posttoday

บาร์เซโลนา..ตัวแปรรั้งเฟอร์กูสัน

22 มกราคม 2555

โดย...นูโน่

โดย...นูโน่

“ผมคิดว่าจะคุมทีมอีก 3 ปี ตราบใดที่ผมยังมีสุขภาพดี ตราบใดที่ผมยังสนุกกับการทำงานและยังได้รับความพอใจจากทีมในการทำให้ดีที่สุด”

เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เปิดเผยถึงอนาคตเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ก่อนจะมีรายงาน “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสนอสัญญาฉบับใหม่รับค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้น 60% เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อุ่นเครื่องข่าวดีก่อนทำศึก “บิ๊กแมตช์” กับ อาร์เซนอล วันนี้

ตอกย้ำความชัดเจนขึ้นอีก

ปัจจุบัน กุนซือชาวสกอตแลนด์รับค่าเหนื่อยอยู่ที่ 4 ล้านปอนด์ (ราว 196 ล้านบาท) ต่อปี แต่สัญญาฉบับใหม่ที่ได้รับจาก เดวิด กิลล์ ประธานบริหารแมนฯ ยูไนเต็ด เฟอร์กี จะได้รับค่าเหนื่อยเพิ่มเป็น 6.5 ล้านปอนด์ (ราว 318.5 ล้านบาท) โดยมีโบนัสอีก 1 ล้านปอนด์ หากคว้าแชมป์สำเร็จ

ด้วยตัวเลขดังกล่าว ทำให้ เฟอร์กูสัน จะขึ้นแท่นเป็นผู้จัดการทีมที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงสุดในประวัติ ศาสตร์พรีเมียร์ลีก แซงหน้า อาร์แซน เวนเกอร์ ของอาร์เซนอลทันที หากจรดปากกาเซ็นสัญญา

บาร์เซโลนา..ตัวแปรรั้งเฟอร์กูสัน

อย่างไรก็ตาม จากประวัติของบิ๊กบอสผีแดงบ่งบอกว่า เขาไม่ใช่ “คนเห็นแก่เงิน” เห็นได้จากการปฏิเสธโอกาสเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีม “สิงโตคำราม” อังกฤษ ถึง 2 ครั้ง 2 ครา ทั้งที่ข้อเสนอดังกล่าวน่าจะมาพร้อมกับเงินก้อนโตกว่าที่ได้รับอยู่ในการคุมทีมระดับสโมสรตอนนั้น

“ผมได้รับข้อเสนอให้คุมทีมชาติอังกฤษ 2 ครั้ง แต่นั่นไม่อยู่ในหัวผมเลย ถ้าผมรับก็คงเหมือนดื่มยาพิษจากจอกศักดิ์สิทธิ์ การเป็นสกอตติชจะทำให้ผมทำงานด้วยความอึดอัด”

คำให้สัมภาษณ์ครั้งหนึ่งกับทางสถานีโทรทัศน์แคนาดา ถึงการปฏิเสธข้อเสนอจากสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ในปี 1966 และ 1999 เป็นเครื่องยืนยันได้ส่วนหนึ่ง

ตรงกันข้าม หากเป้าหมายเบื้องหน้านั้นสามารถทำให้เขาสมหวังได้แล้ว ก็พร้อมจะเดินเข้าหา โดยที่เรื่อง “เงิน” หรือ “อายุ” ไม่ใช่อุปสรรคสำคัญ

“ผมไม่มีแผนจะเกษียณ และ เคธี (ภรรยา) ก็คงยินดี หากผมเลิก เธออาจไล่ผมออกจากบ้านเลยก็ได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ ตอนนี้สุขภาพผมยังดีอยู่ งั้นก็ทำต่อไป คุณได้ยินเรื่องราวมากมายของคนที่เลิกจากงานประจำที่ทำอยู่ แล้วสุขภาพก็แย่ลงไปเลย ผมไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้นกับผม”

ขณะที่ ถ้าเปรียบเทียบความสำเร็จและค่าตอบแทนกับเพื่อนร่วมอาชีพกุนซือด้วยกัน เฟอร์กูสัน ถือว่าได้น้อยกว่าที่คิด โดยอยู่อันดับ 4 ในอังกฤษ รองจาก ฟาบิโอ คาเปลโล (ทีมชาติอังกฤษ) เวนเกอร์ และ อังเดร วิลลาส โบอาส (เชลซี) ทั้งที่ประสบความสำเร็จสูงสุด

นั่นเพราะสิ่งสำคัญกว่า คือ ความท้าทาย

“มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยในตอนนี้ เมื่อเทียบกับปี 1993 มันเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ทุกคนได้แบ่งปันความสำเร็จร่วมกัน ผมมีความสุขเหมือนตอนได้แชมป์แรก มันกลายเป็นว่ายิ่งคุณอยู่กับทีมนานเท่าไหร่ มันก็ยิ่งท้าทายมากขึ้นเท่านั้น” เฟอร์กี กล่าว หลังพาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุด 19 สมัย

แต่ท้ายที่สุดแล้ว เป้าหมายอันแท้จริงที่อยู่ในใจของ เซอร์ อเล็กซ์ คือการเอาชนะ บาร์เซโลนา ให้ได้ หลังถูกยอดทีมจากคาตาลันยัดเยียดความผิดหวังในรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ให้ถึง 2 ครั้ง ในปี 2009 และ 2011

“เรายังต้องการคว้าแชมป์ลีกและไม่ต้องสงสัยเลยว่า การคว้าแชมป์ยูโรเปียน คัพ คือสิ่งสำคัญสำหรับสโมสรนี้ เราน่าจะผ่านเข้าชิงชนะเลิศอีกอย่างน้อย 3 ครั้ง ไม่ใช่เรื่องความโลภ ผมคิดว่าน่าจะเป็นแบบนั้น และการคว้าแชมป์มาแล้ว 2 สมัยถือเป็นความสำเร็จ มันพิเศษและยอดเยี่ยมมาก แต่ผมคิดว่าอยากจะทำให้ได้อีกครั้ง” กุนซือผีแดงกล่าว

อย่างที่เห็นกันอยู่ว่า เซอร์อเล็กซ์ นับเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องมองการณ์ไกลและเป็นหนึ่งในกุนซือที่โดดเด่นในแง่ของการบริหารจัดการนักเตะในทีมได้เป็นอย่างดี รวมทั้งการสร้างนักเตะดาวรุ่งขึ้นมาแจ้งเกิดและเป็นตัวหลักของทีมต่อไป ดูได้จากการทุ่มเงินซื้อแข้งดังเข้ามาเสริมทีมในช่วง 4 ปีล่าสุด (ไม่นับ แอชลีย์ ยัง ที่เพิ่งย้ายมาฤดูกาลนี้) ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ คือ ซูเปอร์สตาร์คนเดียว ที่เฟอร์กียอมแลกเงินก้อนโตมาเสริมทัพในปี 2008 ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับบรรดายักษ์ใหญ่ด้วยกัน แต่ก็ยังคว้าถ้วยมาประดับสโมสรได้ถึง 4 ใบ

ขณะที่ตัวหลักชุดปัจจุบันของผีแดงก็เป็นแข้งอายุน้อย ไม่ว่าจะเป็น เดวิด เด เคอา ผู้รักษาประตู คู่แฝด ดา ซิลวา ฟิล โจนส์ คริส สมอลลิง และแอชลีย์ ยัง ที่มีอนาคตสดใส ส่วน เวย์น รูนีย์ ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ และทอม เคลฟเวอร์ลีย์ ก็ยังพัฒนาได้อีก

บาร์เซโลนา..ตัวแปรรั้งเฟอร์กูสัน

ด้วยความสดบวกพรสวรรค์ของนักเตะเหล่านี้ น่าจะทำให้ เฟอร์กูสัน เชื่อว่า เขาและแมนฯ ยูไนเต็ด จะประกาศศักดาความยิ่งใหญ่และถอนแค้น บาร์เซโลนา และคว้าแชมป์ถ้วยใบใหญ่ยุโรปสมัยที่ 3 มาครองได้สำเร็จในช่วงเวลา 3 ปี

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมตระกูลเกลเซอร์ เจ้าของทีมผีแดงถึงพยายามให้รางวัลตอบแทน กุนซือ วีรกรรมไดรเป่าผม ซึ่งคว้าแชมป์ลีกมาครองถึง 4 สมัย นับตั้งแต่เจ้าของชาวอเมริกันเข้ามาเทกโอเวอร์สโมสรในปี 2005 โดยมีลุ้นแชมป์ตลอด ทั้งที่มีข้อจำกัดทางการเงินในการทำทีม อันเนื่องมาจากตระกูลเกลเซอร์สร้างหนี้สินท่วมหัว 433 ล้านปอนด์ (กว่า 2 หมื่นล้านบาท)

ยิ่งไปกว่านั้น เฟอร์กูสัน ไม่เพียงปฏิเสธที่จะประณามตระกูลเกลเซอร์ แต่ยังออกมาปกป้องการโจมตีจากแฟนบอลด้วยซ้ำ อย่างเช่นตัวอย่างล่าสุดในเดือน ธ.ค. เมื่อนายใหญ่ผีแดงออกมาบอกว่า เกลเซอร์ พร้อมจะสนับสนุนในการเปิดตลาดซื้อขายนักเตะช่วงนี้

“หากนักเตะท็อปคลาสสามารถย้ายมาได้จริงๆ เราจะยื่นข้อเสนอเพื่อคว้าตัวเขา แต่ผมขอย้ำว่างบในการซื้อนักเตะไม่ใช่ปัญหา หากมันจำเป็น”

เมื่อประกอบกับความสำเร็จที่ เซอร์อเล็กซ์ นำมาสู่โอลด์แทรฟฟอร์ดในช่วง 25 ปีล่าสุด ซึ่งรวมถึงแชมป์พรีเมียร์ลีก (นับจากเปลี่ยนชื่อ) 12 สมัย และแชมเปียนส์ลีก 2 สมัย ยิ่งยากจะมีเหตุผลใดมาขัดขวางไม่ให้เขาอยู่ในโอลด์แทรฟฟอร์ดตราบเท่าที่ต้องการ หรือไม่พยายามรั้งตัวเขาไว้ ไม่ว่าเป้าหมายหลักของ เฟอร์กี คืออะไร

อีก 3 ปีข้างหน้า ไม่ว่าเขาจะบรรลุเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ เชื่อว่า เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะเป็นตำนานที่ยิ่งใหญ่ของแมนฯ ยูไนเต็ด และไม่สายเกินไปสำหรับ “การล้างมือในอ่างทองคำ”  

 

ข่าวล่าสุด

เปิด Top 3 ดวงขึ้นแรงสุด 12 นักษัตร นักธุรกิจ ใครปัง รับปีม้าไฟ