‘ภาพพิมพ์หิมพานต์’ งานศิลป์หาดูยากของ อังคาร กัลยาณพงศ์
โคลงอันมีความหมายเฉียบขาดดุดันนี้มีชื่อว่า “ดูถูกศิลปะ (2501)”
โคลงอันมีความหมายเฉียบขาดดุดันนี้มีชื่อว่า “ดูถูกศิลปะ (2501)”
โดย..อินทรชัย พาณิชกุล
“ใครดูถูกดูหมิ่นศิลปะ
อนารยะไร้สกุลสถุลสัตว์
ราวลิงค่างเสือสางกลางป่าชัฏ
ใจมืดจัดกว่าน้ำหมึกดำ
เพียงกินนอนสืบพันธุ์นั้นฤๅ
ชื่อว่าสิ่งประเสริฐเลิศล้ำ
หยามยโสกักขฬะอธรรม
เหยียบย่ำทุกหย่อมหญ้าสาธารณ์
ภพหน้าอย่ามีรูปมนุษย์
จงผุดเกิดในร่างดิรัจฉาน
หน้าติดดินกินขี้เลื้อยคลาน
ทรมาณทุกข์ร้อนร้ายนิรันดร์เอยฯ”
โคลงอันมีความหมายเฉียบขาดดุดันนี้มีชื่อว่า “ดูถูกศิลปะ (2501)” ผลงานจากการตวัดปลายปากกาของจิตรกรกวีนาม อังคาร กัลยาณพงศ์
สะท้อนให้เห็นอย่างแจ่มชัดว่าชายผู้นี้มีความรักจริงจังและจริงใจต่อศิลปะมากแค่ไหน
ผ่านมาจนปีนี้ ในวัย 85 ของชีวิต เปรียบดั่งขอนไม้ใกล้ฝั่ง แม้สังขารโรยแรงไปตามวัยชรา อังคาร หรือที่ใครๆ พากันเรียกว่าท่านอังคาร ทั้งที่ไม่มียศถาบรรดาศักดิ์ แต่เหล่าลูกศิษย์ลูกหาต่างยินยอมพร้อมใจกันขานสรรพนามนี้ด้วยความเคารพเทิดทูนและยกย่องชื่นชม ก็ยังคงมีสมองและสติปัญญาแจ่มใส เปี่ยมด้วยข้อคิดปรัชญาอันเฉียบคม
หัวใจยังสั่งการให้หยิบจับปากกาและเกรยอง ขีดเขียนบทกวีและวาดรูปอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
อังคารร่ำเรียนศิลปะจากมหาวิทยาลัยศิลปากร หนึ่งในลูกศิษย์ (ผู้มีชื่อเสียงในกาลต่อมา) ของอาจารย์ศิลป์ พีระศรี มีฝีไม้ลายมือในการตวัดปลายเกรยองวาดลวดลายจิตรกรรมอันสดสวยเร้าใจ จนต่อมาด้วยหัวใจอันเปี่ยมล้นด้วยอารมณ์ความรู้สึก จินตนาการเพริศแพร้วพรั่งพรู จึงหันมาร่ายบทกวี กาพย์ กลอน โคลงฉันท์จนมีชื่อเสียงโด่งดังทะลุฟ้า
ได้รับรางวัลซีไรต์เมื่อ พ.ศ. 2529 จากผลงานชื่อปณิธานกวี และต่อมาได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ (กวีนิพนธ์) ประจำปี พ.ศ.2532
ผลงานจิตรกรรมทุกชิ้นของจิตรกรกวีระดับแถวหน้าของเมืองไทยรายนี้ ได้รับความนิยมจากนักสะสมด้วยเหตุผลที่ว่ามีความงดงามวิจิตร แปลกประหลาดไม่เหมือนใคร แฝงด้วยปรัชญาลึกซึ้ง แถมยังขึ้นชื่อว่าหาชมได้ยากยิ่ง
วันนี้ ถือเป็นครั้งแรกกับผลงานภาพพิมพ์โดย อังคาร กัลยาณพงศ์ ศิลปินแห่งยุค ผู้ใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตสร้างสรรค์ผลงานวาดเส้นและงานจิตรกรรมที่ทรงคุณค่ามาแล้วมากมาย ซึ่งครั้งนี้ผลงานของท่านได้ถูกถ่ายทอดด้วยเทคนิคภาพพิมพ์หินในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อให้ผู้ชื่นชอบศิลปะได้มีโอกาสชื่นชมกัน ในนิทรรศการชื่อ “ภาพพิมพ์หิมพานต์”
“ผลงานของท่านอาจารย์ถือเป็นศิลปะอันยอดเยี่ยม หาดูได้ยาก ท่านอังคารขึ้นชื่อว่าเป็นศิลปินที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง แสดงอารมณ์ แสดงความคิดอย่างตรงไปตรงมา ไม่ตกเป็นทาสหรือเลียนแบบแผนใดๆ”
“ผลงานของท่านมีเยอะแยะมากมาย ส่วนใหญ่เป็นรูปสเกตช์โดยใช้ชาโคลเกรยอง (แท่งถ่าน) สีดำวาดลงบนกระดาษขาว แต่ครั้งนี้เราเลือกภาพที่คิดว่าไม่ค่อยมีใครเคยเห็นกัน นั่นก็คือ ภาพชุดป่าหิมพานต์ วาดด้วยเกรยองสี มีความงดงามทั้งในแง่ศิลปะและมีความหมายลึกซึ้ง มีแง่คิดปรัชญาในเชิงกวีที่น่าสนใจแฝงเร้นอยู่” ถาวร โกอุดมวิทย์ ศิลปินและภัณฑารักษ์ชื่อดังผู้ผลักดันให้เกิดนิทรรศการครั้งนี้กล่าว
ผลงานภาพเขียนทั้ง 4 ชิ้น ประกอบด้วยภาพ นกอรหันต์ (1,2) และ อสรพิษ (1,2) อันได้รับแรงบันดาลใจมาจากตัวละครในวรรณคดีและสัตว์ประหลาดแห่งป่าหิมพานต์ ตำนานเก่าแก่โบราณอันรุ่มรวยด้วยจินตนาการเหนือจริง ความพิลึกพิลั่น มหัศจรรย์พรรค์ลึก ตื่นตาตื่นใจ ถูกนำมาจัดทำเป็นภาพพิมพ์จากแม่พิมพ์หิน แต่ละภาพถูกทำออกมา 3 แบบ ไม่ซ้ำกันภายใต้กรอบสวยหรู รวมทั้งสิ้น 12 ชุด
“ความหมายของภาพ อสรพิษ 1.ภาพงูที่มีหัวเป็นผู้หญิง หมายถึงผู้หญิงที่เรารักอาจมีพิษดั่งอสรพิษที่มาแว้งกัดเรา เขี้ยวพิษนั้นเปรียบเช่นกรดที่กัดกร่อนใจ พิษร้ายตรงเข้าสู่หัวใจในฉับพลัน ภาพอสรพิษ 2.งูที่มีหัวเป็นหญิงสาวหัวสับปะรด เปรียบเหมือนผู้หญิงพรางตัวเพื่อหลอกล่อผู้ชาย ส่วน 2 ภาพสุดท้าย นกอรหันต์ 1,2 ก็คือกินรีสาวในมโนภาพแห่งป่าหิมพานต์ตามจินตนาการของศิลปิน”
“เชื่อว่าคนสมัยนี้น่าจะปลาบปลื้มและตื่นเต้นไปกับผลงานของศิลปินระดับปรมาจารย์ที่หาดูได้ยาก แต่ละภาพมีลายเส้นอันเป็นเอกลักษณ์ของท่านอังคาร การลงสีสันอันน่าตื่นตาตื่นใจ เราจะเห็นได้ว่าแนวคิดในการเขียนภาพของท่านนั้นมหัศจรรย์เพียงใด”
คนหนุ่มสาวผู้หลงรักงานศิลป์ อาจารย์ นักศึกษาศิลปะทุกสถาบันที่มีความเคารพนับถือและยกย่องในความยิ่งใหญ่ของ อังคาร กัลยาณพงศ์ ไม่ควรพลาดงานนิทรรศการหาดูได้ยากอย่างแน่นอน เพราะงานนี้จัดแสดงเพียง 7 วันเท่านั้น
รายได้จากการจำหน่ายผลงานส่วนหนึ่งจะสมทบเข้ากองทุนสิปปปชา ซึ่งเป็นกองทุนส่งเสริมกิจกรรมทางศิลปะและสนับสนุนการเผยแพร่องค์ความรู้ทางศิลปวัฒนธรรมที่มีคุณค่าของประเทศไทยในด้านต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงเด็ก เยาวชน ตลอดจนผู้คนทั่วไปในสังคมอย่างกว้างขวางและลึกซึ้ง


