posttoday

ทำไมศักยภาพในการนำตนเองจึงสำคัญ?

01 มิถุนายน 2563

การรับมือกับปัญหาไวรัสโควิด 19 เชิงองค์รวม : ความท้าทายบทใหม่ของผู้นำองค์กรยุคโควิด ต้องปรับตัวอย่างไร? จึงจะสามารถพาทีมและธุรกิจให้ก้าวผ่านวิกฤติไปด้วยกัน

สถานการณ์ในปัจจุบัน จากการระบาดของไวรัสโควิด 19 ธุรกิจต่างปรับตัวครั้งใหญ่ โดนกันทั่วหน้า ไม่มียกเว้น ใครสายป่านไม่ยาวพอและไม่สามารถเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับบรรดาเจ้าหนี้ได้ต้องล้มละลายทั้งธุรกิจการบิน เช่ารถ โรงแรม ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ ยานยนต์ อุปโภคบริโภค การท่องเที่ยว สถาบันการเงิน IT และธุรกิจอื่นๆ อีกมากมาย

ทำไมศักยภาพในการนำตนเองจึงสำคัญ?

โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีสายป่านไม่ยาวพอกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก หลายธุรกิจเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ และไม่รู้ว่าจะกลับมาเปิดได้เมื่อไร หลายธุรกิจต้องปรับโมเดลสู่บรรทัดฐานใหม่ในการทำธุรกิจ อัดแคมเปญมากมายทั้งลดแลกแจกแถม ระบายของเก่า ลดสต็อก เร่งเก็บหนี้ ยืดเจ้าหนี้ เพื่อกำเงินสดไว้ในมือ อีกทั้งต้องปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจเพื่อรับมือกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และเร่งฟื้นคืนชีพในครึ่งปีหลัง

...และถึงแม้จะกลับมาเปิดได้ ก็ยังสงสัยว่าจะสามารถทำกำไรได้หรือไม่ จะคงความเข้มแข็งเหมือนเดิมหรือไม่ และจะสร้างความมั่นคงยั่งยืนในอนาคตได้อย่างไร

ทำไมศักยภาพในการนำตนเองจึงสำคัญ?

ดร.จันทรชัย ถวิลพิพัฒน์กุล จากสถาบันอินทรานส์ Hipot-การปฏิรูปศักยภาพมนุษย์อย่างบูรณาการ ศาสตร์ชีวิตองค์รวมเพื่อความมั่นคง ยั่งยืน ระบุ ภาพทั้งปี 2563 จึงมีโอกาสพลิกเป็นมีกำไรได้ยาก ในขณะที่ปี 2564 คาดฟื้นมามีกำไรอีกครั้งแต่ก็ยังจำกัด และจะยังไม่กลับมาที่ระดับปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีโอกาสสูงที่จะโดนกระหน่ำซ้ำเติมด้วยสงครามการค้ารอบใหม่ระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกายิ่งไปกว่านั้น องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังเตือนว่านี่ยังไม่ใช่เวลาที่ประเทศต่างๆ จะผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ที่เร็วเกินไป เพราะยารักษาโดยตรงก็ไม่มี วัคซีนต้องใช้เวลาอีกกว่าปีจึงจะสำเร็จ

ทุกภาคธุรกิจแสดงความกังวลว่าไม่เคยเจอวิกฤติที่หนักเช่นครั้งนี้มาก่อน มันคือวิกฤตการณ์ข้ามคืนที่ทั่วทั้งโลกหยุดในเวลาเดียวกัน ความท้าทายคือผู้นำองค์กรต้องปรับตัวอย่างไรจึงจะสามารถพาทีมงานและคู่ค้าธุรกิจให้ก้าวผ่านไปด้วยกัน?

คุณสมบัติหนึ่งที่มีความสำคัญในการนำธุรกิจกลับมาเพื่อความยั่งยืนคือ การพัฒนาศักยภาพในการนำตนเองเชิงรุก

ทำไมศักยภาพในการนำตนเองจึงสำคัญ?

เมื่อเหตุการณ์บนโลกใบนี้ไม่แน่นอน อ่อนไหว ซับซ้อน และคลุมเครือ ดังเช่นการอุบัติขึ้นของไวรัสโควิด 19 และส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความยั่งยืนของธุรกิจ และเป็นที่ทราบดีว่าคนคือปัจจัยสำคัญของความสำเร็จขององค์กร องค์กรจึงต้องการคนที่มีขีดความสามารถสูงเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในภาวะผันผวน และคุณสมบัติหนึ่งที่สำคัญอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ปัจจุบันคือ ศักยภาพในการนำตนเองเชิงรุก

ศักยภาพในการนำตนเองเชิงรุกคืออะไร?

มันคือความสามารถในการพัฒนาตนเอง สามารถสร้างแรงผลักดันตนเองได้ภายใต้ภาวะวิกฤต สามารถควบคุมตนเองได้โดยไม่ตกอยู่ในอำนาจของปัจจัยภายนอกหรือกระแสสังคม ชีวิตจึงไม่หมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่เป็นลบ แต่กลับมองหาทางออกว่ามีอะไรที่อยู่ในวิสัยที่ตนพอจะทำได้ อีกทั้งสามารถฟื้นฟูภายในจากสภาพจิตใจที่ติดลบ ท้อถอย ให้กลับมายืนหยัดได้ด้วยตนเอง

เพราะมันไม่สำคัญว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่มันอยู่ที่ว่าเราไปรับรู้และตอบสนองมันอย่างไร และในความเป็นจริงแล้ว เราสามารถเลือกตอบสนองได้ นั่นคือเรามีศักยภาพหากเราเลือกตอบสนองได้ นั่นแสดงว่าเรามีอิสระในการนำตนเองได้ความสามารถในการนำตนเองจึงเป็นที่มาของศักยภาพที่แท้จริง

ทำไมศักยภาพในการนำตนเองจึงสำคัญ?

แล้วเราควรทำอะไรในช่วงนี้?

ในช่วงของการปรับตัวนี้ นี่คือโอกาสสำคัญของการใช้เวลาเพื่อพัฒนาศักยภาพในการนำตนเองเพื่อความยั่งยืนในอนาคตโดย

  1. การปรับกรอบความคิดเชิงบวกเพื่อสร้างแรงขับเคลื่อนตนเองเชิงรุก นำตนเองได้
  2. การพัฒนาแนวคิดเชิงระบบเพื่อการแก้ปัญหาระบบเชิงซับซ้อน
  3. การมองภาพเชิงองค์รวมเพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ
  4. การเห็นคุณค่าตนเองเพื่อสร้างความเชื่อมั่น ความมั่นคงภายใน กล้าตัดสินใจ
  5. การเห็นคุณค่าในความแตกต่างเพื่อสร้างศรัทธา เพื่อการทำงานเป็นทีมอย่างเป็นหนึ่งเดียว
  6. การเห็นคุณค่าในความเป็นมนุษย์เพื่อสร้างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง

คุณสมบติเหล่านี้มาจากกรอบความคิด กรอบความคิดเป็นของตนอง ดังนั้น การพัฒนาใดๆ จึงเป็นเรื่องที่ตนกำหนดได้เองทั้งสิ้น

มันคือ.. ความสามารถในการปรับฟื้นคืนสภาพของตนเองได้จากภาวะติดลบ (Self-resilience)

มันคือ.. ความสามารถในการเลือกตอบสนอง (Potential Response-ability)

มันคือ.. ศักยภาพในการนำตนเองเชิงรุก (Proactive Potentiality)

ความสามารถในการนำตนเองเชิงรุกจึงเป็นพื้นฐานที่สำคัญยิ่งต่อความยั่งยืนขององค์กรธุรกิจ