posttoday

ศักยภาพในการนำตนเองเชิงรุกต้องระเบิดจากภายใน

29 มีนาคม 2564

โดย ภก.ดร.จันทรชัย ถวิลพิพัฒน์กุล สถาบันอินทรานส์ Hipot – การปฏิรูปศักยภาพมนุษย์อย่างบูรณาการศาสตร์ชีวิตองค์รวมเพื่อความมั่นคงยั่งยืน

เพราะโลกไม่แน่นอน อ่อนไหว ซับซ้อน และคลุมเครือ นำมาซึ่งความท้าทาย โดยเฉพาะการแข่งขันที่สูงขึ้นบนฐานของเทคโนโลยีที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ธุรกิจจึงมีความเสี่ยง องค์กรจึงต้องปรับตัว แต่เราขาดบุคลากรที่มีคุณภาพ และดูเหมือนจะ “ติดกับดัก” ของศักยภาพที่ตีบตัน จึงไม่สามารถก้าวข้ามพ้นขีดจำกัดของตนเองได้ ในการรับมือกับความท้าทายดังกล่าว เพื่อความอยู่รอดขององค์กรอย่างยั่งยืน จำเป็นที่บุคลากรต้องพัฒนาศักยภาพ และศักยภาพที่แท้จริงต้องระเบิดจากภายใน

เมื่อพูดถึงศักยภาพภายใน เราลองพิจารณาชีวิตผีเสื้อ วงจรชีวิตของมันมี 4 ระยะ เริ่มด้วยระยะเป็นไข่ จากนั้นจะเป็นตัวหนอน ในช่วงนี้ หากนกเห็น มันจะกลายเป็นเหยื่อแน่นอน แต่หากมันรอด มันจะขับใยเหนียวๆ ออกมาห่อหุ้มตัวมันเอง กลายเป็นดักแด้ จากนั้นไม่นาน มันจะใช้ขาดันเปลือกให้แตกออก กลายเป็นชีวิตใหม่ เรียกว่า ผีเสื้อ ชีวิตใหม่ที่เกิดขึ้นนี้แตกต่างจากสภาพเดิมอย่างสิ้นเชิง และสามารถแสดงศักยภาพที่แตกต่างและสูงกว่าเดิม สามารถบินหลบหลีก ซ่อนเร้นจากศัตรูได้ สามารถบินหาน้ำหวานเพื่อยังชีพและดำรงเผ่าพันธุ์เพื่อความอยู่รอด

ศักยภาพในการนำตนเองเชิงรุกต้องระเบิดจากภายใน

ทำนองเดียวกับการเกิดขึ้นของลูกเจี๊ยบ เมื่อได้เวลา มันใช้ปากแทงทะลุเปลือกไข่ แล้วดันตัวมันเองออกมาเป็นชีวิตใหม่ที่สามารถแสดงศักยภาพของความเป็นไก่อย่างที่มันเป็น สามารถหาอาหารเลี้ยงชีพและดำรงเผ่าพันธุ์เพื่อความอยู่รอด จะเห็นได้ว่า ศักยภาพใหม่ที่ว่านี้ต้องระเบิดจากภายใน

มนุษย์เราก็เช่นกัน แรงบันดาลใจ ความมุ่งมั่น แรงขับเคลื่อนชีวิต ย่อมต้องมาจากภายใน เมื่อมาจากภายใน นั่นแสดงว่ามนุษย์ย่อมสามารถนำตนเองได้

เมื่อพูดถึงการพัฒนาศักยภาพในการนำตนเอง ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่า ไม่ว่าในสถานการณ์ใดๆ เรามีสิทธิ์ที่จะเลือกตอบสนอง นั่นคือ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เรามีสิทธิ์ที่จะเลือกว่าเราจะโต้ตอบอย่างไร เพราะการตอบสนองใดๆ มันล้วนมาจากกรอบความคิดตนเอง กรอบความคิดเปลี่ยนได้ และตนมีอำนาจเหนือมัน ดังนั้น การตอบสนองใดๆ ในรูปของพฤติกรรม มันจึงมาจากการเลือกของตนเองทั้งสิ้นความสามารถในการเลือกนี้เองคือ อำนาจ

อำนาจดังกล่าวคือ ความเป็นอิสระ คืออิสระจากแรงกดดันภายนอก อิสระจากข้อจำกัดภายนอก บุคคลประเภทนี้จะไม่บ่น จะไม่โวยวาย ไม่ตีโพยตีพาย ไม่โทษโน่นนี่นั่น หรือโทษใคร หรืออ้างเหตุภายนอกว่าเป็นสาเหตุ นั่นคือ เขาจะไม่เอาข้อจำกัดภายนอกมากำหนดชะตาชีวิตตนเอง เพราะถ้าทำอย่างนั้น นั่นเท่ากับว่า ตนพาเอาตนเองไปอยู่ภายใต้เงื่อนไขบางอย่างที่อยู่นอกเหนือการควบคุมซึ่งสะท้อนถึงความอ่อนแอ ความอ่อนด้อย ความไร้สมรรถภาพ แต่จะตระหนักว่า ตนอยู่เหนือสถานการณ์นั้นๆ เพราะเรามีอำนาจเหนือมัน ตนจึงไม่กวัดแก่วงไปตามกระแส จะไม่ยอมให้มันมามีอิทธิพลเหนือตนเอง แต่จะดูว่าตนมีทางเลือกอะไรบ้างที่พอจะทำได้ในสถานการณ์ดังกล่าว และไม่ว่าจะเกิดผลอะไรที่ตามมา ตนก็พร้อมที่จะรับผิดชอบ

ภาวะนี้เองคือ ศักยภาพสูงสุด มันคือ ความสามารถในการนำตนเอง เพราะนำตนเองได้ จึงปรับตัวได้ และด้วยสามารถในการคาดการณ์ได้ล่วงหน้า ตนจึงสามารถสร้างทางเลือกได้หลากหลาย เพื่อรองรับสิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ความสามารถในการปรับตัวได้อย่างยืดหยุ่นล่วงหน้านี้เอง บุคคลจึงเล่นเชิงรุกได้

การเล่นเชิงรุกจึงมิได้มีความหมายเพียงแค่ว่าคิดไปได้ไกล คิดไปข้างหน้า หรือขยัน เอางานที่จะถึงกำหนดในวันข้างหน้ามาทำวันนี้เท่านั้น แต่มันคือการตระหนักถึงศักยภาพภายในที่ตนมี รู้ว่าตนมีอำนาจในการเลือกว่าจะตอบสนองต่อสถานการณ์ข้างหน้านั้นๆ อย่างไร และใช้ให้เป็น เพื่อรับมือกับปัญหา แก้ปัญหาได้อย่างทันการณ์ และด้วยทัศนคติที่ถูกต้อง หากว่าผลที่ออกมาไม่เป็นไปตามที่คาดตนก็รู้ว่ามันพลาดที่ตรงไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องมองว่านั่นคือ กระบวนการเรียนรู้ แล้วจะหาทางปรับแก้ไขอย่างไร เพื่อทางออกที่ดีกว่า ดังนั้น ไม่ว่าในสถานการณ์ใดๆ ด้วยข้อจำกัดอย่างไรก็ตาม ขอให้เข้าใจว่า ตนมีศักยภาพในการนำตนเอง นั่นคือ เรามีอำนาจในการเลือกที่จะเล่นเชิงรุก เล่นเชิงบวกได้

เราสามารถสรุปได้ว่า ศักยภาพคือ ความจริงที่ปรากฏออกมาภายนอกและที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในศักยภาพทั้งสองเชื่อมโยงอย่างเป็นหนึ่งเดียว ส่งผลซึ่งกันและกัน ไม่อาจแยกออกจากกันได้ ศักยภาพภายในไร้ขีดจำกัด รอวันเผยตัวออกมา ศักยภาพคือ แรงบันดาลใจ แรงขับเคลื่อนภายใน ความมุ่งมั่น

ศักยภาพในการนำตนเองเชิงรุกต้องระเบิดจากภายใน

กรอบความคิดคือฐานรากชีวิต มันเป็นแหล่งที่มาของศักยภาพภายใน ศักยภาพไม่เคยออกนอกกรอบความคิด จะยกศักยภาพต้องเปลี่ยนกรอบ กรอบความคิดเปลี่ยนได้ ศักยภาพจึงถูกพัฒนาและยกระดับได้ กรอบความคิดเป็นของตนเอง ตนเท่านั้นที่มีอำนาจเหนือมัน เราจึงนำตนเองได้ เมื่อนำตนเองได้ ก็เลือกตอบสนองได้ เมื่อเลือกได้ เราจึงเล่นเชิงรุกได้ ด้วยภาพเป้าหมายเดียวกัน องค์กรจึงสอดคล้องไปในแนวเดียวกัน เป็นเอกภาพ

ในสถานการณ์ที่โลกมีความผันผวนสูง อีกทั้งเทคโยโลยีที่ก้าวล้ำในอัตราเร่ง องค์กรจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องยกระดับศักยภาพบุคลากร ให้ก้าวข้ามพ้นขีดจำกัดอันเกิดจาก “กับดัก” กับดักดังกล่าวก็คือ กรอบความคิด (Mindset) ของตนเองนั่นเอง ข้อจำกัดต่างๆ จึงเป็นเรื่องที่ตนสร้างขึ้นเองทั้งสิ้น เมื่อเกิดในทางลบ ตนและองค์กรจึงตีบตัน แต่หากเป็นไปในทางบวก บุคคลย่อมพัฒนาความสามารถในการนำตนเองและเล่นเชิงรุกได้ เมื่อนั้น องค์กรก็มีโอกาสเดินต่อไปได้อย่างมั่นคงยั่งยืน

ท่านในฐานะผู้นำองค์กร ท่านและจะนำความเข้าใจดังกล่าวไปกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาศักยภาพทีมงาน และปลดปล่อยศักยภาพนั้นออกมาได้อย่างเต็มที่และไปในแนวเดียวกันได้อย่างไร