Royal Osha ส่งเมนู ‘ข้าวแช่ชาววัง’ และ ‘ข้าวยำ’ ต้อนรับคิมหันตฤดู เพื่อคนสำคัญ วันสำคัญ และโอกาสพิเศษ
สุนทรียศาสตร์แห่งการเฉลิมฉลองและมอบความเป็นสิริมงคล ต้อนรับคิมหันตฤดู ด้วยความละเมียดละไมของ “ข้าวแช่ชาววังและข้าวยำ” ตำรับ “รอยัล โอชา” ร้านอาหารไฟน์ ไดนิ่งสุดหรู การันตีความอร่อยเหนือระดับ โดยมิชลิน
ร่วมสัมผัสความเหนือระดับของ Royal Osha (รอยัล โอชา) ร้านอาหารไทยไฟน์ ไดนิ่งสุดหรู ที่พร้อมมอบความพิเศษเอกสิทธิ์สำหรับคนสำคัญ วันสำคัญ และโอกาสพิเศษ ที่สุดแห่งความประณีตบรรจงคัดสรรวัตถุดิบหลากหลายจากทั่วโลกและสิ่งที่ดีที่สุดจากประเทศไทย และพิถีพิถันในการถ่ายทอดเรื่องราวของศิลปะวัฒนธรรมความเป็นไทย หมุนเวียนเมนูไปตามฤดูกาลและเต็มไปด้วยเอกลักษณ์ของแต่ล่ะท้องถิ่น ทั้งภาคกลาง-เหนือ -อีสาน และใต้ ในรูปแบบ A la carte และ Set menu ภายใต้แนวคิด “Classic Thai Elegance Reinvented” ความสง่างามของอาหารไทยรสชาติดั้งเดิม ผสมผสานสุนทรียศาสตร์ ทั้งรูป รส และกลิ่นของอาหารไทยสไตล์โมเดิร์น ทว่าคงเอกลักษณ์ไว้ไม่เสื่อมคลายได้อย่างลงตัว การันตีความอร่อย โดยมิชลิน และเชฟวิชิต มุกุระ เชฟมิชลิน 1 ดาว 2020
เพื่อต้อนรับคิมหันตฤดู ช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองในเทศกาลปีใหม่ไทย ซึ่งนิยมส่งมอบความเป็นสิริมงคลให้กับคนสำคัญ รอยัล โอชา และเชฟวิชิต มุกุระ จึงรังสรรค์เมนู “ข้าวแช่ชาววังและข้าวยำ” รสชาติละเมียดละมุนอันเป็นแบบฉบับเฉพาะตัวของรอยัล โอชา พร้อมสัมผัสวัฒนธรรมการรับประทานอาหารตามฤดูกาล ที่เชฟวิชิต มุกุระ Executive Chef and Partner ร้านอาหารรอยัลโอชาได้บรรจงรังสรรค์ขึ้นอย่างประณีตและพิถีพิถันทุกขั้นตอนตั้งแต่การเลือกสรรวัตถุดิบพรีเมี่ยมปรุงรสตามกรรมวิธีโบราณที่สลับซับซ้อนเพื่อให้ได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และเข้ากันได้อย่างลงตัว
คุณศุภาพิชญ์ พิทยานุกุล กรรมการผู้จัดการ ร้านอาหารรอยัล โอชา กล่าวว่า “เรามีความตั้งใจที่จะเปิดประสบการณ์ใหม่ให้ชาวต่างชาติและคนไทยได้สัมผัสอาหารไทยในอีกมุมหนึ่ง อย่างเหนือระดับทั้งรูป รส กลิ่น เสียง และพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการปรุง และถ่ายทอดวัฒนธรรม เรื่องราวและวิถีชีวิต การกินอยู่ของคนไทยผ่านการปรุงรสชาติอาหาร นับว่าเป็นการยกระดับอาหารไทยที่มีเสน่ห์ รสชาติดี มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้เป็นที่รู้จักอย่างขวางขว้างยิ่งขึ้น โดยมีแผนที่จะขยายสาขาร้านรอยัล โอชา ไปยังต่างประเทศ ทั้งที่นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา และลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพื่อให้ชาวต่างชาติได้สัมผัสความเป็นไทยผ่านเสน่ห์ของรสชาติอาหารไทยสไตล์ไฟน์ ไดนิ่งอย่างแท้จริง
ทุกเมนูของเรา คือเมนูพิเศษซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นด้วยความรักและความใส่ใจ โดยมีคุณเกวลิน พิทยานุกุล เชฟผู้วิจัยและพัฒนาเมนู และเชฟ วิชิต มุกุระ เชฟมิชลินไกด์ 2020 เป็นผู้ที่ร่วมกันครีเอทเมนูในสไตล์ไฟน์ ไดนิ่งที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและความละเมียดละไม ซึ่งได้รับการการันตีรสชาติอาหารและบรรยากาศชั้นเลิศ ด้วยรางวัลอันดับหนึ่งร้านอาหารไทยแนะนำจากหลากหลายเวทีทั่วโลก
รอยัล โอชา มอบบรรยากาศที่ดีที่สุดให้กับช่วงเวลาแห่งความสุข สะท้อนศิลปวัฒนธรรมไทยในสไตล์ไทยวิจิตร โมเดิร์น ตั้งแต่ประตูทางเข้าภายนอกร้านติดกับถนนวิทยุในทุกค่ำคืน จะฉายภาพ จิตรกรรมจากวรรณคดีอมตะของไทย “รามเกียรติ์” ตอน หนุมานอมพลับพลาไว้ เมื่อเดินผ่านทางเข้าก็เปรียบ เสมือนได้เดินเข้ามาเยี่ยมชมพลับพลาของพระราม ท่ามกลางบรรยากาศและมนต์เสน่ห์ของพระราชวังสมัยโบราณ มอบความรู้สึกเรียบ หรู หรา ด้วยสถาปัตยกรรมโทนสีเข้มตัดกับสีทองจากทองคำแท้บริสุทธิ์แฝงกลิ่นอายความเป็นไทยไว้ในทุกรายละเอียด ทั้งจิตรกรรมฝาผนังบริเวณชั้นลอยที่บอกเล่าเรื่องราว รามเกียรติ์ และโคมแชนเดอเลียร์รูปชฎาขนาดใหญ่ ที่ประดับด้วยอัญมณีส่องประกายระยิบระยับเล่นสีแสงไฟ จุดดึงดูดสายตาที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของร้านรอยัล โอชา แต่งแต้มบรรยากาศให้โมเดิร์นขึ้น ด้วยเส้นโค้งเว้าของเฟอร์นิเจอร์ ให้มื้ออาหารค่ำน่าประทับใจอย่างมิรู้ลืมในทุกโอกาสพิเศษแด่คนสำคัญของคุณ” ศุภาพิชญ์ กล่าว
ด้าน คุณเกวลิน พิทยานุกุล เชฟผู้วิจัยและพัฒนาเมนู และเจ้าของร้านอาหารรอยัล โอชา กล่าวว่า “ความแตกต่างของรอยัล โอชา จากร้านอาหารไทยแบบพรีเมี่ยมทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเมนูอาหารที่จัดเตรียมอย่างดี โดยเชฟมิชลินที่มีชื่อเสียง ใส่ใจในทุกขั้นตอนการสร้างสรรค์อาหาร เพื่อให้เป็นร้านอาหารที่ทุก ๆ คนเลือกมาในวันสำคัญ และโอกาสสำคัญต่าง ๆ ในชีวิต เราให้ความสำคัญกับการคัดสรรวัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพดีจากเกษตรกรในหลากหลายจังหวัดทั่วไทย รวมทั้งเสาะแสวงหาของดีขึ้นชื่อในแต่ละภาค มาสร้างสรรค์เมนูอาหารไทยรสเลิศ เพื่อให้คุณได้ลิ้มลองรสชาติดั้งเดิมของอาหารท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกัน ทั้งในรูปแบบ A la carte และ Set menu โดยจะสลับสับเปลี่ยน หมุนเวียนเสิร์ฟตามฤดูกาล คิมหันต์ วสันต์ เหมันต์ เพื่อ คงคุณค่าและรสชาติที่ดีที่สุดของวัตถุดิบในแต่ละฤดูกาลไว้ และสร้างสรรค์เมนูอาหารภายใต้แนวคิด “อาหารเป็นยา” เราจึงเลือกใช้พืชผักและสมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณทางยามาเป็นวัตถุดิบปรุงอาหาร และจัด Set menu อาหารประจำฤดูกาลให้ได้อิ่มอร่อย พร้อมช่วยบำรุงร่างกายจากภายในด้วยอาหารไทยเลิศรสหลากหลายเมนู และยังช่วยรักษาระบบนิเวศให้สมดุล”
ปิดท้ายที่ เชฟวิชิต มุกุระ เชฟมิชลิน 2020 Executive Chef and Partner ร้านอาหารรอยัล โอชา กล่าวว่า “การรับประทานอาหาร ควรรับประทานอาหารรสขม เปรี้ยว และจืดเพื่อรักษาสุขภาพที่ช่วยดับความร้อนในร่างกาย เช่น ข้าวแช่ สำหรับคิมหันตฤดูนี้ รอยัล โอชา เตรียมความพิเศษให้ทุกท่านร่วมค้นหาเสน่ห์ของ “ข้าวแช่ชาววัง และข้าวยำ” ตำรับ รอยัล โอชา เมนูสุดพิเศษนี้ได้ถูกถ่ายทอดอย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอนจากรุ่นสู่รุ่น ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบไปจนถึงการปรุงให้ยังคงไว้ซึ่งรสชาติ รูปลักษณ์ และกลิ่นหอมที่ลงตัว โดยใช้ข้าวหอมมะลิเสาให้ที่คัดสรรมาอย่างพิเศษ นำมาขัดจนสะอาด และหุงจนได้เมล็ดข้าวที่เรียวสวย ใส ไม่มีฝุ่นข้าว แล้วนำมาดงกับน้ำลอยดอกไม้ที่ประกอบด้วยดอกไม้ 4 ชนิด ( ดอกชมนาด, ดอกกระดังงา, ดอกกุหลาบมอญ, ดอกมะลิ) ซึ่งน้ำที่ใช้สำหรับลอยดอกไม้ที่มีค่าความเป็นด่างถึง 8.8 (ph. 8.8) มีคุณประโยชน์ในการปรับสมดุลร่างกาย และยังทำให้กลิ่นของดอกไม้ออกมาผสมกับน้ำได้อย่างสมบูรณ์ โดยจะรับประทานเคียงกับเครื่องข้าวแช่ อีก 7 อย่าง ประกอบด้วย ลูกกะปิทอด พริกหยวกสอดไส้ไข่เค็มชุบแป้งทอด หมูฝอยหวาน หอมแดงสดไส้ชุบแป้งทอด ไชโป๊วผัด และผักสดแกะสลัก ทั้งกระชาย มะม่วง และแตงกวา แนะว่ากระชายให้ทานคู่กับกะปิ และมะม่วงกับแตงกวาให้ทานคู่ไปกับเครื่องอื่นๆ จะครบรส ชื่นใจยิ่งนัก
สำหรับข้าวยำ คืออัตลักษณ์อาหารของภาคใต้ เป็นเมนูที่มีความโดดเด่นผสานความหลากหลายของสมุนไพรกับวัตถุดิบชั้นเลิศคลุกเคล้าน้ำยำสูตรพิเศษให้รสชาติที่กลมกล่อมลงตัวอย่างที่สุด ทั้งนี้ ได้นำประสบการณ์ที่คร่ำหวอดในวงการอาหารมากกว่า 4 ทศวรรษ ทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ มารังสรรค์เมนูที่มีความท้าทายอย่างมาก เพื่อให้คนทั่วโลกมองว่าอาหารไทยไม่ใช่เพียงสตรีทฟู้ด แต่เป็นอาหารที่มีความลึกซึ้งแฝงไปด้วยศิลปะวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงาม ผสานกับวัตถุดิบชั้นเลิศจากทั่วโลก ซึ่งแน่นอนว่าอาหารแต่ละจานจะครบรสแบบอาหารไทยดั้งเดิม และคุ้มค่ากับราคาอย่างแน่นอน”
ร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่ในการรับประทาน “ข้าวแช่ชาววัง และข้าวยำ” ตำรับ รอยัล โอชา ณ รอยัล โอชา ถนนวิทยุ ซอยร่วมฤดี ได้แล้วทุกวันตั้งแต่วันนี้ - 31 พฤษภาคม ทุกวัน มื้อเที่ยง เวลา 11.00 - 15.00 น. และ มื้อเย็น เวลา 18.00 - 23.00 น. ในราคา 880++ บาท/ท่าน สำหรับมื้อกลางวัน และ 3,000 ++ ต่อ/ชุด สำหรับมื้อกลางวันและมื้อเย็น (ชุดข้าวแช่พรีเมียม) นอกจากนี้ ทางร้านยังมีข้าวแช่บรรจุในกล่องสวยงามสำหรับมอบให้คนสำคัญหรือผู้ใหญ่ในช่วงฤดูร้อนนี้ ในราคา 2,250 บาท/กล่อง (ผู้ที่สนใจสามารถสั่งจองล่วงหน้า 2 วัน)
สำหรับผู้สนใจลิ้มลองเมนูสไตล์ Chef’s Table โดย เชฟวิชิต มุกุระ กรุณาสำรองที่นั่งล่วงหน้า 1 สัปดาห์ สอบถามรายละเอียดได้ทาง โทร. 02-256-6555 หรืออีเมล [email protected]