posttoday

เที่ยวเทรนด์ใหม่ สัมผัสที่มากกว่ามองเห็น

19 กุมภาพันธ์ 2562

โรงแรมที่พักจะไม่ได้เป็นแค่ที่ซุกตัวนอนเพื่อรอรุ่งเช้าออกไปเที่ยวอีกต่อไป

โรงแรมที่พักจะไม่ได้เป็นแค่ที่ซุกตัวนอนเพื่อรอรุ่งเช้าออกไปเที่ยวอีกต่อไป เพราะเทรนด์การท่องเที่ยวยุคใหม่ ที่พักคือจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว ผู้แสวงหาคำตอบบางอย่างในชีวิต ที่การท่องเที่ยวแบบเดิมตอบโจทย์พวกเขาไม่ได้

ปาริฉัตร แฮห์เนนห์ ผู้จัดการภาคพื้นประเทศไทย และอินโดจีน บุ๊กกิ้งดอทคอม (Booking.com) เผยข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวของคนรุ่นใหม่ จากฐานข้อมูลการจองที่พัก และแบบสำรวจจากนักท่องเที่ยว 29 ประเทศ พบว่านักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ มีความต้องการที่พักที่กำลังจะกลายเป็นเทรนด์ใหม่ของโลก

เที่ยวอย่างเข้าถึง

เที่ยวเทรนด์ใหม่ สัมผัสที่มากกว่ามองเห็น

จากวิถีชีวิตที่แสนวุ่นวาย แสงสี และรถติดในเมืองหลวง นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยจึงเลือกแสวงหาความสงบด้วยการเลือกที่พักแสนเรียบง่าย เช่น วิวท้องนา ภูเขา และริมลำธาร แล้วใช้เวลาพักผ่อนท่ามกลางความเงียบสงบ เพื่อชาร์จพลังชีวิตกลับมาให้เต็มอีกครั้ง

ในขณะที่นักท่องเที่ยวอีกกลุ่มหนึ่ง ไม่ได้ต้องการเที่ยวเพียงแค่การสัมผัสธรรมชาติที่สวยงาม แต่ต้องการเข้าถึงวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น ด้วยการจัดทริปเพื่อการเรียนรู้

เทรนด์การเดินทางประเภทใหม่และวิธีการที่จะช่วยเติมเต็มความต้องการส่วนตัวของผู้เดินทาง ดังจะเห็นได้ว่าผู้เดินทางมุ่งมั่นที่จะมองหาและทำให้ทริปเดินทางมีความหมายยิ่งขึ้น

จากการสำรวจนักท่องเที่ยวมากกว่า 56 เปอร์เซ็นต์ บอกเล่าถึงการเดินทางของพวกเขาว่า การเดินทางท่องเที่ยวได้สอนทักษะการใช้ชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ จึงมีแนวโน้มว่าในปี 2562 จะมีนักท่องเที่ยวที่ต้องการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จัดทริปการเดินทางที่ไม่ได้คำนึงถึงจุดหมายปลายทาง แต่เน้นไปที่กิจกรรมที่ต้องการทำ โดยมีวิวธรรมชาติเป็นเป้าหมายรอง ยกตัวอย่างเช่น การจัดทริปไปทำงานอาสาสมัคร และทริปเน้นเรียนรู้ทักษะในกลุ่มผู้เดินทางทุกช่วงวัย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนเจเนอเรชั่นแซด ที่ให้ความสำคัญกับทักษะประสบการณ์ชีวิตนอกห้องเรียน พอๆ กับการให้ความสำคัญกับใบปริญญาบัตร เพราะโลกยุคใหม่การเรียนรู้ชีวิตที่ได้จากการเดินทางท่องเที่ยวสามารถนำมาใช้ในชีวิตจริง

บทบาทของประสบการณ์นอกห้องเรียน ได้กลายมาเป็นคุณสมบัติของพนักงานที่น่าสนใจในสายตาของบริษัทหลายๆ แห่งที่ต้องการพนักงานที่มีวิสัยทัศน์ในการมองโลกที่กว้างขึ้น มีความมั่นใจในตัวเอง

ทำให้นักท่องเที่ยวมากกว่า 68 เปอร์เซ็นต์ เลือกที่จะจัดทริปเดินทางแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เพื่อเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ อีก 54 เปอร์เซ็นต์ เลือกการจัดทริปอาสาสมัคร และอีก 52 เปอร์เซ็นต์ เลือกที่จะจัดทริปทำงานต่างประเทศและเที่ยวไปด้วยในตัว

จุดที่น่าสนใจในการสำรวจนี้ ก็คือการท่องเที่ยวด้วยการจัดทริปทำงานในต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นที่นิยมอย่างมากกับคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเรียนจบ แล้วต้องการหาประสบการณ์ในการทำงาน ได้ท่องเที่ยว พร้อมกับการได้ฝึกทักษะภาษา และใช้เวลาว่างช่วงวันหยุดเดินทางท่องเที่ยวในประเทศนั้นไปในตัว ใช้ช่วงเวลาไม่กี่เดือนหรือช่วงปีนั้น เต็มไปด้วยประสบการณ์ชีวิตที่สร้างมูลค่าให้กับตัวเองไปตลอดชีวิต

แปลกและแตกต่าง

เที่ยวเทรนด์ใหม่ สัมผัสที่มากกว่ามองเห็น

บ้านต้นไม้ กระท่อมปลายนา ปราสาทเจ้าหญิง โรงแรมใต้พิภพ แล้วไปจบที่ใต้ทะเล คือที่พักที่นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ต้องการ โรงแรม 5-6 ดาว กับสปาสุดหรูและวิวทะเลส่วนตัว ดูธรรมดาเกินไปสำหรับนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ โรงแรมเหล่านี้มีเงินก็พักได้ แต่ที่พักแปลกๆ มีเงินก็ใช่ว่าจะเข้าพักได้ง่ายๆ ต้องใช้ความพยายามในการค้นหา และแย่งชิงกับนักท่องเที่ยวอีกนับล้านที่ต้องการจับจองที่พักเหล่านี้

จากการสำรวจนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ พบว่าส่วนหนึ่งมีความต้องการสำรวจดินแดนบนโลกที่มนุษย์น้อยคนนักจะเดินทางเข้าไป อารมณ์บุกเบิกใหม่แบบอินเดียน่าโจนส์ เริ่มก่อขึ้นในใจของนักเดินทาง บ้างก็สนใจที่พักใต้พิภพ รวมทั้งที่พักในทะเล มีมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

ยิ่งไปกว่านั้น โรงแรมและที่พักแนวนี้ก็เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเลือกไปพักที่บ้านพัก บ้านต้นไม้ เรือพัก แพลอยน้ำ ได้ใช้ชีวิตแบบคนท้องถิ่น และทำให้พบเห็นพื้นที่ในเมืองหรือบางส่วนของประเทศในแบบที่ไม่สามารถสัมผัสได้ หากไปพักในโรงแรมทั่วไปหรือเที่ยวตามรายการนำเที่ยวต่างๆ

ที่สำคัญคือ การเดินทางแบบนี้ประหยัดค่าใช้จ่าย และได้สิ่งที่มากกว่าการเข้าพัก ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยกว่า 62 เปอร์เซ็นต์ นิยมเที่ยวแบบนี้มากกว่า

นอกจากจะเป็นการหาแรงบันดาลใจให้ตัวเองแล้ว ผู้เดินทางยังต้องการทำให้เพื่อนๆ ที่ติดตามโซเชียลมีเดียรู้สึกประทับใจ แสดงความเป็นตัวของตัวเองเหมือนตัวเองได้กลายเป็นผู้นำเทรนด์การท่องเที่ยวแนวนี้

ผลพลอยได้จากการท่องเที่ยวแนวนี้ก็คือ ความตื่นตัวที่เพิ่มขึ้นในเรื่องประเด็นต่างๆ ทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นสิทธิมนุษยชนหรือความเท่าเทียมบางอย่าง เพราะการที่เราได้เข้าพักคลุกคลีอยู่กับคนท้องถิ่น โดยปราศจากสิ่งอำนวยความสะดวกหรูหรา ทำให้เราได้พูดคุยและเห็นภาพอีกโลกที่เราไม่เคยสัมผัสและเก็บรักษาประสบการณ์

นับตั้งแต่สถานที่ที่พวกเขากินและนอน ไปจนถึงสถานที่จับจ่ายซื้อของและดูกีฬาสุดโปรด โดยมุ่งไปที่การสร้างช่วงเวลาที่มีความสุขและความพึงพอใจไปอีกนานเมื่อหวนนึกถึง จึงมีคำกล่าวของนักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้ว่า “สิ่งที่ทำมีความสำคัญเทียบเท่าหรือมากกว่าการไปเยือน”

ทริปสั้นแต่กิจกรรมล้นเหลือ

เที่ยวเทรนด์ใหม่ สัมผัสที่มากกว่ามองเห็น

ในช่วงเวลาที่ผู้คนต้องทำงานหาเงินจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน ทริป 2 วัน 1 คืน ช่วงสุดสัปดาห์จึงมีความหมายสำหรับพวกเขามากมาย อีกเทรนด์หนึ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางคือ การร่วมทำกิจกรรมที่จัดขึ้น ประสบการณ์การเดินทาง จึงช่วยแบ่งเบาภาระความเครียดจากชีวิตวัยผู้ใหญ่

นักเดินทางวัยทำงานกว่า 42 เปอร์เซ็นต์ เลือกวางแผนที่จะไปเยือนจุดหมายที่ทำให้รู้สึกเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง เพราะวัยเด็กเต็มไปด้วยความสุขความสนุกและพลังชีวิตที่ล้นเหลือ

จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมตลาดโบราณ 100 ปี สถานที่ท่องเที่ยวย้อนยุคจึงผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด ดังนั้นในปี 2562 เราจะได้เห็นที่พักให้ความสำคัญกับบรรยากาศที่ความรู้สึกย้อนวัย เต็มไปด้วยความสนุกนาน สระลูกบอลและปราสาทเบาะกระโดดสำหรับผู้ใหญ่ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เดินทางกลุ่มมิลเลนเนียล และกลุ่มเจนแซด

รวมทั้งแผนการเดินทางอัดแน่นในระยะเวลาสั้นๆ จะมาแรง แต่การอัดแน่นที่ว่านี้ไม่ใช่การเที่ยวหลายๆ จุดในวันเดียวแบบชะโงกทัวร์ยุคก่อน แต่เป็นการอัดแน่นด้วยกิจกรรมมากมาย เช่น กิจกรรมเรียนรู้ธรรมชาติ กิจกรรมทำฟาร์ม เกี่ยวข้าว นวดขนมปังทำพิซซ่า รีดนมวัว หรือทัวร์แอดเวนเจอร์ ทำกิจกรรมแข่งรถโกคาร์ต เล่นเครื่องเล่นต่างๆ ตลอดทั้งวัน สะท้อนแนวคิด Less is more หรือ “เรียบง่ายแต่ได้มาก”

โฮมสเตย์มาแรง

กอบศักดิ์ ภูตระกูล นักเศรษฐศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาประเทศ การเงิน และตลาดทุน ได้พูดถึงการท่องเที่ยวในประเทศไทย ในงานประกาศผลรางวัล จีเอสบี สมาร์ท โฮมสเตย์ ว่า การท่องเที่ยวในประเทศไทยถือเป็นแหล่งรายได้หลักอย่างหนึ่งที่นำเงินเข้าประเทศเป็นจำนวนมาก หากพูดถึงการท่องเที่ยว คิดว่าโฮมสเตย์น่าจะเป็นคำตอบใหม่ของการท่องเที่ยวในประเทศไทย และกำลังเป็นเทรนด์ใหม่ของการท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวนั้น

มีคำกล่าวหนึ่งในภาพยนตร์เรื่อง The Beach ที่ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ แสดงนำ พูดว่า หากมาเที่ยวแล้วต้องตื่นเช้ามากินขนมปัง ไส้กรอก เหมือนกับอาหารเช้าที่บ้าน แล้วเราจะเสียเวลาเดินทางข้ามโลกมาที่นี่ทำไม

ประโยคนี้สะท้อนให้เห็นความต้องการของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ว่าเขาไม่ได้ต้องการเดินทางมาเที่ยวเพื่อมาพักโรงแรมหรู นอนในห้องแอร์ ว่ายน้ำในสระของโรงแรม แต่ต้องการเที่ยวเพื่อเข้าถึงวิถีชีวิตของคนในพื้นที่นั้นๆ ว่าเขาทำอะไรกันบ้าง มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และสัมผัสประสบการณ์ที่การท่องเที่ยวแบบอื่นๆ ไม่สามารถมอบให้ได้

ดังนั้น โฮมสเตย์ไทยจึงมีอนาคตไกล เราต้องปรับตัวพร้อมรับกับนักท่องเที่ยว สร้างกิจกรรมที่ทำให้มูลค่าของการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น วิถีชีวิตเราขายได้ วัฒนธรรมเราขายได้ และเป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยวที่จะมาพักผ่อนและหาประสบการณ์ชีวิตที่เขาจะไม่มีวันลืม

ด้าน ปาริฉัตร ก็กล่าวในทำนองเดียวกันว่า สิ่งที่เราอยากจะแนะนำให้กับโรงแรมที่พักต่างๆ โดยเฉพาะโฮมสเตย์ที่มีจำนวนที่พักและความต้องการเพิ่มขึ้นทุกปีนั้น คือเรื่องของกิจกรรมในที่พัก ต่อไปนี้จุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวจะนิยมการทำกิจกรรมในโรงแรมที่พักเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกว่าเงินที่จ่ายไปนั้นคุ้มค่ามากกว่าการเข้าพักเพียงไม่กี่คืน กิจกรรมที่จะทำให้เขารู้สึกสนุกและได้พักผ่อนและท่องเที่ยว