posttoday

อิเนียสตา...เปิดตัวไวน์จากไร่ตัวเอง

03 สิงหาคม 2554

หลังยิงประตูชัยในนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้

หลังยิงประตูชัยในนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้

โดย...ลา มาส เฟลีซ

หลังยิงประตูชัยในนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ ช่วยให้ทีม “กระทิงดุ” สเปน เฉือนชนะ “อัศวินสีส้ม” ฮอลแลนด์ 1-0 พร้อมกับผงาดชูถ้วยเวิลด์คัพเป็นครั้งแรก ก็มีแต่เรื่องดีๆ เกิดขึ้นกับ อันเดรส อิเนียสตา มาตลอด

มีทั้งช่วยทีม “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลนา คว้า 2 ถ้วย ใน ลา ลีกา สเปน และแชมเปียนส์ลีก แถมยังติดแข้งท็อป 3 เข้าชิงรางวัล “บัลลงดอร์” หรือนักเตะยอดเยี่ยมของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) โดยอีก 2 คน ก็เป็นเพื่อนร่วมสโมสรอย่าง ลิโอเนล เมสซี และชาบี เฮอร์นันเดซ นั่นเอง ก่อนที่ เมสซี แข้งเทพจากอาร์เจนตินาจะคว้าไป

อิเนียสตา...เปิดตัวไวน์จากไร่ตัวเอง

ยัง...ข่าวดียังไม่หมด อิเนียสตา ยังต้องมีงานฉลองการเป็นพ่อคนต่ออีก หลังภรรยาคลอดลูกคนแรกเป็นเพศหญิงเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา และตั้งชื่อว่า “บาเลเรีย”

ต่อจากนั้นก็ถึงเวลาเปิดตัวธุรกิจผลิตไวน์จากโรงบ่มของเขาเองอีกด้วย ซึ่งในภาษาสเปนเรียกว่า “โบเดกา”

จริงๆ แล้วยอดแข้งวัย 27 ปี ได้เตรียมการเรื่องนี้มาเป็นปีๆ แล้ว โดยโครงการผลิตไวน์ถือเป็นความใฝ่ฝันของครอบครัว โดยเฉพาะ โฮเซ อันโตนิโอ อิเนียสตา คุณพ่อของเขา

อิเนียสตา เริ่มจากที่ดิน 110 เฮกตาร์ (ประมาณ 687.5 ไร่) ที่บ้านเกิดในฟูเอนเตอัลบีญา ซึ่งสามารถปลูกองุ่นที่ให้ผลผลิตได้ถึง 5-7 ตัน และตอนนี้ไร่ “โบเดกา อิเนียสตา” ได้เริ่มเปิดตัวไวน์เป็นครั้งแรกแล้ว โดยมี 2 แบรนด์ด้วยกัน คือ โคราซอน โลโก (แปลเป็นไทยว่า “หัวใจบ้าๆ” ช่างสะใจดีแท้) และ ฟินกา เอล คาร์ริล (ไม่ยักมีความหมาย)

อิเนียสตา...เปิดตัวไวน์จากไร่ตัวเอง

“ผมต้องการให้ไวน์ที่ออกมาเป็นสิ่งสะท้อนตัวผม โดยมาตรฐานถูกตั้งไว้สูงมาก แต่ส่วนประกอบที่จะทำให้เป็นไปตามมาตรฐานได้นั้นก็ต้องทำงานหนัก และได้ทั้งแรงสนับสนุนและความรู้จากครอบครัว” อิเนียสตา กล่าว

โคราซอน โลโก มีรสชาติอ่อนๆ เบาๆ มีทั้งไวน์ขาว ไวน์แดง และโรสไวน์ ส่วน ฟินกา เอล คาร์ริล จะแรงและเข้มกว่า ซึ่งก็มีทั้งไวน์แดงและไวน์ขาว ซึ่งคุณพ่อคนใหม่ก็ผลิตไวน์ขาวรุ่น “ฟินกา เอล คาร์ริล บาเลเรีย” ด้วย โดยเอาชื่อลูกสาวต่อท้าย ว่าแต่อย่าเผลอหยิบให้ลูกดื่มก็แล้วกัน

ไวน์จากโรงกลั่นของ อิเนียสตา สามารถผลิตไวน์ได้ทั้งหมดประมาณ 7 แสนขวดต่อปี และตอนนี้ก็มีขายทั่วไปตามร้านไวน์ในประเทศสเปน โดยอยู่ในระดับราคากลางๆ ไม่สูงนัก (แหม! เพิ่งเปิดตลาด ถ้าแพงหูฉี่ แล้วใครจะไปลองชิมล่ะ)

อิเนียสตา...เปิดตัวไวน์จากไร่ตัวเอง

โคราซอน โลโก ขายอยู่ที่ราคาขวดละ 5-6 ยูโร (ราว 215-258 บาท) ฟินกา เอล คาร์ริล 2010 ประมาณ 7 ยูโร (ราว 301 บาท) และ ฟินกา เอล คาร์ริล บาเลเรีย 8-9 ยูโร (ราว 344-387 บาท)

แฟนๆ ของ อิเนียสตา ที่อยู่ต่างประเทศ หากสนใจจะลิ้มลอง ก็สามารถสั่งซื้อได้ทางอินเทอร์เน็ต อย่างไรก็ตาม เขามีแผนจะทำเอกซ์พอร์ตไปขายที่อังกฤษและเยอรมนีด้วย ซึ่งคาดว่าน่าจะขายในร้านอาหารได้สูงถึง 40 ยูโร (ราว 1,720 บาท) เลยทีเดียว

แม้ชื่อเสียงของ อิเนียสตา น่าจะมีส่วนช่วยสนับสนุนเรื่องการขาย แต่ เฟลิกซ์ ยาเนซ ผู้จัดการทั่วไปที่ดูแลไร่ไวน์ของรัฐบาล รวมทั้งสถาบันไวน์ที่ผลิตไวน์ใน คาสติญา ลา มานชา เชื่อว่าคงจะต้องใช้เวลาเป็น 10 ปีในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับของตลาด

“สำหรับ อันเดรส มันจะเป็นธุรกิจที่ดี สำหรับรุ่นหลานของเขา และน่าจะเป็นธุรกิจที่ดีมากๆ ด้วย” ยาเนซ กล่าว

ปกตินักบอลสเปนจะลงทุนกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และมีเงินก้อนโตนอนอยู่ในแบงก์ พวกเขามักจะไม่ชอบการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง แต่สำหรับธุรกิจไวน์ของ อิเนียสตา อาจจะดูแหวกแนวสักหน่อย เพราะต้องใช้เวลาพอสมควร แถมทำธุรกิจกับพวกพืชพรรณ (องุ่น) ซึ่งต้องพึ่งพาธรรมชาติอย่างดินฟ้าอากาศที่เอาแน่นอนไม่ค่อยได้ ทำให้เสี่ยงไม่น้อยเลยกับการลงทุน

ยังไงก็ขอให้โชคดี แต่อย่าดื่มก่อนแข่งนะ เพราะนักบอลที่ดีต้อง “เมาไม่เตะ”

 

ข่าวล่าสุด

เปิด Top 3 ดวงขึ้นแรงสุด 12 นักษัตร นักธุรกิจ ใครปัง รับปีม้าไฟ