ไป...ที่ชอบ
"มาช่วงหลังๆ ผมเห็นหลายคนชอบนำคำว่า “ไปที่ชอบๆ” มาแซวกันเล่นเวลาทักทายกัน แบบไปไหนมาสามวาสองศอก ส่วนตัวรู้สึกติดตลก มากกว่าจะตกอกตกใจว่าคนที่พูดนั้นจะแช่งชักหักกระดูกตัวเองหรือไม่"
"มาช่วงหลังๆ ผมเห็นหลายคนชอบนำคำว่า “ไปที่ชอบๆ” มาแซวกันเล่นเวลาทักทายกัน แบบไปไหนมาสามวาสองศอก ส่วนตัวรู้สึกติดตลก มากกว่าจะตกอกตกใจว่าคนที่พูดนั้นจะแช่งชักหักกระดูกตัวเองหรือไม่"
โดย...ปราฎา เหมทิวากร
ได้ฟังสำนวน “ไปที่ชอบๆ” มาตั้งแต่สมัยเด็กๆ...
เพราะเวลาจะอวยพรให้คนรู้จักมักคุ้นขึ้นสู่สรวงสวรรค์ ผู้ใหญ่ชอบพูดว่าให้ไปที่ชอบๆ เถอะนะ
หลังจากนั้นก็ไม่ได้ยินคำโบราณแบบนี้มานาน ...
ตอนหลังๆ มีการเปลี่ยนไปใช้สำนวนอื่นๆ เช่น คำว่า “ไปดี” หรือแสดงความเสียใจกันแบบตรงไปตรงมามากขึ้น
ผมไม่มีเวลาค้นคว้าศึกษาที่มาของสำนวนนี้ แต่ก็อดนิยมชมชอบคนรุ่นปู่ ย่า ตา ทวด ที่คิดถ้อยคำน่ารักๆ แบบนี้ไม่ได้
ทั้งที่ไม่มีใครรู้ว่าตายแล้วจะไปไหน ไปเป็นผี สาง นางไม้ ลงนรก หรือ ขึ้นสวรรค์ ก็ไม่มีใครรู้
แม้แต่องค์การนาซาที่ว่าไขรหัสจักรวาลอันไกลโพ้นได้ แต่ก็ยังไขความลับชีวิตหลังความตายไม่ได้
ถ้าลองคิดทบทวนให้ดีแล้ว คำคำนี้มันช่างลึกซึ้งกินใจ
เป็นอารมณ์ที่อยากแสดงความปรารถนาดีต่อผู้ที่จากไป...และเข้าใจว่าชีวิตหลังความตายอาจจะได้ไปในที่ที่ตัวเองชอบจริงๆ ผมคิดว่ายังมีสำนวนไทยๆ อีกเยอะแยะที่เรามองข้ามไปไม่เคยใส่ใจ
มาช่วงหลังๆ ผมเห็นหลายคนชอบนำคำว่า “ไปที่ชอบๆ” มาแซวกันเล่นเวลาทักทายกัน แบบไปไหนมาสามวาสองศอก
ส่วนตัวรู้สึกติดตลก มากกว่าจะตกอกตกใจว่าคนที่พูดนั้นจะแช่งชักหักกระดูกตัวเองหรือไม่
แถมออกจะชอบคำคำนี้ด้วยซ้ำเพราะมันแสดงความรู้สึกรักตัวเอง แบบ “อหังการ” หน่อยๆ ว่า “ถ้าไม่ชอบฉันก็จะไม่ไปด้วย”
และหากเราต้องเดินทางกับคนที่เราไม่ชอบ มันก็เสียเวลาเปล่าๆ ปลี้ๆ
ย้อนไปช่วงก่อนวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ผมบังเอิญได้ไปร้านหนังสือ (ที่ชอบ) ร้านหนึ่งในย่านนอตติงฮิลล์ กรุงลอนดอน
แน่นอน ร้าน “เดอะ ทราเวล บุ๊ก ช็อป” เป็นร้านหนังสือและเป็นจุดหมายปลายเท้าของคนที่มีหัวใจรักการเดินทางจริงๆ
ปัจจุบันร้านนี้เป็นร้านโด่งดังไปทั่วโลก เพราะเคยเป็นโลเกชันถ่ายทำภาพยนตร์โรแมนติกเรื่องนอตติงฮิลล์
คนที่เข้ามาซื้อหนังสือ คือจะมีทั้งนักเดินทางตัวจริง กับนักท่องเที่ยวที่อยากมาสัมผัสบรรยากาศของร้านหนังสือที่ ฮิวจ์ แกรนต์ เป็นเจ้าของร้านในภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว
ความโด่งดังของร้านทราเวล บุ๊ก ช็อป มันมีมากซะจนเจ้าของร้านตัวจริงต้องทำโปสต์การ์ดสีสดใสมาวางขายเป็นของที่ระลึกในราคาใบละ 1 ปอนด์
ผมเดินดูหนังสือในร้านที่มีมากมายหลายพันเล่มแล้วก็อดทึ่งไม่ได้ เพราะทุกหนังสือทุกเล่มมีไว้สำหรับนักเดินทางจริงๆ
ไล่ตั้งแต่แผนที่ที่ทำให้รู้ทุกองศาฟิลิบดา คู่มือท่องเที่ยวทุกซอกทุกมุมของโลก
หนังสือรวมภาพถ่ายแบบเบิร์ดอายวิว จนถึงเรื่องราวเชิงประวัติศาสตร์ที่|น่าสนใจมากๆ
ผมไปสะดุดตากับหนังสือเล่มหนึ่ง ที่วางโชว์อยู่บนชั้น “Journeys To Take Before You Die” แปลแบบไทยๆ ก็คือสถานที่ที่คุณต้องไปก่อนสิ้นลมหายใจ
เล่มนี้เขียนโดย สตีฟ วัตกินส์ และแคลร์ โจนส์ ออกกับสำนักพิมพ์บีบีซี สนนราคา 20 ปอนด์
เหตุที่ผมสนใจหนังสือเล่มนี้ ส่วนหนึ่งเพราะอยากรู้ว่าในหลายสถานที่ที่คนเขียนบอกว่าต้องไปก่อนตายน่ะ มีเมืองไทยอยู่ด้วยหรือเปล่า
สองคือซื้อมาเก็บเอาไว้เผื่อว่าวันหนึ่งจะได้ไปที่ชอบๆ จริงๆ จะได้มีไกด์บุ๊กเอาไว้นำทาง
พอพลิกเข้าไปดูรายละเอียดด้านใน ก็ตื่นตาตื่นใจกับสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆ จากทั่วโลกที่ถูกบรรจงเลือกเข้ามาบันทึกไว้
เรียกได้ว่าถ้าไปเที่ยวตามรอยคุณสตีฟ วัตกินส์ และแคลร์ โจนส์ หมดเมื่อไหร่ก็นอนตายตาหลับได้
ยกตัวอย่างเส้นทางที่น่าสนใจในหนังสือ อย่าง ทะเลใสราวแผ่นกระจกบนเกาะบาฮามาส วิคโลว์ เมืองแห่ง|ทุ่งหญ้าและคาราวานรถม้าในไอร์แลนด์
สถาปัตยกรรมแห่งยุโรปที่กรุงปราก แห่งสาธารณรัฐเช็ก ขับรถไปในเส้นทางแห่งธรรมชาติ ที่นิวอิงแลนด์ สหรัฐ นั่งรถไฟสายมหัศจรรย์ทรานส์-มองโกเลีย
ชมอภิมหาวิหารที่ออกแบบโดยเกาดี สุดยอดศิลปินกลางเมืองบาร์เซโลนา สเปน ล่องแม่น้ำอิระวดี ดูเมืองแห่งศิลปะในพม่า ไปซาฟารีที่ลำน้ำจิบบ์ในแถบคิมเบอร์ลีย์ ตะวันตกของทวีปออสเตรเลีย ตามรอยเส้นทางสายไหมจากปักกิ่งถึง|อุซเบกิสถาน
และที่ขาดไม่ได้เส้นทาง The Eastern and Oriental Express จากสิงคโปร์ถึงกรุงเทพฯ
โดยในหนังสือบอกว่าเป็นเส้นทางหนึ่งที่โรแมนติกมาก และได้เห็นวิถีชีวิตของคนในแถบตอนใต้ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างลึกซึ้ง
น่าเสียดายเหมือนกันที่เมืองมรดกโลกอย่าง อยุธยา สุโขทัย ไปจนถึงหมู่เกาะน้อยใหญ่ในภาคใต้ของไทย ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ในหนังสือเล่มนี้
...หรือจะมีเล่มสองตามออกมาก็ไม่ทราบได้
แต่ที่แน่ๆ สถานที่เหล่านี้ ต้องเป็นที่ที่คนเขียนชอบ จึงเลือกมาแนะนำให้คนอื่นๆ ได้ไปสัมผัสประสบการณ์ดีๆ บ้าง
ผมคิดว่าหลังจากนี้คงมีใครคิดทำไกด์บุ๊กด้านอื่นๆ ออกมาบ้าง
อย่างเช่น 100 เพลงที่ต้องฟังก่อนตาย หรือหนังที่ต้องดูก่อนจะลาโลกอะไรทำนองนั้น
ก็หวังแต่ว่าทุกคนจะมีโอกาสได้เดินทางไป ได้ฟัง ได้ชม และได้สัมผัส แต่สิ่งที่ตัวเองชอบตลอดไป...ก็คงจะดีไม่น้อย
ว่าแล้วก็ไปเก็บกระเป๋ากันเลยดีกว่ามั้ยครับ...


