posttoday

แทจู-เคคิม ดาวรุ่งแอ็คชั่นสตาร์เลือดกิมจิ

26 ธันวาคม 2554

อันยองฮาเซโย~

อันยองฮาเซโย~

โดย..แดงน้อย

สองหนุ่มสาวชาวเกาหลี คิมแทจู และ เคคิม ทักทายเราด้วยท่าทีแจ่มใส ทำเอาบรรยากาศภายในห้องดูอบอุ๊น...อบอุ่น ทั้งสองคนนี้ไม่ใช่ไก่กา นอกจากจะเป็นนักแสดงจากภาพยนตร์เรื่อง The kick วอนโดนเตะ ผลงานการกำกับของผู้กำกับชื่อดังอย่าง ปรัชญา ปิ่นแก้ว แล้วที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือทั้งสองยังมีดีกรีเป็นถึงนักเทควันโดระดับแชมเปียนสายพุมเซ

เทควันโด สายพุมเซ เป็นสายที่เน้นการโชว์ทักษะ และกระบวนท่าการโจมตี และป้องกันที่สวยงาม ซึ่งทั้งสองเป็นแชมระดับโลกมาหลายปี ที่สำคัญสองคนนี้อยู่ในสังกัดค่ายเคไทเกอร์ ซึ่งเป็นค่ายเทควันโดที่โด่งดังและได้รับการยอมรับที่สุดในเกาหลีอีกด้วย

แหม...ชักจะไม่ค่อยกล้าคุยด้วยแล้ว เกิดโมโหขึ้นมา โชว์ท่าเตะสูงใส่ละแย่เลย

คิมแทจู หนุ่มตี๋ วัย 21 ปี ชายหนุ่มสุดไฮเปอร์ ที่ทั้งชีวิตมีแต่คำว่า กีฬา เจ้าตัวเล่าให้ฟังว่าชื่นชอบกีฬาทุกชนิด อยากจะลองเล่นทุกอย่าง ประกอบกับใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักแสดงแอ็กชันมาตั้งแต่เด็ก จึงได้เข้ามาฝึกที่ค่ายเคไทเกอร์ ค่ายเทควันโดที่ดังที่สุดในเกาหลี

แทจู-เคคิม ดาวรุ่งแอ็คชั่นสตาร์เลือดกิมจิ

ฝึกมา 13 ปี จนได้แชมเทควันโดสายพุมเซอยู่หลายครั้ง ทั้งระดับมหาวิทยาลัยและระดับประเทศ จนไปเตะตาผู้กำกับดัง ปรัชญา ปิ่นแก้ว ผู้สานความฝันของแทจูให้เป็นจริง เขายังแอบกระซิบว่า ปลื้มสุดๆ ที่ได้เล่นหนังของผู้กำกับในดวงใจ (เรื่อง องค์บาก เป็นหนังโปรดซึ่งโด่งดังมากในเกาหลี)

อีกหนึ่งสาวสวยผิวสีน้ำผึ้งสุดเท่ เคคิม สาวน้อยวัย 21 ปี เคยเป็นหนึ่งสมาชิกของวงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังอย่าง เบบี้วอกซ์ แต่ด้วยความที่ชื่นชอบและหลงใหลในเทควันโด จึงหันมาทุ่มเทเรียนอย่างเต็มตัว โดยเล่นเทควันโดมาตั้งแต่อายุ 13 ด้วยความรักและความทุ่มเทฝึกฝน ทำให้เธอครองแชมโลกเทควันโดสายพุมเซถึง 2 ปี โดยมีท่าเด็ดคือ เตะฉีกขา 180 องศาได้

แม้เคคิมจะไม่ได้ฝันอยากเป็นนักแสดงมาตั้งแต่เด็ก แต่หลังจากที่ได้ดูภาพยนตร์ไทยเรื่อง ช็อคโกแลต ที่เกาหลี พอเห็นจีจ้า (ญาณิน วิสมิตะนันทน์) เล่นหนังแอ็กชันแบบเตะต่อยได้ ทำให้เธอรู้สึกว่าผู้หญิงก็ทำได้เหมือนผู้ชาย เลยอยากจะเป็นดาราดังกับเขาบ้าง

ภาพยนตร์แอ็กชันไทยมีชื่อเสียงที่เกาหลีมาก โทนี่ จาและจีจ้า เปรียบเสมือนไอดอลในดวงใจของทั้งคู่ เลยทำให้ต้องเพิ่มความอดทนในการฝึกซ้อมให้มากขึ้น เพราะในภาพยนตร์ไม่ได้ใช้ทักษะเทควันโดเพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะแทจูที่ต้องใช้ท่าเต้นเคป๊อปมาผสมผสานด้วย ซึ่งทั้งคู่ใช้เวลาเรียนทักษะการแสดง การเต้น และการต่อสู้แบบอื่นๆ เพิ่มเติมเป็นเวลา 3 เดือนก่อนจะถ่ายทำ

“ซีนที่ต้องใช้เทควันโดผสมกับท่าเต้นเคป๊อปเป็นอะไรที่กังวลมากครับ เพราะว่าอยากจะทำออกมาให้มันดีที่สุด แล้วแนวนี้ก็ยังไม่มีใครทำด้วย ในเกาหลีก็ยังไม่มี เรื่องเทควันโดนั้นฝึกหนักอยู่แล้ว สิ่งที่ต้องเรียนเพิ่มคือเรื่องเต้น ผมต้องเรียนกับครูสอนเต้นคนเดียวกับที่สอนวงชายนี่ โบอา ซูเปอร์จูเนียร์ แล้วก็มาฝึกประกอบกับเทควันโดเพื่อมาเข้าคิวแอ็กชันกับสตันต์แมน ตรงนี้ก็ตั้งใจมากเพราะว่าสำคัญมากอยากให้ออกมาดีที่สุด แล้วโค้ชอัน (โค้ช เทควันโดจากค่ายเคไทเกอร์) กับผู้กำกับคิวแอ็กชันที่ไทยก็มาช่วยกันออกแบบให้ออกมาดีที่สุด” แทจู เล่า

เคคิมก็เล่าว่าเธอต้องเรียนการแสดงเพิ่มด้วย เพราะไม่เคยมีผลงานการแสดงมาก่อน

นอกจากเทควันโดที่ทั้งสองคลั่งไคล้ทุกลมหายใจเข้าออกแล้ว สองหนุ่มสาวก็ต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ชอบมวยไทยม้าก...มาก...

“ผมชอบกีฬาทุกอย่าง เมื่อปีที่แล้วได้มาเก็บตัวฝึกซ้อมกับบาแรมยู ได้เรียนมวยไทยก็ตื่นเต้นและชอบมาก เวลาเล่นเทควันโดก็ถือว่าเจ็บ เตะก็เจ็บ แต่พอมาเจออาวุธของมวยไทยไม่ว่าเป็นศอกเป็นเข่าหรือเป็นท่าทางหลายๆ เทควันโดไม่มี อย่างดูในหนังที่พี่จาเล่นก็จะมีการบิดข้อการลงอาวุธศอกหรือเข่าแล้วมีเสียงกระดูกดังกร๊อบ ก็เลยรู้สึกว่ามวยไทยน่ากลัว”

แทจู-เคคิม ดาวรุ่งแอ็คชั่นสตาร์เลือดกิมจิ

“มวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้ที่สวยงาม จะมองให้สวยงามก็สวยงาม จะมองให้รุนแรงหนักแน่นชัดเจนก็ได้” เคคิม เสริม

คนเกาหลีเป็นชาติที่ว่าด้วยการลงมือทำอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นเรียนหรือทำงาน คนเกาหลีจะทุ่มเทกับสิ่งที่ตัวเองทำอย่างยิ่งยวด จนทำให้บรรยากาศในการการทำงานดูเคร่งเครียด พอถามว่าร่วมงานกับคนไทยเป็นอย่างไร สองคนถึงกับยิ้มกริ่ม พร้อมทั้งเมาท์ถึงนักแสดงตลกระดับซูเปอร์สตาร์อย่าง หม่ำ จ๊กมก กันอย่างสนุกสนาน

“แค่เห็นพี่หม่ำก็ขำแล้วค่ะ (ฮา) พี่หม่ำเป็นคนตลกสนุกสนาน อยู่ในกองก็จะมีมุกอยู่ตลอด เลยทำให้การถ่ายทำไม่เครียด ที่เกาหลีได้ฉายเรื่องนี้ไปก่อนแล้ว หลายคนก็มาเล่าให้ฟังว่าประทับใจพี่หม่ำมาก เพราะในเรื่องมีฉากที่พี่หม่ำพูดภาษาเกาหลีด้วย” เคคิม เล่าความประทับใจ

“ผมขอบคุณทุกคนที่ให้โอกาสได้มาตรงนี้ ประทับใจแล้วก็ชอบคนไทย ทีมงานทุกคนน่ารัก รู้สึกผูกพันรักเหมือนครอบครัว พี่หม่ำเป็นดาราที่มีชื่อเสียง ขนาดคนเกาหลียังต้องยอมรับเลย เวลาอยู่ในฉากด้วยกันพี่หม่ำก็จะมีมุกตลกเพิ่มเติมขึ้นมา สร้างเสียงหัวเราะให้เสมอ ทำให้เราทำงานด้วยแล้วไม่เครียด บางทีถึงกับหลุดหัวเราะ ส่วนจีจ้า จากที่เราเป็นแฟนคลับ พอได้มาร่วมงานก็ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างมาก ยอมรับเลยว่าเก่งจริงๆ” แทจู เสริม

แม้จะต่างชาติต่างภาษา แต่ทั้งสองก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ได้สร้างปัญหาแต่อย่างใด บางทีผู้กำกับพูดเป็นภาษาไทย ล่ามยังไม่ทันได้แปล แต่ทั้งคู่เข้าใจถึงสิ่งที่ผู้กำกับต้องการจะสื่อก็มี ศิลปะไม่มีพรมแดนจริงๆ

ก่อนจากเราแอบถามความฝันของทั้งคู่ ...

“ผมหวังว่าสักวันผมจะต้องดังแบบพี่โทนี่ จา และก็โด่งดังไปทั่วโลกอย่าง เฉินหลง สักวันผมจะเป็นดาราแอ็กชันระดับโลกรุ่นต่อไปชื่อ แทจู (หัวเราะเสียงดัง)”

“เคคิมก็ฝันอยากจะเป็นนักแสดงนำแอ็กชันของเกาหลีที่มีชื่อเสียงค่ะ สักวันต้องทำให้ได้”

ใครอยากเห็นความสามารถ ก็สามารถติดตามดูได้ทุกโรงภาพยนตร์จ้า...


 

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด อาร์เซน่อล พบ คริสตัล พาเลซ คาราบาวคัพ วันนี้