ธีรญา กฤษฏาพงษ์ ทำงานทุกอย่างให้เต็มที่และดีที่สุด

แพนธีรญา กฤษฏาพงษ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของ บริษัท สเปเชียตี้ เนเจอร์ โปรดักซ์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตสารสกัดสมุนไพร

โดย..อณุศรา ทองอุไร

แพนธีรญา กฤษฏาพงษ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของ บริษัท สเปเชียตี้ เนเจอร์ โปรดักซ์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตสารสกัดสมุนไพร เพื่อนำไปผลิตเป็นเครื่องสำอาง ยา อาหารเสริม หรือเวชภัณฑ์อื่นๆ โดยลูกค้าของบริษัทนั้นมีทั้งบริษัทไทยและบริษัทต่างชาติ เช่น สารสกัดจากหัวหอม เพื่อนำไปผลิตยาทาแก้แผลเป็น สารสกัดจากรังไหมเพื่อลดริ้วรอย หรือสารสกัดจากผักบุ้งทะเลเพื่อนำไปทำยาทาแก้แพ้ผื่นคัน รวมทั้งผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องประทินผิว เช่น กวาวเครือขาว มังคุด เห็ดหลินจือ ที่ผลิตและส่งออกให้กับแบรนด์ต่างประเทศทั้งยุโรปและเอเชีย ซึ่งสินค้าสารสกัดจากธรรมชาติของบริษัทเธอมีกว่า 300 ชนิด

ถือว่าเป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น เพราะคุณแม่ของเธอเป็นนักวิจัยทางด้านเครื่องสำอาง ขณะที่คุณพ่อก็ทำงานด้านการวิจัยและส่งออกเช่นกัน เธอก็เลยเลือกเรียนทางด้านนี้เพื่อมาสืบทอดงานที่บริษัทของคุณแม่ เธอเรียนจบทางด้านเคมีประยุกต์ จากคณะวิทยาศาสตร์ ที่จุฬาฯ อินเตอร์

เห็นหน้าใสๆ อย่างนี้ ก็เพราะเพิ่งจบปริญญาตรีมาได้ 2 ปีกว่าๆ อายุเพียง 23 ปี และตอนนี้กำลังเรียนปริญญาโททางด้านวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางชั้นสูง ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เธอเรียนเพื่อจะได้คิดค้นสูตรการทำครีม แชมพู จากสารสกัดระดับพรีเมียม เรียนวิธีการผลิตสินค้าอย่างเป็นระบบสำหรับมาเป็นผู้ประกอบการ

เธอวางแผนว่า หากเรียนจบปริญญาโทที่ประเทศไทยแล้ว อาจจะไปเรียนต่อปริญญาโททางด้านบริหารจัดการเพิ่มที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งก็มองๆ หาที่เรียนไว้แล้ว เพราะวันข้างหน้ามาทำธุรกิจเองจะได้รู้เรื่องการบริหารและการตลาดได้เป็นอย่างดี ส่วนที่เรียนอยู่ตอนนี้คือเน้นการผลิตและการวิจัยผลิตภัณฑ์มากกว่า เมื่อทำธุรกิจเองต้องรู้ให้ครบวงจร ทั้งเรื่องผลิต การตลาด บริหารจัดการ เนื่องจากในอนาคตเธออาจจะผลิตสินค้าที่เป็นแบรนด์ของตัวเอง

เธอว่าตอนนี้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเครื่องสำอาง อาหารเสริม ยา ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบที่มาจากสมุนไพรธรรมชาติเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะประเทศไทยมีความได้เปรียบที่มีสมุนไพรธรรมชาติที่มีคุณสมบัติที่ดีในการบำบัดรักษาที่ได้รับการยอมรับกว่า 300 ชนิด และที่ยังไม่ได้วิจัยออกมาอีกเป็นจำนวนมาก ที่สำคัญผลงานวิจัยของคนไทยก็เป็นที่ยอมรับมากขึ้นในระดับนานาชาติ

ประเทศไทยเราได้เปรียบเพราะมีสมุนไพรหลายพันชนิด เราใช้กันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย เช่น ใบย่านางช่วยลดเบาหวานได้ เหงือกปลาหมอช่วยแก้คันและขับพิษ เราทำกันแบบบ้านๆ ไม่เป็นกระบวนการที่ได้มาตรฐาน และไม่มีใครทำโฆษณาประชาสัมพันธ์จริงจัง ขณะที่ของฝรั่งมีน้อยกว่าเรา แต่ว่าเขาประชาสัมพันธ์เก่ง วิธีการผลิตที่ผ่านมาเขาดีกว่าคนไทย แต่ตอนนี้คนไทยพัฒนาไปมาก มีความทันสมัยและเป็นที่ยอมรับมากขึ้น อีกปัญหาก็เรื่องบรรจุภัณฑ์ที่ไม่สวย ไม่ทันสมัยเท่าที่ควร ทำให้ภาพลักษณ์ไม่ดูอินเตอร์เท่าที่ควร

เธอจึงมุ่งมั่นที่จะทำให้สินค้าสมุนไพรไทยเป็นที่ยอมรับทั้งเรื่องคุณภาพและบรรจุภัณฑ์ในระดับสากลให้ได้ในอนาคต

5 สิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน

1.หนังสือฮาวทู

It’s not How Good You Are, It’s How Good You Want to Be ของ พอล อาร์เดน เป็นแนวฮาวทูที่ช่วยให้เรามีความคิดสร้างสรรค์ อ่านแล้วนำมาปรับใช้กับเรื่องงานและเรื่องการใช้ชีวิตได้ เขาบอกว่าทุกอย่างถ้าเราคิดบวก อดทน อะไรก็ทำได้เสมอ ให้กำลังใจได้ดีมาก

2.แหวนของคุณแม่

ท่านให้เป็นของขวัญวันเกิดก่อนเรียนจบ เป็นรูปมือ 2 มือประสานกัน ท่านบอกว่าให้คิดไว้เสมอว่า ในการทำงานเราต้องการความร่วมมือกับเพื่อนร่วมงาน ต้องมีทีมเวิร์ก งานจะสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมมือของใครหลายคน ไม่ใช่เราคนเดียว และเราก็ต้องให้ความร่วมมือกับคนอื่นด้วย คุณแม่ให้อะไรจะมีความหมายเสมอ นี่เป็นแหวนที่แม่ใส่ตอนสาวๆ แล้วให้มาตอนที่จะเรียนจบ

3.สร้อยคอพร้อมจี้

เป็นของขวัญจากคุณแม่ เป็นจี้ช้อนทองคำขาวและใส่พลอยสีเหลือง ท่านบอกว่าทุกโอกาสที่เข้ามา เราต้องรีบตักตวงคว้าไว้ โอกาสดีไม่ได้มีมาบ่อยๆ อย่าปล่อยให้โอกาสผ่านไปอย่างไม่ทำอะไรเลย ทุกอย่างในชีวิตไม่มีเรื่องบังเอิญ คุณแม่เป็นคนมีปรัชญาในการใช้ชีวิต ท่านมักจะพูดอะไรที่มีความหมายให้คิดได้เสมอ

4.แม็กเนตติดโต๊ะทำงาน

ไปเจอที่เมืองนอก ประทับใจซื้อมาเพราะมีความหมายดี มีคำว่าแดนซ์ คือเต้นให้เต็มที่ให้สุดเหวี่ยงไปเลย เลิฟรักใครรักอะไรก็ให้สุดๆ ไปเลย ไม่มีข้อแม้ใดๆ ถ้าคิดจะรัก ซิงร้องเพลงให้สุดเสียง สรุปก็คือทำทุกอย่างให้เต็มที่กับชีวิต ไม่มีกั๊ก เมื่อคุณทำเต็มที่และดีที่สุดแล้ว ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ก็ไม่มีอะไรให้ต้องเสียใจ

5.นาฬิกา

ซื้อเป็นของขวัญให้ตัวเองตอนเรียนจบ หน้าปัดนาฬิกาเป็นรูปหน้ายิ้ม เข็มวินาทีจะเป็นรูปรอยยิ้ม เป็นการสื่อว่า ทุกๆ วินาทีในชีวิตเราควรจะทำให้มีความสุข ไม่ว่าจะทำงานหรือการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเจออุปสรรคปัญหาอะไร ให้ยิ้มรับเสมอ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น เพราะยิ้มเป็นอาการที่ทำได้ง่ายๆ ไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไร สามารถยิ้มได้ในเสี้ยววินาที อานุภาพของรอยยิ้มจะทำให้เรื่องหนักกลายเป็นเรื่องเบาได้ เธอเชื่อเช่นนั้น