posttoday

แม่สอด-เมียวดี

21 มกราคม 2555

ไปแม่สอดมาตั้งแต่ประมุขTheKaren National Union(KNU) สมัยนั้นคือโบเมียะหนุ่มยังไม่เสีย“วังข่า”

ไปแม่สอดมาตั้งแต่ประมุขTheKaren National Union(KNU) สมัยนั้นคือโบเมียะหนุ่มยังไม่เสีย“วังข่า”

โดย..จำลอง บุญสอง

ไปแม่สอดมาตั้งแต่ประมุขTheKaren National Union(KNU) สมัยนั้นคือโบเมียะหนุ่มยังไม่เสีย“วังข่า”ไปให้กับพม่า นับไปนับมาเวลาก็น่าจะเกินกว่า30ปีแล้ว แม่สอดในยุควังข่ารุ่งๆ นั้นยังทึมๆ ไปด้วยบ้านไม้สักแทบจะทุกหลังคาเรือน เพราะเมืองตากเป็นเมืองไม้สัก รอบๆ แม่สอดก็มีแต่ไม้สักทั้งที่เป็นต้นที่รอดจากสัมปทานป่าและต้นที่เพิ่งเกิด พื้นที่เมืองตาก ไล่ไปจนลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เป็นเมืองบนที่สูงกว่า1,500เมตรจากระดับน้ำทะเล อุณหภูมิก็เหมาะสมมีทั้งร้อนจัดและหนาวจัดเหมาะแก่การเจริญเติบโตของสัก ทำให้สักในย่านนี้ (รวมไปถึงรัฐกะเหรี่ยง) ถึงเมืองเนปิดอว์เมืองหลวงใหม่ของพม่า เป็นย่านที่มีไม้สักคุณภาพดีที่สุดในโลก (ก็ว่าได้)

แม่สอด-เมียวดี

ด้วยความที่เป็นพื้นที่มีสักมากนั่นเอง ที่ไปทำให้ชาวบ้านในแถบนั้น คือคนแม่สอด แม่สะเรียง พบพระ อุ้มผางขึ้นไปถึงแม่ฮ่องสอน เอามาทำบ้านกันแบบไม่กลัวเปลือง ไปทำรั้ว ทำเล้าหมู เหมือนไม่มีค่า จนเป็นที่อิจฉาของคนกรุงอีกต่างหาก เพราะ“บ้านหมู”บ้านนอกราคาแพงกว่า“บ้านคน”ในกรุง

สมัยที่อุนุซึ่งเคยเป็นนายกฯ ของพม่าหนีออกมาเพราะโดนเพื่อนรักคือ นายพลเนวิน (คนละเนวินเมืองบุรีรัมย์ที่พ่อตั้งเลียนแบบเนวินพม่า) ซึ่งเป็นมิตรที่ดีของโซเวียต“ยึดอำนาจ”ต้องแอบมาพึ่ง“ชนกลุ่มน้อย”เคลื่อนไหวกองกำลังอยู่ตามชายแดนไทย-พม่า อเมริกาซึ่งกลัวคอมมิวนิสต์ขี้แตกขี้แตน กลัวว่าคอมมิวนิสต์จีนจะ“ส่งออก” “ลัทธิ”มาตามเส้นทาง จีน-พม่า-ไทย ไหลเข้ามาฮุบไทยซึ่งเป็นหน้าด่านของโลกเสรีในภูมิภาคนี้ เปลี่ยนการปกครอง ผู้ปกครองไทยที่เป็น“คน”(ในจัดตั้ง) ของอเมริกาไปเป็นไทยคอมมิวนิสต์ที่มีผู้ปกครองเข้าข้างฝ่ายคอมมิวนิสต์ไป จึงเห็นเป็นโอกาสอันดีในการใช้พม่าสู้พม่า จึงโดดเข้าไปอุ้ม“อุนุ”เอาไว้เต็มกางเกง เพื่อใช้อุนุไปเป็นหอกข้างแคร่พม่าแบบเดียวกับที่ส่งอองซานซูจีลูกสาวอองซาน วีรบุรุษในสงครามอังกฤษ-ญี่ปุ่นที่แต่งงานกับคนอังกฤษเข้ามาเป็น“หอกข้างแคร่พม่า”ที่ไม่ยอมลงให้อเมริกาในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมานั่นเอง

แม่สอด-เมียวดี

โดยก่อนหน้านั้นก็Set upกองกำลังชนกลุ่มน้อย11กลุ่มเอาไว้ภายใต้ชื่อNDFหรือNational Democratic Frontเพื่อขวางการไหลลื่นของคอมมิวนิสต์ที่ไหลมาจากคอมมิวนิสต์จีน (จีนในสมัยเหมาเจ๋อตง“ส่งออก”ความช่วยเหลือให้พรรคคอมมิวนิสต์ทั่วโลก ต่างกับนโยบายของเลนินที่เสนอให้มีการอยู่ร่วมกันอย่างสันติระหว่างประเทศต่างลัทธิ เพราะเชื่อว่าอย่างไรเสียท้ายสุด“โลกทุนนิยม”ก็“ล่มสลาย”กลายเป็น“ประเทศสังคมนิยม”เอง อันเนื่องมาจากการผูกขาดของทุนจนทำให้เกิด“วิกฤตทั่วไป”ในโลก การคาดคะเนของเลนิน น่าจะปรากฏเป็นจริงแล้วในวันนี้ เพราะการผูกขาดทุน โดยมีตลาดหุ้นเป็นเครื่องมือ ทำให้ยุโรปและอเมริกาหมุนวงจรทุนนิยมไม่ออก เพราะกำลังซื้อของคนข้างล่างไม่มีแบบเดียวกับไทยที่กำลังพังอยู่ในเวลานี้ เพราะกำลังซื้อของกรรมกรชาวไร่ชาวนาไม่มีเพราะทุนผูกขาดไทย ธนาคารไทย (เจ้าของเป็นต่างชาติหรืออะไรก็แล้วแต่) ดูดเงินเอาไปกองไว้หน้าตักของตัวเองกันหมด ขยับตัวกันไม่ออกในเวลานี้)

แม่สอด-เมียวดี

อเมริกาอุ้มกองกำลังชนกลุ่มน้อยเอาไว้ไม่พอ ยังกระเตงก๊กมินตั๋งซึ่งหนีการล่าของฝ่ายคอมมิวนิสต์จากทางตอนใต้ของจีนเข้าพม่าและมาอยู่ตามตะเข็บชายแดนไทย-พม่า (ซึ่งเป็นที่มาของก๊กมินตั๋งที่ทำขาหมูหมั่นโถวตามที่ต่างๆ ของไทยคือที่แม่สลอง วาวี ให้นักท่องเที่ยวกินตอนนี้นี่แหละ) เอาไว้ด้วย เรื่องนี้ จอมพลสฤษดิ์ พล.อ.ถนอม ประภาส รู้ดี รวมทั้ง พล.อ.อ.ทวี จุลละทรัพย์ พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ในยุคนั้นด้วย น่าแปลกใจว่าประวัติศาสตร์หน้านี้ของไทย (อเมริกาอยู่เบื้องหลังการเมืองในภูมิภาคนี้) กลับมีนักวิชาการประวัติศาสตร์ไทยบันทึกเอาไว้ไม่มากนัก และไม่ละเอียดพอที่จะให้ประชาชนต่อจิ๊กซอว์ทางการเมืองได้ เพราะกลัวว่า จะไปกระทบกระเทือนต่อผู้ปกครองไทยที่ยังมีชีวิตอยู่เช่นเดียวกับเหตุการณ์14ต.ค.2516กับ6ต.ค.2519รู้กันเพียงไม่กี่คน พล.ต.สุดสาย ที่ว่าจะเปิดบันทึกลับแห่งชีวิตให้คนทั่วไปได้อ่านก็ไม่มีใครได้อ่านกันโดยทั่วไปไม่ใช่หรือ?

แม่สอด-เมียวดี

การต่อสู้ของชนกลุ่มน้อยพม่าภายใต้การสนับสนุนลับๆ ของมหาอำนาจอเมริกาก็เพื่อผลประโยชน์ของอเมริกาโดยมีประชาคมยุโรป“พันธมิตรทุนนิยม”ของอเมริกาเข้าร่วมด้วยช่วยกัน ก็ไม่ได้ทำให้พม่ากระเทือนซางนักเพราะพม่าไม่ได้แก้ผ้าให้อเมริกาซึมเข้าไปได้ง่ายๆ แบบไทย เพราะนอกจากพม่ามีหน่วยสืบราชการลับที่เข้มแข็งและกองทัพพม่ามี“จุดยืนพม่า”คือต่อต้านตะวันตกอย่างสุดฤทธิ์สุดเดชมาตั้งแต่ต่อต้านการล่าอาณานิคมสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ต่างกับกองทัพไทยที่อี๋อ๋อ จี๋จ๋ากับอเมริกาเพราะผู้ปกครองไทยเล่นไพ่อเมริกา เพื่อให้อเมริกาค้ำอำนาจแห่งความเป็นผู้ปกครองให้ จากปัจจัยนี้นี่แหละจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมกองกำลังชนกลุ่มน้อยพม่าจึงเข้าออกๆ เมืองไทยเหมือนเป็นบ้านของตัวเองโดยมีเอ็นจีโอต่างชาติ เอ็นจีโอนายหน้าไทย ยูเอ็นและประเทศพันธมิตรของอเมริกา“ปกป้อง”เอาไว้

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องลับอะไรหรอกครับ แต่เป็นเรื่องที่ไม่เปิดเผยกันให้คนไทยรู้ทั้งๆ ที่ควรจะเปิดเผย เพราะเรื่องราวเหล่านี้ ส่งผลกระทบต่อชีวิตคนไทย คนพม่าและเอกภาพของการกินดีอยู่ดีร่วมกันของคนในภูมิภาคนี้ทั้งหมด

ที่ไม่เปิดเผยก็เพราะว่าถ้าเปิดเผยแล้ว ประชาชนไทยจะไป“รู้ไส้รู้พุง”ผู้ปกครองไทยมากขึ้น การรู้มากขึ้นก็จะทำให้ผู้ปกครอง“ขี่คอ”ประชาชน“ลำบาก”ผู้ปกครองขี่คอประชาชนลำบาก มหาอำนาจก็ขี่คอ“ผู้ปกครอง”ที่ง่อนแง่นอย่างยากลำบากไปด้วยนั่นเอง

แม่สอด-เมียวดี

ผมได้รับเชิญจาก“หอการค้าตาก”ให้ไปฟังแถลงข่าว“จักรยานมิตรภาพ”แม่สอด-เมียวดีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา งานนี้จะจัดขึ้นระหว่าง2เมืองในวันที่11ก.พ.2555(สมัครได้ที่หอการค้าจังหวัดตากที่โทร.055-564-132หรือแฟกซ์055-564-131หรือผิดพลาด! การอ้างอิงการเชื่อมโยงหลายมิติไม่ถูกต้องสมัครตั้งแต่12ม.ค.2555ไปจนถึง10ก.พ.2555ค่าสมัครเด็ก100-150บาท ผู้ใหญ่200บาท

จักรยานมิตรภาพนี้เริ่มต้นมาจากคุณวิบูลย์ กาสมสัน และคุณบุ้ง นักข่าวสองสามีภรรยาที่ชอบขี่จักรยาน (สมัยโน้นนะครับเพราะสมัยก่อนยังจนๆ กันอยู่จึงมีเวลาว่างมาก ต่างกับสมัยนี้ที่รวย กินดีอยู่ดีอ้วนพุงกระเพื่อมไม่อยากขี่จักรยานเพราะช้าอยากขี่แต่รถเก๋งไปทำธุรกิจท่าเดียว) นำโครงการนี้ไปเข้าที่ประชุมหอการค้าที่คุณวิบูลย์เป็นกรรมการอยู่ด้วย หลังจากนั้นก็ทำต่อๆ กันเรื่อยมาไม่ว่าหอการค้ายุคนั้นๆ ประธานจะมาจากแม่สอดหรือตากก็ตาม

แม่สอด-เมียวดี

แต่โครงการจักรยานมิตรภาพนี้ก็“หยุด”ไปหลายครั้ง เพราะพม่าโกรธที่ไทยปล่อยให้“ชนกลุ่มน้อย”ที่มีที่พักพิงอยู่ตามตะเข็บแนวชายแดนไทยพม่า (ไม่ต้องบอกว่าอยู่ข้างไหนมากกว่าข้างไหนนะถึงจะมีเส้นแบ่งแน่นอน แต่ทำให้ดูไม่แน่นอนเพื่อความเบลอร์ของผู้คน) เข้าไปโจมตีเจ้าหน้าที่และก่อวินาศกรรมภายในเมืองของเขา

ที่หนักที่สุดก็คือในสมัย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี มี ผบ.ทบ.ชื่อ สุรยุทธ์ จุลานนท์ และมีแม่ทัพภาคที่สามชื่อ วัธนชัย ฉายเหมือนวงศ์ นั่นแหละที่มีกองกำลัง“ไม่ทราบฝ่าย”(ความจริงทราบแต่ไม่พูดกันเองนั่นแหละ) ยิงเข้าใส่โรงเรียนเด็กน้อย“ว้า”ที่ครอบครัวถูกต้อนลงมาจากภูเขา เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดในพม่า จนเด็กตายไปกว่า800คน โดยที่ พล.อ.ชวลิต เองก็ไม่รู้เรื่องนั่นแหละ (ผมไม่บอกว่าใครสั่งยิงนะพี่)

แม่สอด-เมียวดี

การปิดด่านครั้งสุดท้ายก็คือช่วงที่มีการเฉลิมฉลองปีใหม่ที่กองกำลัง“DKBAหรือที่หลายๆ คนเรียกว่ากองกำลังกะเหรี่ยงพุทธ (ที่ทะเลาะกับกองกำลังกะเหรี่ยงคริสต์ ฆ่ากันตายอย่างสยดสยองเมื่อหลายปีก่อนทำให้กะเหรี่ยงฝ่ายนับถือพุทธแยกตัวเข้าไปร่วมมือกับรัฐบาลพม่า โดยพม่าให้DKBAสามารถถือ“ปืน”ในฐานะกองกำลังร่วม (แบบ ตชด.ไทยนั่นแหละ) ได้ แต่ต้องมีหน้าที่ไปปกป้องการรุกรานของกะเหรี่ยงKNU(พวกKNUไม่ค่อยอยากให้เรียกกะเหรี่ยงพุทธกะเหรี่ยงคริสต์ เพราะจะไปทำให้KNUระดมแนวร่วมกะเหรี่ยงที่นับถือพุทธอยู่ในรัฐผาอ่าง กะเหรี่ยงพุทธที่อยู่ตามแนวชายแดนไทยได้ยากลำบาก เพราะความต่างศาสนาและจากการเรียกชื่อแบบแบ่งแยกนั่นเอง)พม่าใช้กะเหรี่ยงสู้กะเหรี่ยงแบบเดียวกับทหารไทยเคยใช้ทหารพรานซึ่งเป็นคนในพื้นที่สู้กับทหารคอมมิวนิสต์ที่เป็นคนในพื้นที่แบบเดียวกันเปี๊ยบ

แม่สอด-เมียวดี

ที่DKBAโจมตีพม่าพร้อมกันทั้งที่เมียวดีและเจดีย์สามองค์ก็เพราะตอนหลังๆ“รัฐบาลพม่า”เข้มงวดการถืออาวุธและจำกัดบทบาทของDKBAลง แบบเดียวกับรัฐบาลไทยสมัยถนอมประภาสจำกัดบทบาทของทหารพรานที่ไปรบในลาวลง จนถูกเจ้าพ่อทหารพรานในสมัยนั้น ร่วมมือกับนายทหารอีกหลายคนโค่นลงในยุค14ต.ค.นั่นแหละ (เพราะฉะนั้นการเคลื่อนไหว14ตุลาจึงไม่ใช่การเคลื่อนไหวต่อสู้ของนิสิตนักศึกษาอย่างที่เอามาคุยโม้กันแต่มีผลมาจากการแตกกันจากภายในระหว่าง“ผู้ปกครองกับผู้ปกครอง”เช่นเดียวกับการต่อสู้ของเหลืองVSแดงก็เป็นความแตกแยกภายในระหว่างผู้ปกครอง (ชนชั้น) เหลืองกับผู้ปกครอง (ชนชั้น) แดง ไม่ใช่การต่อสู้ของประชาชน ประชาชนที่เข้าร่วมสู้ในเหลืองในแดงก็เหมือนนิสิตนักศึกษาในสมัย14ตุลาก็คือมีบทบาทเป็นพียงแค่“เครื่องมือ”ที่มีชีวิตให้ผู้ปกครอง“เกชีวิตทับ”กัน เท่านั้น ใครจะเรียกคนตายเป็นวีรชนก็เรียกกันไปเถิดครับ ผมไม่เรียกด้วย เพราะยืนดูอยู่อย่างใกล้ชิดทั้งสองเหตุการณ์และก็ไม่พอใจมากที่รัฐบาลเอาเงินภาษีราษฎรไปเยียวยาให้กับคนเจ็บ-ตายในสงครามเหลืองแดง ที่คัดค้านก็เพราะการต่อสู้ของเหลืองแดง เป็นการต่อสู้ระหว่าง“ผู้ปกครอง”กับ“ผู้ปกครอง”หรือ จิ๊กโก๋2กลุ่ม ยกพวกตะลุมบอนกัน ก็ในเมื่อพวกคุณเอาคนไปตายเพื่อแย่งอำนาจกันเองแล้ว ทำไมคนดูที่ต้องเสียหายทางเศรษฐกิจไปกับการตีกันของพวกคุณกันเอง จะต้องถูกเก็บค่าดูไปให้คนที่ตีกันตายด้วย ผมไม่เข้าใจ เอาละคนบาดเจ็บและเสียชีวิตในเหตุการณ์จิ๊กโก๋ตีกันควรต้องได้รับการชดเชย แต่“เงิน”ที่จะนำไปชดเชยก็ควรจะเป็นเงินของพวกคุณๆ ที่ตีกัน จ่ายให้กันเอง เสือกจะมาเอาเงินคนอื่นไปใช้หนี้แทน ไม่มากไปหน่อยหรือเพื่อน?)

เมืองเมียวดีวันนี้ดูสภาพภายนอกเหมือนเมืองบ้านนอกๆ ของไทยแต่ลึกๆ ภายในแล้วกำลังเคลื่อนไปในทางบวกเหมือนคลื่นสึนามิอยู่ใต้น้ำ เพราะหลังจากที่พม่าใช้นโยบายแบบเดียวกับ66/23คือรุกทางการเมืองต่อทั้งชนกลุ่มน้อยและฝรั่งมหาอำนาจ ด้วยการทำให้เสรีภาพขึ้นมาเสมอกับอำนาจอธิปไตยแล้ว ย่อมจะไปทำให้พม่ามีอนาคตทางเศรษฐกิจที่ดีกว่าประเทศไทยแน่นอน เพราะเสรีภาพคือเศรษฐกิจ ดุลของอำนาจอธิปไตยกับเสรีภาพประชาชนคือการเมืองแบบประชาธิปไตย ซึ่งท้ายสุดบ้านเมืองพม่าก็สงบ เมื่อสงบก็มีแต่พัฒนาเศรษฐกิจไปอย่างเดียวไม่ต้องพะวงเรื่องสงครามกลางเมืองอีก บอกได้เลยว่าต่อไปในอนาคต คนพม่าที่มาใช้แรงงานในไทยจะเดินทางกลับพม่ากันเป็นระลอกๆ ที่เหลืออยู่ก็จะเป็นพม่าที่เข้ามาลงทุนในไทยเพราะเศรษฐกิจคนไทยจะแย่ลงเรื่อยๆ อันเนื่องจากสงครามกลางเมืองไทยยังไม่จบง่ายๆ

แม่สอด-เมียวดี

กะเหรี่ยงKNUเจรจากับรัฐบาลพม่าจบลงไปแล้ว กะเหรี่ยงที่ยังอยากจะคงกองกำลังเอาไว้อยู่ขืนช้าไปก็จะเสียโอกาสและกลายเป็นกองโจรเล็กๆ ไปแบบเดียวกับที่ ผกค.ไทยบางส่วนในอดีต ขนาดลูกพี่ฝรั่งยังวิ่งแข่งกันเข้าไปเป็น“ผู้ร่วมพัฒนาชาติพม่า”จนโรงแรมไม่ว่างเลย ลูกน้องไม่วิ่งตามก็หมดโอกาสเท่านั้น

ผมได้ไปเยือนตามวัดวาอารามต่างๆ ในเมียวดีหลายๆ วัด แม้วัดจะดูไม่เก๋ไก๋ อลังการแบบเดียวกับวัดในฝั่งไทยแต่ศรัทธาของคนพุทธพม่าก็เหนือกว่าฝั่งไทยมากนักแม้จะไม่เหมือนก่อนก็ตาม แต่ก็ยังมีคนไปนั่งสมาธิรอบๆ องค์เจดีย์ในยามเย็นทุกวัน ส่วนช่วงสำคัญทางศาสนา คนพม่า มอญ กะเหรี่ยง ปะโอ ก็แน่นวัดทั้งผู้ใหญ่และเด็ก

แม่สอด-เมียวดี

กลับมาดูฝั่งไทยเห็นวัดไทยสามัคคีที่ดูเก๋ไก๋อลังการ เพราะสร้างวัตถุมาจูงใจให้คนไปบริจาค สร้างห้องน้ำให้ดูสะอาดตา มีอาหารอร่อยๆ ให้สาธุชนกิน แต่ผมสงสัยว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นไปเพื่อการหลุดพ้นหรือเปล่าหรือเป็น“แรงขับ”จากภายในส่วนตัว

วันนี้พระไทยเอาศรัทธาของประชาชนมาสร้างถาวรวัตถุกันมากต่อมากแล้ว ยิ่งทำไปพระยิ่งห่างจากนิพพานไปทุกทีๆ ไม่ต้องพูดถึงโยมที่เข้ามาหาวัด พระพุทธเจ้าท่านให้พระเป็นผู้“ไม่มี”เป็นอริยะเพื่อจะเป็นพาหะจะพาคนข้ามไปให้ถึงฝั่งภพนิพพาน ผมเองไม่ปฏิเสธความสวย ความงาม ที่ท่านสร้างเอาไว้อย่างดีที่หนึ่ง แต่ใช้ให้มันเป็นประโยชน์ทางใด จิตหรือวัตถุ

แม่สอด-เมียวดี

อย่างไรก็ตามก็ต้องขอแนะนำให้คนที่ไปเที่ยวแม่สอดได้ไปชม“วัดไทยสามัคคี”ที่นั่นมีการจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและท่องเที่ยวเดินป่าไปที่น้ำตกแม่ภาษาและสอนการทำอาหารโดยการอำนวยการของวัดเพื่อหารายได้มาสู่ชุมชน ซึ่งน่าอนุโมทนาสาธุด้วยในประเด็นนี้ (ใครสนใจไปดูติดต่อ08-7308-1524คุณภิรมย์ ผู้ใหญ่บ้านไทยสามัคคี)

ผมเอารูปอื่นๆ เช่นการทำพลอยที่แม่สอด ตลาดเช้าที่แม่สอดและโรตีโอ่งที่แม่สอดมาให้ดูด้วยแต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพราะเข้าใจว่ามีคนเขียนถึงกันบ่อยๆ ครับ!

 

 

ข่าวล่าสุด

ชี้จุด วิ่งฟรี มอเตอร์เวย์ M6 บางปะอิน - นครราชสีมา ต้องไปจุดไหน?