posttoday

ณัฐพงศ์ วุฒิกร ใส่สูทไปปลูกต้นไม้

11 มิถุนายน 2560

ก่อนอื่นผมต้องบอกตามตรงนะครับว่า ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยมีความรู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องการเกษตร

โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ ภาพ เสกสรร โรจนเมธากุล/เพจเฟซบุ๊ก "ใส่สูทปลูกต้นไม้"

“ก่อนอื่นผมต้องบอกตามตรงนะครับว่า ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยมีความรู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องการเกษตร แต่ทำไมผมถึงกล้าที่จะทำการเกษตรแบบมนุษย์บ้าอย่างที่เป็นอยู่นี้ล่ะ คำตอบก็คือ...” ส่วนหนึ่งจากเพจเฟซบุ๊กใส่สูทปลูกต้นไม้ เจ้าของเพจ คือ “ณัฐพงศ์ วุฒิกร” เจ้าของสวนสองกร และผู้บริหารบริษัทโฆษณาดิจิทัลเอเยนซี แอทเฟิร์สไบท์

กลับไปที่คำถามว่า “ทำไมถึงกล้า” ณัฐพงศ์ตอบในหน้าเพจคนใส่สูทฯ ว่าเขาชอบทำในสิ่งที่คนอื่นไม่เชื่อว่าทำได้ ชีวิตชอบความท้าทาย(ตัวเอง) เมื่อไรที่คิดลงมือทำสิ่งใด จะตั้งหน้าตั้งตาทำ จะตั้งหน้าตั้งตาศึกษาเรียนรู้อย่างจริงจัง เมื่อเข้าใจในระดับหนึ่งแล้วจะลงมือทำทันที จากไม่รู้จะกลายเป็นรู้ไปเอง

ศึกษาจากไหน ที่มาต้องย้อนกลับไปในวัยเด็ก ณัฐพงศ์เล่าว่า ตั้งแต่จำความได้ก็ได้เห็น “ภาพของในหลวง” มาตลอด กระทั่งปี 2540 มีวิกฤตต้มยำกุ้ง เศรษฐกิจไทยพลิกสู่จุดต่ำสุด และเป็นปีแรกที่ณัฐพงศ์ได้มีโอกาสนั่งฟังพระราชดำรัสของในหลวงผ่านโทรทัศน์ พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสถึงหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นครั้งแรกๆ

ณัฐพงศ์ วุฒิกร ใส่สูทไปปลูกต้นไม้

“หลังจากนั้นเป็นต้นมา ปรัชญาความพอเพียงได้ถูกเก็บไว้ในส่วนลึกของจิตใจผม คิดไว้ว่าสักวันหนึ่งหากมีความพร้อมและโอกาส ผมจะน้อมนำพระราชดำรัสฯ ไปปฏิบัติให้จงได้” ณัฐพงศ์ เล่า

ผ่านไปหลายปี หลังจากได้ทุ่มเทกับการทำงานอย่างหนัก จากลูกจ้างคนหนึ่งจนกลายเป็นเจ้าของกิจการ มีทุนรอนก้อนหนึ่ง จริงๆ แล้วก็มิได้มากมายนัก ถามตัวเองว่าพร้อมมั้ย ตอบตัวเองว่าก็ยังไม่พร้อมหรอก แต่หากเราตั้งใจที่จะทำอะไรสักอย่าง ก็จงเริ่มต้นในวันที่ไม่พร้อมที่สุดนั้น นั่นคือวันเริ่มต้นที่ดีที่สุดแล้ว

เริ่มต้นแบบคนไม่รู้ที่หาความรู้ โชคดีที่เพื่อนร่วมธุรกิจ “พรชัย แสนชัยชนะ” ที่ทำเกษตรอินทรีย์ตามแนวพระราชดำรัสนำร่องอยู่ก่อน ได้แนะนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ทั้งเรื่องการออกแบบและระบบชลประทานการเพาะปลูก รวมถึงการจัดหาที่ดินแปลงถูกใจ ตั้งอยู่ที่ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี

ณัฐพงศ์ วุฒิกร ใส่สูทไปปลูกต้นไม้

ในเดือน มี.ค. 2559 ณัฐพงศ์ซื้อที่ดิน 2 แปลง แปลงละ 8 ไร่ รวมจำนวน 16 ไร่ แปลงแรกเป็นไร่นาสวนผสม ดำเนินการออกแบบตามหลักภูมิสังคม โคก-หนอง-นาโมเดล ถึงปัจจุบันเพียง 1 ปีเศษ สวนและต้นไม้ในสวนเติบโตเป็นที่น่าพอใจ พูดจริงๆ ก็คือน่าชื่นใจ ส่วนอีกแปลงหนึ่งเป็นแปลงปลูกป่า โดยรับแจกกล้าไม้มาจากจังหวัด ด้วยความตั้งใจที่จะปลูกตอบแทนแผ่นดิน มีไม้สัก ไม้แดง มะฮอกกานี เป็นต้น

ณัฐพงศ์ปัจจุบันอายุ 42 ปี เขาจบปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จบปริญญาโท สาขาเดียวกันที่มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา (Madison, USA) ช่วงแรกของชีวิตสนุกกับการทำงานโรงงานเป็นวิศวกรที่ปรึกษา ต่อมาในช่วง 5 ปีหลังได้ผันตัวเองเป็นนักโฆษณา ร่วมก่อตั้งบริษัทดิจิทัลเอเยนซี (Atfirstbyte) รวมทั้งเป็นวิทยากรให้กับสถาบันต่างๆ

 “ผ่านร้อนผ่านหนาวมากว่า 40 ฤดู เริ่มแก่(ฮา) วิธีคิดในการมองโลกก็เปลี่ยนไป ผมมองเห็นว่า ทุนนิยมกำลังสู่ยุคเสื่อม คนในอนาคตจะให้น้ำหนักกับความมั่นคงทางอาหารมากกว่า ไม่มีเงินไม่ตาย แต่ไม่มีข้าวไม่มีปลากิน ตายนะครับ”

ณัฐพงศ์ วุฒิกร ใส่สูทไปปลูกต้นไม้

นี่แหละที่มาของการตัดสินใจลุยงานด้านเกษตร แล้วก็ต้องเป็นเกษตรพอเพียง ชีวิตที่เลือกคือเลือกตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ศึกษาเพิ่มเติมศาสตร์ของในหลวง เรื่องของน้ำ ดิน ฝน ต้นไม้ พระองค์ท่านบอกไว้หมดแล้ว บวกกับความรู้ด้านวิศวกรรมที่ร่ำเรียนทุกอย่างใช้ความรู้นำ

“ปณิธานของผมคือการที่ผมอยากทำให้ดู อยากทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง คำสอนของท่านทำได้จริง เป็นเหตุเป็นผล และน้อมนำความสุขมาสู่ชีวิตได้จริง ผมเปิดเพจคนใส่สูทปลูกต้นไม้ หวังให้เป็นแหล่งเผยแพร่ความรู้ออกไปให้มากที่สุดเท่าที่คนตัวเล็กๆ คนหนึ่งจะทำได้”

ณัฐพงศ์กล่าวว่า ถ้าเขาทำได้ วิศวกรที่ไม่มีความรู้เรื่องการเกษตรมาก่อนเลยทำได้ เกษตรกรที่มีพื้นฐานด้านเกษตรกรรมอยู่แล้วก็ต้องทำได้ เขาก่อตั้งศาลาเรียนรู้ เพื่อใช้เป็นเสมือนห้องเรียน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ วิธีปฏิบัติ ตลอดจนวิชาการต่างๆ ที่จำเป็น โดยเน้นที่การเกษตรแบบผสมผสาน เรียนปุ๊บทำเวิร์กช็อปปั๊บหรือลงมือปฏิบัติกันจริงๆ ในทันที

ณัฐพงศ์ วุฒิกร ใส่สูทไปปลูกต้นไม้

นอกจากศาลาเรียนรู้แล้ว เขายังก่อตั้งบริษัท ธรรมดินดี สร้างโรงงานปุ๋ยอินทรีย์ ใช้ความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์เพื่อสังเคราะห์ต่อยอดเรื่องปุ๋ย ปุ๋ยที่ณัฐพงศ์วิจัยทำขึ้น แรกเริ่มเพื่อใช้เองในสวนตัวเองก่อน ต่อมาจึงขยายผลแจกจ่ายให้เกษตรในพื้นที่ ชื่อปุ๋ยซุปเปอร์หมู มีทั้งปุ๋ยน้ำและปุ๋ยแห้ง นอกจากให้สารอาหารแก่พืชแล้ว สำคัญคือช่วยฟื้นดินตายให้พลิกฟื้นอย่างรวดเร็ว นั่นเพราะมีจุลินทรีย์ย่อยสารอาหารให้รากพืชดูดซึม

ใครอยากไปเที่ยวดูแปลงเกษตรอินทรีย์ที่สวนสองกร จ.สุพรรณบุรี ก็ติดต่อได้ที่เพจเฟซบุ๊ก “ใส่สูทปลูกต้นไม้” รวมทั้งติดตามเรื่องราวดีๆ ของคนใส่สูทฯ ผู้ถอดสูทไปปลูกต้นไม้พลิกฟื้นผืนดินจนบัดนี้เขียวสะพรั่ง อ่านแล้วรับรองเรื่องแรงบันดาลใจ(ฮา) ทำอะไรดีๆ เพื่อตัวเองและเพื่อชาติ

ส่วนผลผลิต ส่งให้กับร้านอาหารและสวนอาหารเครือญาติ แหล่งรับซื้อที่รับซื้อทุกผลิตภัณฑ์ เสาร์-อาทิตย์หรือวันไหนว่าง จะหอบผลผลิตเข้ากรุงเทพฯ เป็นที่สนุกสนาน ประดามีขนมา ได้แก่ มะนาว ผักบุ้ง มะม่วง มะพร้าวน้ำหอม มะละกอ กล้วย ตะไคร้ ใบมะกรูด ใบโหระพา มะเขือ พริกขี้หนู พริกแดงใหญ่ ดอกสลิด และอีกมากมายยังมีไข่ไก่ไข่เป็ดอารมณ์ดี ใบโตและน่ากินมากๆ

ณัฐพงศ์ วุฒิกร ใส่สูทไปปลูกต้นไม้

“อาหารจะทำให้เราอยู่รอด โลกมาทางนี้นะ กระแสของโลกกำลังเปลี่ยนมาที่ความมั่นคงเรื่องอาหาร พึ่งพาตัวเองได้ ทำปุ๋ยใช้เอง ปลูกพืชกินเอง โอ้โห มันเป็นความรู้สึกที่สุดยอดดีใจ ในความคิดของผมการเกษตรคือวาระแห่งชาติที่ทุกคนต้องมาช่วยกัน ถึงเวลาที่ทุกคนต้องมาช่วยกัน” ณัฐพงศ์ กล่าว

ชีวิตสโลว์ไลฟ์ในสวนอินทรีย์คือชีวิตในฝัน ทุกวันนี้ณัฐพงศ์ยังต้องทำธุรกิจ หากใช้วิธีลดสัดส่วนจำนวนวันทำงานลง โดยในหนึ่งสัปดาห์ลดวันทำงานที่กรุงเทพฯ เหลือ 3 วัน ส่วนอีก 2 วันและเสาร์-อาทิตย์ไปทำสวน(ฮา) โชคดีที่ภรรยาเห็นชอบกับแนวทางนี้ ลูกๆ สนุกกันมาก

“ฝันว่าวันหนึ่งหากเกษียณตัวเองได้ จะขอมาใช้ชีวิต Slow life ที่นี่ หวังว่าคงอีกไม่นานเกินรอ”

เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก “ใส่สูทปลูกต้นไม้” ผู้นำแนวคิดตามแนวทางพระราชดำรัสเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาปรับใช้กับชีวิตของตัวเองและสวนสองกร สองมือที่ลงมือทำ...เรื่องราวดีๆ อีกเรื่องหนึ่งที่สืบเนื่องต่อมาจากแผ่นดินรัชกาลที่ 9