เปิด7เรื่องสั้นชิงซีไรต์54
ประกาศผลออกมาแล้ว สำหรับ 7 เรื่องสั้น ที่ต้องเข้าไปชิงดำ รางวัลซีไรต์ ปี 2554
ประกาศผลออกมาแล้ว สำหรับ 7 เรื่องสั้น ที่ต้องเข้าไปชิงดำ รางวัลซีไรต์ ปี 2554
คณะกรรมการคัดเลือกรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ได้พิจารณาคัดเลือกหนังสือรวมเรื่องสั้นที่ส่งเข้าประกวดรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน ประจำปี 2554 จากผลงานทั้งหมด 83 เล่ม มีมติเป็นเอกฉันท์ให้เสนอหนังสือรวมเรื่องสั้น 7 เล่ม เข้าสู่รอบชิงโดยมี
1. 24 เรื่องสั้นของฟ้าของฟ้า พูลวรลักษณ์
2.เรื่องของเรื่อง ของพิเชษฐ์ศักดิ์ โพธิ์พยัคฆ์
3.แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ ของจเด็จ กำจรเดช
4.กระดูกของความลวง ของ เรวัตร์ พันธุ์พิพัฒน์
5.นิมิตต์วิกาล ของ อนุสรณ์ ติปยานนท์
6.บันไดกระจก ของ วัฒน์ ยวงแก้ว
และ7.ภาพยนตร์ที่ถ่ายทำตลอดชีวิต ของจักรพันธุ์ กังวาฬ
สำหรับภาพรวมของเรื่องสั้นที่ส่งเข้าประกวดรางวัลซีไรต์ ประจำปี 2554 คณะกรรมการคัดเลือกได้ร่วมกันสรุปว่า เรื่องสั้นที่ส่งเข้าประกวดมีเนื้อหาหลากหลาย ปัญหาของสังคมยังเป็นวัตถุดิบที่ทรงพลัง นักเขียนให้ความสนใจปรากฏการณ์ต่างๆ ที่ดำรงอยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ความขัดแย้งที่เกิดจากความแตกต่างของคนในสังคม การพัฒนาประเทศไปสู่ความทันสมัยตามกระแสทุนนิยมเสรีโลกาภิวัตน์และสังคมเสมือน ซึ่งส่งผลต่อวิถีชีวิตดั้งเดิม โดยเฉพาะในด้านความเป็นอยู่ สิ่งแวดล้อม และจริยธรรม
อย่างไรก็ตาม การเสนอปัญหาของท้องถิ่นยังมิได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก นักเขียนมุ่งเสนอภาพในมุมมองที่ขยายวงมากกว่าเดิม กล่าวคือ นอกจากจะชี้ให้เห็นว่าชนบทเป็นผู้ถูกกระทำจากภายนอกอย่างไม่มีทางเลือกแล้ว ในบางกรณี ปัญหาของมนุษย์ก็เกิดจากคนที่อยู่ในชุมชนนั้นเอง ส่วนเนื้อหาที่มุ่งเสนอเรื่องราวของวิถีชีวิตสมัยใหม่ นักเขียนแสดงให้เห็นถึงความสับสน ความแปรปรวนของชีวิต ภาวะของความเป็นมนุษย์ถูกลดทอนลงไป ท่าทีในการแสดงออกต่อปัญหาต่างๆ ทั้งปัญหาในชนบทและวิถีชีวิตสมัยใหม่มีทั้งการเสียดสียั่วล้อเพื่อกระตุกให้ผู้อ่านย้อนกลับมาหยั่งถึงปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันก็มีนักเขียนที่แสดงความห่วงใยต่อสังคม และมีทั้งการเผชิญหน้าด้วยการตั้งคำถามถึงปรากฏการณ์ต่างๆ ของสังคมผ่าน “โลกภายใน” ของตัวละคร และน้ำเสียงของนักเขียน อย่างไรก็ตามนักเขียนมีแนวโน้มขยายเรื่องราวของตนผ่านการข้ามพรมแดนไปสู่โลกที่กว้างใหญ่ขึ้น ทั้งพรมแดนในด้านชาติพันธุ์ พรมแดนด้านรัฐชาติพรมแดนด้านเพศ และพรมแดนด้านการเล่าเรื่อง
เมื่อพิจารณาในด้านกลวิธีการนำเสนอแล้ว พบว่านักเขียนส่วนหนึ่งยังคงนำเสนอเรื่องสั้นตามขนบ แบบที่นิยมกันมาเป็นเวลานาน ดังระบุไว้ในทฤษฎีการประพันธ์เรื่องสั้น หากแต่ภายใต้โครงสร้างดังกล่าวนักเขียนได้สร้างความเข้มข้นและความซับซ้อนของเนื้อหาด้วยมุมมองหลากหลาย แม้ว่าปัญหาหลายอย่างที่เสนอในเรื่องสั้นจะเป็นภาพที่หยุดนิ่ง ไม่ต่างจากเรื่องสั้นก่อนหน้านี้ แต่ก็ยิ่งทำให้เห็นว่าปรากฏการณ์ของ
สังคมที่ถาโถมใส่มนุษย์มีความยิ่งใหญ่เกินกว่าจะรับมือและต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงได้ ส่วนการนำเสนออีกรูปแบบหนึ่งนั้นนักเขียนได้พยายามทดลองนำเสนอเรื่องสั้นของตนด้วยกลวิธีต่างๆ โดยพยายามสร้างสรรค์แบบอย่างเฉพาะตนขึ้น เป็นการสร้างอัตลักษณ์การเขียนเรื่องสั้นของตนขึ้นมา ลักษณะดังกล่าวเป็นการสร้างสีสันใหม่ๆ ให้แก่วงการประพันธ์เรื่องสั้นของไทย ซึ่งอาจส่งผลต่อแนวโน้มของการเขียนเรื่องสั้นไทยในอนาคต กลวิธีการเขียนเรื่องสั้นที่เน้นอัตลักษณ์เฉพาะตนชวนให้ตื่นตาตื่นใจ ปลุกเร้าให้ขบคิดตีความ
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงคุณภาพของเรื่องสั้นโดยรวมแล้ว พบว่าประพันธศิลป์เชิงสร้างสรรค์ทั้งด้านเนื้อหาและการนำเสนอนั้นยังอยู่ระหว่างการแสวงหาลักษณะเฉพาะของยุคสมัยที่โน้มนำให้เชื่อว่ายังมีเส้นทางข้างหน้าอีกยาวไกล
ทั้งนี้จะมีงานประกาศผลรางวัลซีไรต์ปี 2554 ใน วันอังคารที่ 20 กันยายน 2554 ณ ห้องเจ้าพระยา โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ เวลา 14.00 น.


