เสมหะแต่ละสี มีสัญญาณโรคอะไรซ่อนอยู่
ใครกำลังไอมีเสมหะต้องรู้!! สัญญาณบอกโรคและวิธีรักษา
ใครกำลังไอมีเสมหะต้องรู้!! สัญญาณบอกโรคและวิธีรักษา
หลายวันมานี้มีคนใกล้ตัวไอให้เห็นเป็นประจำ บางคนไอแบบแห้งๆ แต่บางคนก็ไอแบบมีเสมหะปนออกมาด้วย ซึ่งเสมหะนั้นเป็นของเหลวเหนียวข้นที่อยู่บริเวณทางเดินหายใจส่วนล่างที่มีหน้าที่ดักจับสิ่งแปลกปลอมและสร้างความชุ่มชื้นภายในลำคอ โดยเสมหะที่ร่างกายผลิตออกมาอาจมีลักษณะที่แตกต่างกันไปตามภาวะของร่างกาย
การไอแบบมีเสมหะอาจเป็นสัญญาณของโรคหรือภาวะสุขภาพที่ไม่ปกติ อย่างการติดเชื้อ โรคหืด โรคหวัด โรคภูมิแพ้ โรค COPD หรือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคปอดบวม โรคไซนัสอักเสบ หรือโรครุนแรง เช่น โรคมะเร็งปอด ภาวะหัวใจล้มเหลว และวัณโรค อย่างไรก็ตาม การสูบบุหรี่และการระคายเคืองในลำคอจากสาเหตุต่างๆ ก็อาจทำให้เกิดอาการไอมีเสมหะได้ อาการไอมีเสมหะเป็นสัญญาณบอกโรคเสมหะที่ร่างกายผลิตขึ้นอาจบอกได้ถึงโรคและความผิดปกติของร่างกาย
สีของเสมหะนำมาใช้วินิจฉัยโรคในเบื้องต้น ได้ดังนี้
เสมหะสีใส โรคภูมิแพ้ โรคปอดบวม และโรคหลอดลมอักเสบ
เสมหะสีขาว โรคหลอดลมอักเสบ โรคกรดไหลย้อน โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และภาวะหัวใจล้มเหลว
เสมหะสีเขียวหรือเหลือง โรคปอดบวม โรคหลอดลมอักเสบ โรคไซนัสอักเสบ และโรคซิสติกไฟโบรซิส (Cystic fibrosis) ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่ส่งผลให้สารคัดหลั่งในร่างกายเหนียวข้น
เสมหะสีแดง เป็นสัญญาณของภาวะเลือดออกภายในร่างกาย ซึ่งอาจเป็นอาการของภาวะหัวใจล้มเหลว โรคมะเร็งปอด โรคฝีในปอด โรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด และวัณโรค
เสมหะสีน้ำตาล นั่นอาจหมายถึงเลือดเก่าที่ค้างอยู่ภายในร่างกายและปะปนออกมาพร้อมกับเสมหะ โดยรูปแบบนี้อาจเป็นอาการที่เกิดจากโรคปอดบวม โรคหลอดลมอักเสบ โรคพยาธิในปอด โรคฝีในปอด และโรคฝุ่นจับปอด (Pneumoconiosis) ที่เกิดจากการหายใจนำเอาฝุ่นเข้าไปในปอดเป็นจำนวนมาก
เสมหะสีดำ โรคฝีในปอด โรคฝุ่นจับปอด โรคที่เกิดจากการติดเชื้อรา รวมถึงการสูบบุหรี่นอกจากนี้ หากมีไอมีเสมหะที่รุนแรงกว่าปกติ มีเสมหะมากขึ้น หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอย่างถูกต้อง
รักษาอาการไอมีเสมหะวิธีการรักษาอาการไอมีเสมหะอาจทำได้ ดังนี้
- กลั้วคอและปากด้วยน้ำเกลือ โดยผสมน้ำอุ่นครึ่งแก้วกับเกลือ 3 ส่วน 4 ช้อนชา จากนั้นใช้กลั้วทั่วทั้งปากและคอ สรรพคุณของน้ำเกลือจะช่วยลดการระคายเคือง ลดความเหนียวข้นของเสมหะ และช่วยฆ่าเชื้อโรค
- เครื่องทำความชื้น อาจมีบางครั้งที่การไอมีเสมหะนั้นเกิดขึ้นจากการหายใจเอาอากาศที่มีความชื้นต่ำเข้าไปในปอดอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ นอกจากนี้ ความชื้นยังช่วยให้เสมหะเหนียวข้นน้อยลงและขับออกมาง่ายขึ้นอีกด้วย
- ไอน้ำ การหายใจเอาไอน้ำร้อนเข้าไปอาจช่วยละลายเสมหะภายในลำคอและปอดได้ โดยไอน้ำร้อนเกิดขึ้นจากการต้มน้ำ หรือการใช้เครื่องทำน้ำอุ่นที่จะทำให้เกิดไอน้ำภายในห้องน้ำ
- น้ำผึ้ง หลายคนเชื่อว่าน้ำผึ้งสามารถรักษาอาการไอมีเสมหะได้เป็นอย่างดี โดยรับประทานน้ำผึ้งประมาณ 1.5 ช้อนชาก่อนนอน 30 นาที นอกจากนี้ อาจนำส่วนผสมอื่นๆ มาช่วยเพิ่มสรรพคุณให้กับน้ำผึ้งได้ อย่างยูคาลิปตัส น้ำมะนาว หรือสะระแหน่ เป็นต้น
- ชาสมุนไพร อย่างชาขิง ชาสะระแหน่ หรือชากานพลูอาจช่วยบรรเทาอาการไอมีเสมหะได้
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย หรือประมาณ 2.4 ลิตรต่อวัน
- การรักษาด้วยยา ยาที่ใช้ในการรักษาอาการไอมีเสมหะอาจแบ่งได้ 2 ชนิด คือ ยาขับเสมหะ (Expectorants) ซึ่งจะช่วยลดการสร้างเสมหะและทำให้สามารถขับเสมหะออกมาได้ง่ายขึ้น อีกชนิด คือ ยาละลายเสมหะ (Mucolytics) ยาชนิดนี้จะช่วยลดความเหนียวข้นของเสมหะและช่วยให้เสมหะขับออกมาง่ายขึ้น โดยก่อนการใช้ยาทั้งสองชนิดควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้
อย่างไรก็ตาม วิธีการรักษาเหล่านี้เป็นเพียงตัวเลือกที่สามารถทำได้เองเมื่อไม่สะดวกไปพบแพทย์ แต่หากมีอาการรุนแรงหรือทราบว่าตนเองมีโรคประจำตัวควรเข้ารับการรักษาจากแพทย์อย่างถูกต้อง ในกรณีที่ทารกหรือหญิงตั้งครรภ์มีเสมหะควรไปโรงพยาบาลเพื่อวินิจฉัยและหาวิธีรักษาที่เหมาะสม
ภาพ Freepik