ณัฏฐกัญญา แสงโพธิ์ ความสุขของการให้เกียรติทุกคนเท่าเทียมกัน
ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งนักธุรกิจหญิงที่ประสบความสำเร็จ
โดย ภูวดล
ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งนักธุรกิจหญิงที่ประสบความสำเร็จ และได้รับการยอมรับในระดับแนวหน้าของแวดวงธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์
“เปิ้ล” ณัฏฐกัญญา แสงโพธิ์ ประธานกรรมการบริหารในเครือพาราไดซ์ กรุ๊ป และโรงแรมอันดารา รีสอร์ท เรสซิเดนซ์ที่สะสมประสบการณ์การดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับภาคอสังหาฯ ตลอดจนธุรกิจจัดซื้อจัดเช่า กิจการที่เกี่ยวเนื่องกับการรับให้คำปรึกษา รวมถึงโรงแรมและเรสซิเดนซ์
เปิ้ล เล่าให้ฟังว่า เริ่มเข้าวงการและขวนขวายหาประสบการณ์ด้านอสังหาฯ ตั้งแต่ปี 2536 หรือกว่า 25 ปีที่ผ่านมา โดยเริ่มจากทำโครงการในกรุงเทพฯ 3-4 โครงการ ก่อนที่ในปี 2541 จะย้ายถิ่นมาทำด้านอสังหาฯ ที่ จ.ภูเก็ต
และจากนั้นได้เจอพาร์ตเนอร์ผู้ร่วมลงทุนที่ดี จึงร่วมกันพัฒนารีสอร์ท โรงแรม ทำให้มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอสังหาฯ ค่อนข้างสูง
รวมไปถึงด้านการดูแล ควบคุม กำกับดูแลบริษัทสถาปัตยกรรม สถาปนิก งานตกแต่งภายใน การซื้อของ การดีไซน์ ครบวงจรตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง
ขณะที่ความสามารถและความเชี่ยวชาญ คือ ด้านการเงินและบัญชี ทำให้เวลาคิดอ่าน ตรวจข้อมูล จะทำอย่างรอบคอบเพราะกังวลไม่อยากให้ผู้ที่ร่วมลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกหน้าที่ ทุกตำแหน่งต้องเดือดร้อนเสียหายหรือขาดทุนแต่อย่างใด และหากอะไรมีความเสี่ยงก็จะปลีกตัวไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว
“ส่วนหนึ่งเพราะธุรกิจที่ทำจะต้องดูแลทั้งเขาและเรา ผู้ร่วมลงทุนรอบด้าน สิ่งนี้เองทำให้เปิ้ลประสบความสำเร็จจากงานที่ทำ ได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนต่างชาติและคนในองค์กรต่างชื่นชมในจุดนี้ และเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้คนในองค์กรทำอะไรก็ต้องระมัดระวังเรื่องงาน มีความรับผิดชอบ ถูกต้อง รอบคอบ ไม่เสียอะไรโดยเปล่าประโยชน์
ทั้งชีวิตการทำธุรกิจและการทำงานของเปิ้ลในด้านต่างๆ จะดูแลทุกคนรอบด้าน สื่อสารอะไรกับใครต้องชัดเจน ยึดถือความซื่อสัตย์ สุจริต และโปร่งใส เหมือนอยู่ในหลักของการเคารพสิทธิมนุษยชน ซึ่งหลักเริ่มแรกก็คือการให้เกียรติกัน การเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน
เราให้เกียรติพนักงานทุกคน จะเป็นพนักงานล้างห้องน้ำ รปภ. ผู้จัดการ หรือ ดอกเดอร์ เราก็ให้เกียรติเท่าเทียมกันทุกตำแหน่ง ทุกหน้าที่ ทำให้ทุกคนที่ร่วมงานกับเรามีความสุข และยินดี เต็มใจที่จะร่วมงานกับเรา”
เปิ้ล กล่าวย้ำว่า การเป็นนักธุรกิจจะต้องเคารพและดูแลผู้ที่เกี่ยวข้องทุกๆ ด้าน
“เราเป็นนักธุรกิจที่มีความสุขในตัวเองแล้ว ก็อยากให้ทุกคนมีความสุข ทำให้มุ่งเน้นถึงนโยบายด้านสิทธิมนุษยชน พนักงานคือทรัพยากรที่มีค่าที่สุดของเรา ดังนั้นเราจึงให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพ ความเป็นอยู่ เพราะเกี่ยวข้องโดยตรงต่อความสำเร็จของธุรกิจ และความสามารถในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ดังนั้น เราจึงสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานให้ควรค่าแก่การทำงานโดยอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย”
ขณะที่ชุมชนและสังคม เปิ้ลจะอาสาช่วยเหลืองานสังคม เพราะมีความสุขที่ได้ทำ ทั้งโครงการต่างๆ ของกาชาดภูเก็ต และกิจกรรมของโรงแรม เช่น การแจกแว่นตา การแจกรถเข็นผู้สูงอายุ การรับบริจาคเลือด เนื่องจากมองว่าการเป็นประชากรที่ดีของโลกต้องเริ่มจากการเป็นประชากรที่ดีของท้องถิ่น
“ดังนั้น เราจึงให้การสนับสนุนโครงการหลายประเภทในชุมชนของเรา ทั้งวิชาการ การศึกษา การปกป้องสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และกิจกรรมจิตอาสา
นอกจากนี้ ยังได้จัดตั้งชมรม อันดาราอกกำลังกาย ซึ่งมีหลากหลายกีฬา ไม่ว่าจะเป็นวิ่ง ไตรกีฬา ฟุตบอล ปั่นจักรยาน เมื่อเราเห็นเขามีความสุข เราก็มีความสุข เด็กนักเรียนต่างก็มีความสุขที่เราส่งเสริม นอกจากเงินรางวัล เงินทุนการศึกษา พวกเขายังได้สุขภาพที่ดีและชีวิตที่ดี
สิ่งหนึ่งที่ต้องการ คือ ให้ทุกคนมีความสุข เราเองเป็นนักธุรกิจที่มุ่งมั่นและชอบเรียนรู้ทุกด้าน แต่จะต้องไม่ลืมคนรอบข้าง เวลาที่เราสอนหรือให้คำแนะนำเด็กหรือพนักงาน เมื่อเด็กคนนั้นทำตามและประสบความสำเร็จ เราก็มีความสุขและเขาก็มีความสุข สิ่งสำคัญที่ต้องการให้พนักงานเรียนรู้ คือ วินัยการออม เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของเขาในวัยเกษียณ”
สุดท้าย เปิ้ลฝากข้อคิดว่า วิชาชีพบนโลกนี้มีหลายอย่าง ครั้นพอชำนาญในด้านใดด้านหนึ่งแล้ว จะต้องไม่ท้อถอยและจะเรียนรู้ในด้านอื่นๆ ต่อไป
“เพราะถ้ามีคนในองค์กรที่มีความรู้รอบด้านและสามารถจูงมือแนะนำคนรอบข้าง และช่วยผลักดันให้เดินไปข้างหน้าด้วยกัน ธุรกิจและองค์กรนั้นจะเข้มแข็งและมีความสุข”