ้างที่เที่ยวชมเทียนอันเหมินในความเงียบกริบของปักกิ่ง?

คือผู้มาเยือนอย่างสดใหม่จากแผ่นดินแดนใต้ ทัวริสต์ยูโรเปียนบางคู่กระตือรือร้นกับบางมุมของจัตุรัสในช่วงเวลาไร้แสงเจิดจ้าของวัน พ่อค้าแม่ขายของที่ระลึก พวกนั้นมีทุกอย่างที่คุณอยากได้ ยกเว้นรองเท้าแตะของเหมาเจ๋อตง (แต่ถ้าคุณซื้อมาได้ หมายความว่าคุณโดนต้มซะแล้ว)

ทหารเวรเฝ้าระวังทุกมุมของจัตุรัส บางคนกระซิบว่ามีอีกนับร้อยในคราบของเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบคอยสอดส่องความเป็นไปของที่นี่ หากในบางช่วงนาฬิกาที่ต้องการพักผ่อน พวกเขาเหล่านั้นอาจปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกล้องวงจรปิด (CCTVการสอดส่องของกล้องชนิดนี้กลับมีชื่อเดียวกับสถานีโทรทัศน์หลักประเทศ มันบ่งนัยถึงการสอดส่องอย่างไม่วางตาของนายใหญ่แห่งปักกิ่งหรืออย่างไรไม่ทราบ!?)

ในความสลัวของแสงไฟเป็นระยะจากฝั่งของประตูเทียนอันเหมิน สายตาพอมองเห็นอนุสาวรีย์วีรชนตั้งตระหง่านในความมืด เสาธงที่สูงที่สุดในแผ่นดินใหญ่ปราศจากธง มันถูกชักลงก่อนในเย็นวันนั้น แต่จะพิธีการยิ่งใหญ่อย่างสมเกียรติของการชักขึ้นอีกครั้งในช่วงเช้าตรู่ เมื่อหรี่สายตาคุณอาจมองเห็นสุสานประธานเหมา แต่คุณจะไม่เห็นประตูเฉียนเหมิน ซึ่งครั้งหนึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเข้าสู่เขตเมืองปักกิ่งอย่างเป็นทางการ

สถานที่สำคัญทั้งหมดจมอยู่ในความมืดและบรรยากาศอึดอัดของปักกิ่งฤดูหมิ่นเหม่กับความร้อนและลมเย็นบางช่วง นักแรมทางมองเห็นบางร่างเคลื่อนไหวในความสนธยานั้น แต่ไม่มีเสียงหัวเราะ ร้องไห้ บึ้งตึง หรือรอยยิ้ม มันคือความเคลื่อนไหวอย่างเงียบกริบของหลายชีวิตที่ไม่อาจพาตัวเองให้พ้นจากจัตุรัสขนาดกว้างกว่าสนามหลวงถึง 3 เท่า

บางนาทีขณะนั้นเขาพานนึกถึงหลายชีวิตที่พันธนาการตัวเองกับความเวิ้งว้างของสนามหลวงผู้แรมทางจากหลายส่วนของแผ่นดิน คนเก็บเงาตัวเองอย่างเลื่อนลอย และบางคนเก็บลมหายจากการพลีร่าง และบางคนเก็บความแค้นไว้ในความฝันก่อนล้มตัวนอนอาบน้ำค้าง แม้นวันนี้สนามหลวงจะถูกขัดสีฉวีวรรณจนไม่เหลือคราบ แต่เรื่องราวชีวิตผู้คนที่เคยทอดกายเหนือสนามหญ้า จะไม่มีใครหน้าไหนขจัดออกไปได้ อย่างน้อยก็จากความทรงจำของเขา

ในความเรียบร้อยน่าชื่นชม เทียนอันเหมินยังปรากฏภาพรำลึกจากสนามหลวง

บนทางเข้าฝั่งพระราชวังต้องห้าม เบื้องหน้าประตูเทียนอันเหมิน ในเวลาที่กำหนดไว้ ทหารหนุ่มสามนายจะเดินในจังหวะพร้อมเพรียง ไล่จากปลายมุมสู่อีกมุมหน้าประตูเทียนอันเหมิน ราวกับการสวนสนามขนาดกะทัดรัด ความมีวินัยจัดของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนสำแดงออกจากดวงหน้าของทหารหนุ่มเหล่านี้ และสาดประกายเคร่งขรึมจนทุกคนในที่นั้นต้องหลีกทางให้พวกเขา

นอกจากผู้มาเยือนเป็นครั้งคราว บุคคลที่เหลือในจัตุรัส คือผู้แรมทางไร้ที่พักพิง

คนหนุ่มพบหญิงวัยกลางคนซุกตัวในพุ่มไม้ซุกตัวเองจากลมวู่หวิวที่พัดพรูสู่ลานกว้างของจัตุรัส ผู้ชายอีกคนเดินซุกมือในเสื้อนวมขาดวิ่น เขาคงกำลังหาที่ซุกเงาของเขาเหมือนกันในคืนที่เท่าไหร่ไม่รู้ของการเดินทางอย่างไร้จุดหมายในปักกิ่ง

แม่ลูกอ่อนร้องขออะไรบางอย่างจากผู้ผ่านทาง ภาษาถิ่นของหล่อนบอกถึงการเดินทางไกลจากบางมณฑลถึงศูนย์กลางของจีน แม้จะสบตากับความระทมแต่ผู้แรมทางจากแผ่นดินที่ไกลกว่า ทำได้เพียงเดินผ่านไปและผายมือออกในความหมายถึงการไม่เข้าใจในความหมายที่พร่ำพูด แม้นจะทราบเจตนาของหล่อนที่แสดงออกด้วยมือยื่นขอก็ตาม

ที่ด้านหน้าสะพานหินที่เชื่อมระหว่างคูขุดกับกำแพงประตูเทียนอันเหมิน แม่เฒ่าในชุดรุ่มร่ามห่อห่มตัวเองด้วยเศษผ้าเหลือทิ้งเพื่อปกปิดร่างกายจากความหนาวเหน็บ จู่ๆ โผล่ออกมาจากพุ่มไม้ใกล้กับเสาหินอนุสรณ์หูเปียวในเวลาเดียวกับที่กลุ่มทหารหนุ่มเดินผ่านบริเวณนั้นพอดี

หัวหน้ากองทหารสามนายหยุดกึก ในท่วงท่าเที่ยงตรงราวกับหุ่นยนต์ ปล่อยให้นายทหารติดตามอีกสองนายรวบเท้าลงในท่าตามระเบียบพักอยู่กับที่ เขาผู้นั้นเพียงตวัดใบหน้าขวับปราดสายตาเขม็งราวกับเหยี่ยวฉกรรจ์หมายเหยื่อ แล้วยกมือวาดขึ้นในองศาตรงแน่วไปที่หญิงชราผู้นั้น นางถึงกับลุกลี้ลุกลนหอบสังขารตัวเองหลบจากการบดบังภาพสีน้ำมันขนาดสิบคนโอบของประธานเหมาที่เงาของนางบดบังอยู่ และหายไปในความมืดบางมุมของจัตุรัส!

เปล่า! เงาของแม่เฒ่าไม่เพียงพอที่จะบดบังภาพนั้นหรือกระทั่งทำอันตรายภาพเหมือนเหมาเจ๋อตงที่ประดับเหนืออุโมงค์ทางเข้าเทียนอันเหมินขนาดความสูงกว่า 5 เมตร เพียงแต่การปรากฏของหล่นบดบัง “กฤษดานุภาพ” อันแตะต้องมิได้ของท่านประธานต่างหาก

ในภาพสีน้ำมันขนาดใหญ่กว่าฝาบ้านเศรษฐีในกรุงเทพฯ เหมาเจ๋อตง ยังคงปริรอยยิ้มบางเบา สายตาเหม่อมองไปข้างหน้า ไม่รู้ว่ากำลังเพ่งไปที่สุสานของเขากลางจัตุรัส หรือมองเลยไปยังอดีตที่เขาจากมา?

ประธานเหมาอาจจะระแคะระคายหรือไม่อย่างไร แต่บางครั้งเวรยามผู้เฝ้าระวังเกียรติยศของเหมาเจ๋อตง และเทียนอันเหมิน ไม่ได้รับความร่วมมือด้วยดีจากบรรดา Homeless

บางคนสะบัดแขนที่จับกุมอย่างสุดแรง และบริภาษอย่างเดือดดาล ตวาดว่า กูขอแค่ที่ว่างหนึ่งคืน แล้วก็จะหิ้วตูดกลับส่านซีแล้ว ไม่ต้องมายุ่งโว้ย!

บางคนก้มลงกราบกรานและร้องขออีกหนึ่งคืนในเทียนอันเหมิน แต่คนผู้นั้นกลับก้มลงยื้อบู๊ตทหารหนุ่มอย่างน่ารำคาญ

บางคนมาพร้อมกับป้ายประท้วง ประณามความฉ้อฉลของเจ้าหน้าที่รัฐ ความกล้าของคนเหล่านี้จะปรากฏขึ้นและหายไปอย่างรวดเร็ว ด้วยความสามารถของตำรวจนอกเครื่องแบบ แต่แล้วเขาผู้นี้ และอีกนับร้อยนับพันจะกลับมาอีกครั้ง

ความขัดแย้งปรากฏที่นี่อยู่ทุกช่วงเวลา โดยเฉพาะในยุคที่จีนสงบราบคาบทางการเมือง แต่ปราศจากความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจ คนรวยและคนจนเริ่มอยู่ห่างจากกันทุกที จากยุคเดิมที่ทุกคนบนลานจัตุรัสเคยอยู่ในชุดกรรมาชีพอย่างเท่าเทียม และอยู่และกินอย่างเท่าเทียมด้วยการจัดหาของรัฐ แต่วันนี้มันคืออดีตที่แม้กระทั่งรัฐยังเลี่ยงที่จะเอ่ยถึง

ยิ่งในวันที่การประชุมพรรคครั้งล่าสุด ณ มหาศาลาประชาชน (ณ มุมของจัตุรัสนี่เอง) บรรดาท่านผู้แทนล้วนพาเหรดกันมาในเครื่องแต่งกายแบรนด์เนมจนเป็นที่ประณามหยามเหยียดในความฟุ้งเฟ้อด้วยแล้ว ยากจะที่คิดว่าความเท่าเทียมในอดีตจะหวนกลับมา

ก็เช่นเดียวกับที่เทศบาลกรุงเทพมหานครไล่จับคนจรจัดที่อาศัยความโล่งแจ้งของสนามหลวงเป็นที่ซุกหัวนอน กวดไล่กันเป็นที่ชุลมุน เสือกไสไล่ส่งและยัดเยียดความเป็นคนนอกผู้รุกรานเมืองหลวงให้กับผู้คนเหล่านั้น หารู้ไม่ว่าที่ตรงนั้นคือที่พึ่งยามยากของคนกรุง

กรุงเทพฯ ไม่เคยเข้าใจต่างจังหวัดฉันใด ปักกิ่งสำหรับกรรมาชนที่กลับมาเย่อหยิ่งอีกครั้งในวันนี้ มีที่ว่างเหลืออยู่น้อยมากสำหรับผู้แสวงโชคจากต่างมณฑล

คนกรุงไม่จำเป็นจะต้องมีทะเบียนบ้านที่นี่ แค่คุณตกที่นั่งบางมุมของเมืองหลวงแล้ว คุณควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกับที่หลายคนได้รับการปฏิบัติอย่างดีจากคนบ้านนอก

ค่ำคืนในปักกิ่งผ่านไปอย่างเชื่องช้า และสลับร้อนและหนาว ฝันร้ายในความหรูหราของปักกิ่งโฮเต็ลทำให้คนจรจากบางกอกนึกถึงเกสต์เฮาส์ถูกๆ ในการเดินสู่บางเมือง ช่องว่างระหว่างความรวยและยากแค้นที่นี่

มันเริ่มทำร้ายมโนสำนึกของเขาอย่างเงียบกริบ!

ข่าวล่าสุด

ชี้จุด วิ่งฟรี มอเตอร์เวย์ M6 บางปะอิน - นครราชสีมา ต้องไปจุดไหน?