กุณฑิรา จุลสมัย เสริมทักษะครบวงจรเพื่อลูกน้อย
โดย...อณุศรา ทองอุไร
โดย...อณุศรา ทองอุไร
หญิงสาวหน้าคมเข้ม ท่าทางใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใส กุณฑิรา จุลสมัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท แพลนอิท คอนเซาส์แตนส์ เธอเกิดและเติบโตมาในครอบครัวที่ทุกคนในบ้านล้วนแต่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย หลังจบปริญญาตรีจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยเกียรตินิยมเหรียญทอง เธอก็ไปศึกษาต่อปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจที่ประเทศอังกฤษ และพบรักกับสามีชาวอังกฤษที่เป็นเพื่อนนักศึกษา ก่อนที่จะกลับมาแต่งงานที่ประเทศไทย โดยสามีก็มาเป็นอาจารย์สอนด้านการบริหารให้กับนักศึกษาภาคอินเตอร์ที่มหาวิทยาลัยชื่อดัง และเธอก็เป็นอาจารย์อยู่ระยะหนึ่ง
ก่อนที่จะมาเปิดบริษัทด้านแนะแนวการศึกษาในต่างประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นบริษัทแรกๆ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้อย่างลึกซึ้ง เน้นที่ประเทศอังกฤษโดยเฉพาะเพราะเธอและสามีมีความเชี่ยวชาญที่ประเทศนี้มากกว่าที่อื่น เมื่อ 15 ปีที่ผ่านมาในยุคแรกนั้น แนะนำและหาสถานที่ศึกษาให้กับนักศึกษาในระดับปริญญาโทเท่านั้น จนเมื่อ 9 ปีที่ผ่านมาเธอจึงขยายมาสำหรับผู้ที่ต้องการไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรีและตีวงแคบมาเรื่อยๆ จนมาถึงเด็กที่ต้องการไปเรียนต่อไฮสกูล จนถึงเด็กๆ ที่ผู้ปกครองต้องการส่งไปเรียนซัมเมอร์ช่วงปิดเทอม
นอกจากให้คำปรึกษา แนะแนว แนะนำ เด็กและผู้ปกครองที่ต้องการส่งลูกไปเรียนต่างประเทศแล้ว เธอยังเปิดสอนภาษาอังกฤษสำหรับผู้ที่ต้องการจะไปเรียนต่อต่างประเทศ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมก่อนการเดินทางเป็น คอร์สสั้นๆ 3 เดือน หรือ 6 เดือนก่อนเป็น Premaster
“ปัญหาของเด็กไทยที่ไม่ได้เรียนอินเตอร์ก็คือเวลาจะไปเรียนต่างประเทศ เสียเวลาเรียนภาษาที่นั่นอย่างน้อยครึ่งปี เพราะไม่คุ้นกับสำเนียงภาษา ไปแล้วฟังไม่ออก ต้องไปเสียเวลาปรับตัวนาน แถมค่าใช้จ่ายในต่างประเทศก็สูง เราจึงเปิดตรงนี้ให้ครบวงจร ที่สำคัญค่าใช้จ่ายถูกกว่าเยอะ โดยอาจารย์ที่มาสอนก็เป็นชาวอังกฤษที่สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยในเมืองไทย โดยเราจะมีตัวอย่างวิชาเรียน ข้อสอบ ในสาขาหรือคณะที่เด็กสนใจไปเรียนต่อเพื่อเป็นการเตรียมปรับตัวล่วงหน้า เด็กๆ จะได้ไม่รู้สึกกดดันมากเมื่อไปเรียนจริง ซึ่งได้ผลดีกับเด็กที่ลดความเครียดและวิตกกังวลไปได้เยอะ”
เธอยังเป็นคุณแม่ของลูกเล็กๆ ถึง 3 คน ในวัย 39 ขวบ ที่กำลังอยู่ในวัยเรียน และเธอก็ได้แรงบันดาลใจใหม่ที่ค้นพบว่า พ่อแม่สมัยนี้มักเป็นครอบครัวเดี่ยว อยู่กันตามลำพังพ่อแม่ลูก ไม่มีญาติผู้ใหญ่อยู่ที่บ้านช่วยดูแล เวลาเด็กเลิกเรียนเร็วก็ไปอยู่กับพี่เลี้ยง เล่นเกมหรือดูทีวี ฆ่าเวลาไปโดยไม่ได้ประโยชน์อะไร เธอจึงขยายงานให้ครบวงจรด้วยการเปิด Planit Education Centre กลางซอยสุขุมวิท 26 สำหรับเด็กๆ วัย 315 ปี ซึ่งถือว่าเป็นโรงเรียนเสริมทักษะที่ครบวงจร ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ เลข ศิลปะวาดรูปปั้น และจิตวิทยา
“เราหาสิ่งดีๆ ให้กับลูกของเรา ก็อยากแบ่งปันให้ลูกคนอื่นด้วย ไหนๆ ก็ทำแล้วทำให้ดีๆ ปเลย”
เธอบอกว่าที่นี่ไม่ใช่แค่โรงเรียนสอนพิเศษ ไม่ได้อัดวิชาให้เด็กๆ เรียนกันอย่างหนักหน่วงจนไม่ได้ลืมหูลืมตา แต่เป็นโรงเรียนที่ดูแลลูกแทนพ่อแม่ เช่น หลังเลิกเรียน เด็กๆ มาที่นี่ทางโรงเรียนจะช่วยสอนการบ้านให้ ซึ่งการเรียนการสอนที่นี่ใช้ภาษาอังกฤษ ยกเว้นวิชาภาษาไทย เมื่อเด็กๆ ทำการบ้านเสร็จ ก็จะมีวิชา NLP ซึ่งเป็นวิชาที่สอนให้เด็กสื่อสารใช้ภาษาแนวจิตวิทยาเป็นการสื่อสารกับคนอื่นๆ อย่างถูกต้อง เหมาะสม มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่เด็กๆ ในเรื่องการวางตัวที่ดี ถือเป็นทักษะเพิ่มในการใช้ชีวิตให้สมกับวัยของเด็ก ถ้ามีเวลาเหลือก่อนพ่อแม่จะมารับจะให้เด็กๆ ได้เล่นกีฬา มีทั้งว่ายน้ำ เตะฟุตบอล หรือตีแบด ซึ่งโรงเรียนจะมีสนามเล็กๆ ไว้รองรับ ให้เด็กได้วิ่งเล่นออกกำลังกาย มาเล่น มาเรียน ครบวงจร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเด็กที่เรียนอินเตอร์กันเยอะ
“ข้อดีของที่นี่คือ มันเป็นบ้านเก่า มีบริเวณ มีเนื้อที่ มีต้นไม้เขียวขจี มีที่เอาต์ดอร์ ทำให้เด็กรู้สึกเหมือนวิ่งเล่นในบ้าน ถ้าไปเรียนที่อื่นก็มักตั้งอยู่ในห้าง ไม่มีพื้นที่ เรียนๆ แล้วกลับ เด็กไม่รู้สึกผ่อนคลายเท่าที่ควร เราเปิดที่นี่ก็พยายามคิดแทนเด็กว่า เด็กๆ คงอยากอยู่ในที่โล่ง มีบริเวณ ได้วิ่งเล่นกับเพื่อนๆ บ้าง พ่อแม่ก็ไม่ต้องเสียเวลารอตามห้าง เสียเงินช็อปปิ้งระหว่างรอลูกอีก สิ้นเปลือง” เธอกล่าวทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้ม


