โลกใบใหม่ในรั้วศรีปทุม"มาลิยา โตการค้า"

ดาวมหาวิทยาลัยสัปดาห์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่พาไปรู้จักกับ "มาลิยา โตการค้า" เฟรชชี่แห่งคณะนิเทศ ม.ศรีปทุม 

เรื่อง...โยธิน อยู่จงดี / ภาพ...กิจจา อภิชนรจเรข

เมื่อเด็กเรียนขี้อายคนหนึ่งซึ่งเดินชีวิตอยู่ในเส้นทางการเรียนมาโดยตลอด ได้ก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยศรีปทุม โลกใบใหม่จึงเปิดกว้างให้เธอได้เรียนรู้ชีวิตที่มีทั้งการเรียนและกิจกรรม ในตำแหน่งดาวคณะนิเทศศาสตร์ โดยไม่ได้คาดฝัน

สาวน้อยน่ารักอย่าง "น้องแนน-มาลิยา โตการค้า" ลูกสาวสุดหวงของคุณพ่อ มานพ โตการค้า เจ้าของธุรกิจจานดาวเทียมไอพีเอ็ม ยักษ์ใหญ่ในวงการจานดาวเทียม จะทำอย่างไรให้การเรียนและกิจกรรมเป็นช่วงเวลา 4 ปีที่มีค่า ก่อนเข้าสู่โลกการทำงานเพื่อช่วยธุรกิจของคุณพ่ออย่างเต็มตัว

สาวน้อยนักสร้างสรรค์

น้องแนนเล่าถึงเหตุผลที่เลือกเรียนคณะนิเทศศาสตร์ เอกวิทยุโทรทัศน์ ว่าอยากทำงานเบื้องหลังรายการโทรทัศน์ เพราะได้คลุกคลีอยู่กับงานของคุณพ่อ ซึ่งทำธุรกิจรายการโทรทัศน์ผ่านช่องดาวเทียมพอสมควร เป็นคนชอบคิดสิ่งแปลกใหม่ในทางสร้างสรรค์ จึงเลือกเรียนต่อทางด้านนี้เพื่อใช้ความคิดสร้างสรรค์

ทำรายการโทรทัศน์ใหม่ๆ สร้างสีสันให้กับผู้ชม เพราะเวลานี้การแข่งขันการทำรายการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมค่อนข้างสูง จึงอยากเน้นไปที่การทำรายการใหม่ๆ เอาใจกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น อย่างการทำรายการเอ็มวี หรือรายการการ์ตูน เพราะมองว่ากลุ่มวัยรุ่นน่าจะเป็นกลุ่มที่รับชมสื่อโทรทัศน์ต่อวันมากกว่ากลุ่มคนวัยทำงาน ที่เริ่มรับข่าวสารทางด้านอื่นๆ เช่น การรับข่าวทางโซเซียลมีเดียมากกว่า

ทำให้คุณพ่อของเธอสนับสนุนด้วยการพาไปเทสต์หน้ากล้อง หรือให้ลองคิดรายการใหม่ๆ ออกมาควบคู่ไปกับการเรียน ทำให้น้องแนนตั้งเป้าหมายเป็นผู้กำกับรายการโทรทัศน์ แม้ใครๆ จะบอกว่าน่าจะเหมาะกับการอยู่เบื้องหน้ามากกว่า โดยเฉพาะเพื่อนๆ จะเน้นให้เธอเป็นนางเอกหน้ากล้องในการถ่ายหนังสั้นส่งอาจารย์ และเป็นตัวแทนกลุ่มพรีเซนต์งานถนัดที่สุด อย่างไรก็ดี สำหรับน้องแนนการปรับตัวในปีแรกของการเรียน ยังคงเป็นเรื่องที่เธอต้องค่อยๆ เรียนรู้กันไป

ปรับตัวในรั้วมหาวิทยาลัย

การเรียนค่อนข้างปรับตัวยาก เวลาเรียนแต่ละวันไม่ตรงกัน บางวันกลับบ้านเร็ว บ้างวันกลับบ้านช้า กลัวจะกลายเป็นคนขี้เกียจเรื่องเรียนไปซะก่อน หลังๆ ก็เริ่มปรับตัวได้แต่ก็มีกิจกรรมทำค่อนข้างเยอะ เลยต้องใช้เวลาว่างระหว่างวิชาของวันไปทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ และของคณะ

อย่างตอนที่ได้เป็นดาวคณะก็ไม่เคยคิดฝันว่าจะได้เป็น เพราะมีคนที่เก่งและสวยกว่าเราหลายคน แต่พอได้รับโอกาสก็จะทำให้ดีที่สุด และเป็นตำแหน่งที่เปิดกว้างให้เราได้เรียนรู้ประสบการณ์จากกิจกรรมอื่นๆ ที่ตามมานอกจากเรื่องเรียน ซึ่งคุณพ่อก็เป็นห่วงกลัวว่าเราจะกลับบ้านดึกเกินไปแต่ท่านก็เข้าใจในจุดนี้

ส่วนเรื่องเรียนนั้นทำให้เรารู้หลักวิชาหลายๆ อย่างในการตัดต่อ สร้างหนังสั้นเพิ่มขึ้น จากที่เคยได้เรียนรู้จากที่ทำงานของคุณพ่อ และได้เรียนรู้การเขียนสคริปต์ทำโฆษณาเป็นงานยากอีกระดับที่ต้องฝึกฝนกันต่อไป น้องแนนเล่าถึงชีวิตมหาวิทยาลัยในช่วงเทอมแรกที่ต้องปรับตัวค่อนข้างมาก แต่เธอก็ยังเน้นเรื่องการเรียนเป็นสำคัญ

เอาใจเขาใส่ใจเรา

น้องแนนเล่าถึงหลักการใช้ชีวิต ที่ได้เรียนรู้จากคุณแม่ก็คือเรื่องของการเอาใจเขามาใส่ใจเรา เวลาที่มีปัญหาจะปรึกษาคุณแม่ก่อนว่าควรทำอย่างไร หรือใช้วิธีการเอาใจเขามาใส่ใจเรา ลองคิดในทางกลับกันดูว่า ถ้าเป็นเราๆ จะรู้สึกอย่างไร วิธีนี้จะช่วยให้เรามองปัญหาได้ชัดเจนแก้ปัญหาได้ถูกทางอย่างไม่วิตกจนเกินไป

เพื่อนๆ ของน้องแนนต่างช่วยกันยืนยันว่า เธอมีอุปนิสัยร่าเริง ถ้ารู้จักเธอนานๆ แล้วจะรู้ว่าเธอเป็นคนมองโลกในแง่ดี ไม่ถือตัว มีความคิดสร้างสรรค์ออกแนวหลุดโลกออกจากกรอบความคิดเดิมที่เคยรู้จัก จากสาวน้อยขี้อายคนหนึ่งจึงเริ่มเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ด้วยไอเดียสร้างสรรค์ อนาคตของน้องแนนจึงเดาได้ไม่ยากว่าเราคงได้เห็นรายการทีวีผ่านช่องดาวเทียมจากฝีมือกำกับของน้องแนน หรืออาจจะได้เห็นเธออยู่เบื้องหน้าทางใดทางหนึ่งอย่างแน่นอน สำหรับสาวน้อยขี้อายคนนี้