posttoday

'รุก' หรือ 'รับ' ฝ่ายไหนเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวีมากกว่ากัน

13 กุมภาพันธ์ 2563

ความเสี่ยงในการได้รับเชื้อเอชไอวีจากการมีเพศสัมพันธ์ของคู่รักในช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด-ทวารหนัก-ทางปาก แบบไหนมีความเสี่ยงในการได้รับเชื้อเอชไอวีมากกว่ากัน

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า “โรคเอดส์” กับ “เอชไอวี” ไม่เหมือนกัน “เอชไอวี” คือชื่อเชื้อไวรัส “โรคเอดส์” คือกลุ่มอาการที่บ่งบอกว่าภูมิคุ้มกันบกพร่องอย่างมาก เป็นระยะสุดท้ายของการติดเชื้อเอชไอวี เพราะฉะนั้นการติดเชื้อเอชไอวีไม่ได้เท่ากับโรคเอดส์ทุกราย แต่ถ้าติดเชื้อเอชไอวีแล้วไม่ได้รับการรักษาก็สามารถเป็นโรคเอดส์ได้

ข้อมูลโดย ศ.พญ.ศศิโสภิณ เกียรติบูรณกุล สาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า ความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวีของแต่ละคนนั้นมีไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับปริมาณสารคัดหลั่งที่สัมผัส เช่น เลือดและสารคัดหลั่งที่มีเลือดปนจะมีความเสี่ยงในการได้รับเชื้อเอชไอวีมากที่สุด รองลงมาคือ น้ำอสุจิ น้ำคร่ำ น้ำในช่องคลอด ส่วนที่มีความเป็นไปได้น้อยมาก ๆ หรือแทบจะไม่มีเลยคือ น้ำลาย ปัสสาวะ อุจจาระ น้ำมูก และเสมหะ ถ้าไม่ได้มีเลือดปนอยู่ด้วย

จากการศึกษาได้เปิดเผยตัวเลขประมาณความเสี่ยงในการได้รับเชื้อเอชไอวีจากการมีเพศสัมพันธ์ของคู่รัก ในช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

มีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด

คู่นอนที่มีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ฝ่ายรับที่เป็นเพศหญิงจะมีความเสี่ยงในการได้รับเชื้อเอชไอวีถึง 8 ใน 10,000 ครั้งที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อเอชไอวี ส่วนฝ่ายรุกที่เป็นเพศชายจะมีความเสี่ยงเพียงแค่ 4 ใน 10,000 ครั้ง หรือมีความเสี่ยงครึ่งหนึ่งของฝ่ายรับ

มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก

ส่วนคู่นอนที่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก นอกจากจะเป็นคู่ชายรักชายแล้ว ปัจจุบันพบว่าคู่รักชายหญิงก็มีรสนิยมทางเพศทางทวารหนักด้วยเช่นกัน ซึ่งตัวเลขของฝ่ายรับไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงก็มีความเสี่ยงในการได้รับเชื้อเอชไอวีมากถึง 138 ใน 10,000 ครั้ง ส่วนฝ่ายรุกที่เป็นเพศชายมีความเสี่ยงเพียง 11 ใน 10,000 ครั้ง เท่านั้น

มีเพศสัมพันธ์ทางปาก

อย่างที่รู้กันดีว่าการมีเพศสัมพันธ์นั้น ไม่ได้มีแค่ทางช่องคลอดและทางทวารหนักเท่านั้น แต่สามารถร่วมรักทางปากได้ด้วย ซึ่งความเสี่ยงในการได้รับเชื้อเอชไอวี ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรับหรือฝ่ายรุกนั้นมีตัวเลขที่ค่อนข้างต่ำ ไม่สามารถประเมินเป็นตัวเลขได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าความเสี่ยงนั้นคือศูนย์ เพราะถ้าปากมีเลือดออก มีแผล หรือเหงือกอักเสบ ก็สามารถเป็นทางเข้าเชื้อเอชไอวีได้เช่นเดียวกัน

ส่วนสาเหตุที่การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักมีความเสี่ยงในการได้รับเชื้อที่สูงกว่าช่องทางอื่นนั้น เป็นเพราะทวารหนักบอบบางและมีสารหล่อลื่นน้อย ทำให้เกิดการบาดเจ็บและการฉีกขาดบริเวณทวารหนักจนเกิดแผลได้ง่าย รวมไปถึงมีเซลล์ต่าง ๆ ที่สามารถติดเชื้อเอชไอวีได้ง่าย ทำให้ความเสี่ยงในการติดเชื้อจึงมีมากกว่าช่องทางอื่น

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.youtube.com/watch?v=-xugpAhcRPE