เที่ยวเมืองจีนแดนดินถิ่นเก๊กฮวยขาวอัศจรรย์แห่งธรรมชาติ ‘ราชินีแห่งชา’
เก๊กฮวย นับเป็นพืชล้มลุกตระกูลเดียวกับเบญมาศ คนไทยรู้จักกันในชื่อของ “เบญจมาศหนู” หรือ “เบญจมาศสวน”
เก๊กฮวย นับเป็นพืชล้มลุกตระกูลเดียวกับเบญมาศ คนไทยรู้จักกันในชื่อของ “เบญจมาศหนู” หรือ “เบญจมาศสวน”
โดย..บีบี
เก๊กฮวย นับเป็นพืชล้มลุกตระกูลเดียวกับเบญมาศ คนไทยรู้จักกันในชื่อของ “เบญจมาศหนู” หรือ “เบญจมาศสวน” ซึ่งมีหลากหลายพันธุ์ ทั้งชนิดดอกขาว ดอกเหลือง และเก๊กฮวยป่า เรานิยมนำส่วนดอกของเก๊กฮวยมาใช้ประโยชน์มากกว่าส่วนใบ ราก และยอดอ่อน ซึ่งก็มีคุณสมบัติทางยาเช่นกัน เก๊กฮวยมีฤทธิ์เย็น จึงช่วยขับพิษร้อน ขับลม ขับเหงื่อ แก้ร้อนใน โดยเฉพาะเก๊กฮวยดอกขาวจะมีคุณสมบัติแก้ร้อนใน หากใช้ร่วมกับใบไผ่ขมและสะระแหน่ จะช่วยแก้ไอและบำรุงปอด
เก๊กฮวยปลูกมากในประเทศจีน จนได้ชื่อว่า “ทะเลแห่งดอกเก๊กฮวย”
เราจะเห็นดอกเก๊กฮวยที่บานงามเต็มท้องทุ่งกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาราวเป็นทะเลแห่งดอกเก๊กฮวย โดยเฉพาะในมณฑลเจ้อเจียงทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของจีน มีเมืองเล็กๆ ที่เก่าแก่และสวยงามแห่งหนึ่งชื่อ “ถงเซียง” เมืองถงเซียงอยู่ห่างจากเมืองหางโจว ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจีนเพียง 60 กิโลเมตร
เมืองถงเซียงในฤดูใบไม้ร่วงเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยดอกไม้บานสะพรั่ง ไม่ต่างจากความงามของดอกทิวลิปที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศเนเธอร์แลนด์ว่าเป็น “เมืองดอกไม้แห่งยุโรป”
ดอกเก๊กฮวยสีขาวที่ขึ้นเต็มท้องทุ่งก็ได้สร้างชื่อเสียงให้กับเมืองถงเซียงว่าเป็น “เมืองดอกเก๊กฮวย” เช่นกัน เมืองถงเซียงมีประวัติการปลูกดอกเก๊กฮวยมานับเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว ชาวเมืองถงเซียงมีประเพณีรักดอกเก๊กฮวย ปลูกดอกเก๊กฮวย ชื่นชมดอกเก๊กฮวย และต้อนรับแขกผู้ไปเยือนด้วยนํ้าชาเก๊กฮวยมาช้านาน และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง เมืองถงเซียงได้ใช้ดอกเก๊กฮวยซึ่งเดิมเป็นเพียงผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรเท่านั้นให้มีบทบาทในการส่งเสริมการท่องเที่ยวไปด้วย
สวนเก๊กฮวยที่ใหญ่ที่สุดของโลกได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งภายในประเทศจีนและต่างประเทศให้ไปเที่ยวชมกันอย่างคึกคัก ภาพที่ปรากฏต่อสายตาของนักท่องเที่ยวคือ ดอกเก๊กฮวยขาวที่งอกงามติดกันเป็นพืดนั้นเสมือนหิมะครอบคลุมพื้นที่ในยามฤดูใบไม้ผลิและมองไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตาต้อนรับแขกผู้มีเกียรติที่เดินทางมาเยือนจากทุกสารทิศ
คนไทยอาจคุ้นเคยกับดอกเก๊กฮวยมายาวนาน แต่สำหรับ “ดอกเก๊กฮวยขาว” เชื่อว่าหลายคนอาจไม่เคยเห็นและไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่หากรับรู้ถึงคุณค่าความอัศจรรย์ของดอกเก๊กฮวยขาวแล้ว เชื่อว่าหลายคนอยากสัมผัสและรู้จักให้มากขึ้น
ดร.เรียม เตชะโสภณมณี นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านงานวิจัยชาขาวมากว่า 10 ปี และอดีตอาจารย์ประจำภาควิชา Biotechnology, Flavor Technology สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง บอกว่า เก๊กฮวยเป็นพืชล้มลุก ที่มีสรรพคุณเป็น “หยิน” หรือที่อธิบายได้ง่ายๆ ว่า มีฤทธิ์เย็น แก้กระหาย ระบายความร้อนได้ดี
ขณะที่มีงานวิจัยพบว่า เก๊กฮวยขาว มีคุณสมบัติที่พิเศษกว่าเก๊กฮวยเหลือง ซึ่งเห็นดาษดื่นอยู่ทั่วไปคือ ช่วยดับร้อน แก้ร้อนในได้ดีกว่า รวมทั้งมีวิตามินซีสูง ช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง มีส่วนช่วยให้กระบวนการต่อต้านอนุมูลอิสระและมีส่วนช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจน
ความโดดเด่นของเก๊กฮวยยังรวมไปถึงการมีสารออร์แกนิก ซึ่งเป็นสารโมเลกุลขนาดเล็กที่มาจากธรรมชาติ ทั้งฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) กรดอะมิโน สารไครแซนทีมิน (Chrysanthemin) สารอะดีนีน (Adenine) โคลีน (Choline) สตาไคดรีน (Stachydrine) และน้ำมันหอมระเหยที่ช่วยรักษาและป้องกันโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ช่วยขยายหลอดเลือด ลดการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวและโรคความดันโลหิตสูง
การเดินทางค้นหาและศึกษาเรื่องราวของ “ดอกเก๊กฮวยขาว” จึงพบว่าดอกเก๊กฮวยขาวยังถูกจำกัดด้วยแหล่งการเพาะปลูก เพื่อให้ได้ดอกเก๊กฮวยขาวที่มีคุณภาพ มีความหอมเหมาะสำหรับการนำไปผลิตเป็นยาและเครื่องดื่ม ตามความนิยมของผู้บริโภคในแต่ละประเทศ เช่น ประเทศจีน ที่นิยมนำไปทำเป็นยา หรือเครื่องดื่มร้อนมายาวนานนับพันปี ส่วนในเมืองไทยเองคุ้นเคยกับการนำดอกเก๊กฮวยมาทำเป็นเครื่องดื่มร้อนและเย็น
“เก๊กฮวยขาว เป็นตัวแทนจากธรรมชาติที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นองค์ประกอบสำคัญหนึ่งในเครื่องดื่มให้มนุษย์ได้บริโภค คุณค่าที่ผู้ดื่มได้รับจึงไม่ใช่เพียงการดับร้อนแก้กระหายจากคุณสมบัติที่เก๊กฮวยขาวพึงมี แต่ยังมอบความสดชื่นกระปรี้กระเปร่าให้กลับคืนมา จนก่อเกิดพลังงานอันอ่อนโยนที่อยากจะหาได้จากพืชพรรณสมุนไพรอื่น เก๊กฮวยขาวจึงมีคุณค่าเหนือความคาดหมายที่หลายๆ คนรู้จัก”
“30 ปีที่ทำงานและออกเดินทางค้นหาแต่สิ่งดีๆ เพื่อนำมาวิจัยและต่อยอดพัฒนาให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่า ซึ่งดอกเก๊กฮวยขาวถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์หนึ่งที่ค้นพบและประทับใจจนถึงทุกวันนี้ และจุดประกายให้ชีวิตมุ่งมั่นนำเสนอแต่สิ่งที่ดี จนทุกวันนี้สิ่งไม่ดีทำไม่เป็น”
สุดท้ายแล้ว หากชาขาวเปรียบได้ดั่ง “ราชินีแห่งชา” (Queen of Tea) เก๊กฮวยขาวย่อมไม่แตกต่างกับ “มงกุฎราชินี” ที่เติมเต็มความสมบูรณ์ที่มีคุณค่ายิ่ง
&<2288;


