posttoday

ฉัตรชัย-ปวีณา วงศ์มหเจริญ สุขผ่านงานสร้างสรรค์ได้ไม่จำกัด

11 พฤศจิกายน 2560

“ซาลาเปาบัน 101” ของสองพี่น้องนักธุรกิจรุ่นใหม่ ฉัตรชัย-ปวีณา วงศ์มหเจริญ

 โดย  วราภรณ์ เทียนเงิน ภาพ : วิศิษฐ์ แถมเงิน

 “ซาลาเปาบัน 101” ของสองพี่น้องนักธุรกิจรุ่นใหม่ ฉัตรชัย-ปวีณา วงศ์มหเจริญ ซึ่งสร้างแบรนด์ ซาลาเปาโฮลวีต เพื่อสุขภาพรูปแบบใหม่ และตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่สนใจดูแลสุขภาพ จึงช่วยผลักดันแบรนด์เติบโตต่อเนื่อง

 สองพี่น้อง ร่วมก่อตั้งแบรนด์ซาลาเปาบัน 101 (Bun101) ซาลาเปาโฮลวีต เป็นรายแรกของประเทศไทย หรือรายแรกในโลก มาจากทั้งคู่ต้องการสร้างสิ่งที่แตกต่าง และความสนใจดูแลสุขภาพ รวมถึงความผูกพันในซาลาเปา เมนูอาหารใกล้ตัวที่ได้รับประทานตั้งแต่เด็กๆ ทำให้มุ่งมั่นและสร้างแบรนด์ให้เติบโต ซึ่งในปัจจุบันมีสาขาในห้างสรรพสินค้าจำนวนหลายแห่งแล้ว

ฉัตรชัย-ปวีณา วงศ์มหเจริญ สุขผ่านงานสร้างสรรค์ได้ไม่จำกัด

 ฉัตรชัย กล่าวว่า การทำธุรกิจ ไม่ง่าย และไม่ได้ประสบความสำเร็จจากการทำเพียงวันเดียว ทุกอย่างต้องผ่านบททดสอบหลายด้าน ในช่วงแรกเราทั้งสองคนต้องทำทุกอย่างในร้านเองทั้งหมด ดูแลทุกอย่าง

 "การขนส่งสินค้า ไปส่งสินค้าด้วยตัวเอง ไปจนถึงหน้าที่ทำความสะอาดเอง อีกทั้งในระยะแรกได้เริ่มทำซาลาเปาสีขาวธรรมดา แต่พบว่ายังไม่ตอบโจทย์ความต้องการของเราทั้งคู่ หลังจากนั้นได้เปลี่ยนมาทำซาลาเปาโฮลวีต ถือเป็นบทพิสูจน์ให้เราได้เรียนรู้ และการเลือกทำซาลาเปาโฮลวีต ก็จะเป็นผลดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค รวมถึงต้องกับความต้องการของเราที่จะสร้างธุรกิจให้มีความยั่งยืนในระยะยาว"

 ขณะที่ ปวีณา กล่าวว่า การทำธุรกิจก็เหมือนการเลี้ยงลูก ที่ต้องดูแลตลอด 24 ชั่วโมง และตลอด 7 วัน 

 "เราเคยมีความท้อถอยและมีอุปสรรคหลายด้าน แต่ทุกอย่างมีการมุ่งมั่น อดทน และสู้ให้มากพอ รวมถึงมีกำลังใจที่ดีประกอบกัน พร้อมกับต้องมีความรักในการทำซาลาเปา จึงสามารถร่วมฝ่าฟันทุกอย่างมาได้ โดยซาลาเปาบัน 101 ถือเป็นธุรกิจแรกของทั้งคู่และได้มาทำร่วมกัน อีกทั้งการบริหารธุรกิจต้องต่อยอดหาความรู้ใหม่อย่างต่อเนื่องและไม่หยุดที่จะเรียนรู้"

ฉัตรชัย-ปวีณา วงศ์มหเจริญ สุขผ่านงานสร้างสรรค์ได้ไม่จำกัด

 สำหรับพี่น้องที่ได้มาบริหารร่วมกัน จึงได้มีการแบ่งหน้าที่บริหารงาน ฉัตรชัยจะดูแลหน้าร้านและการบริหารจัดการด้านการตลาด ส่วนปวีณาจะดูแลในด้านหลังบ้าน และการดูแลเมนูอาหารในร้าน ซึ่งในบางครั้งก็มีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันบ้าง แต่ก็มีการพูดคุยและหาข้อตกลงตรงกลาง มีความเคารพซึ่งกันและกัน พร้อมร่วมแก้ปัญหาต่างๆ ไปผลักดันให้แบรนด์มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

 ปวีณา กล่าวว่า การทำซาลาเปาที่ทั้งคู่ได้ศึกษาข้อมูลทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง และได้ทดลองทำเมนูซาลาเปาเอง ได้ลองผิดลองถูก เรียนรู้การทำ และเปิดตัวเข้ามาสู่ตลาด

 "โดยในช่วงแรกของการเปิดตัว ซาลาเปาโฮลวีต ซึ่งมีสีแตกต่าง จากซาลาเปาสีขาว ลูกค้าก็เกิดความสงสัย มีลูกค้าที่ปฏิเสธ แต่เมื่อลูกค้าได้ลองชิมซาลาเปา ต่างให้การตอบรับที่ดี"

 สำหรับ ซาลาเปาโฮลวีต แป้งซาลาเปามาจากจมูกข้าวและน้ำมันรำข้าว รวมถึงเป็นสูตรที่ไม่มีไขมันทรานส์ เพื่อทำให้ผู้บริโภคได้รับอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างแท้จริง รวมถึงเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้าหันมาใส่ใจการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อีกทั้งในร้านยังมีเมนูอาหารอื่นๆ หลายอย่างด้วย

ฉัตรชัย-ปวีณา วงศ์มหเจริญ สุขผ่านงานสร้างสรรค์ได้ไม่จำกัด

 ขณะที่แนวคิดการบริหารธุรกิจในสไตล์คนรุ่นใหม่ ที่ในปัจจุบันมีพนักงานรวม 25 คนแล้ว จากจุดเริ่มต้นเพียง 2 คน โดยการบริหาร พร้อมเปิดกว้างให้ทุกคนได้ร่วมแสดงความคิดเห็น และทีมงานทุกคนก็มีแนวคิดเดียวกัน ในการสนใจเรื่องดูแลสุขภาพ พร้อมกับการให้ความจริงใจแก่ลูกค้า พร้อมให้ข้อมูลทุกด้านและตรงไปตรงมา รวมถึงให้บริการที่ดี ส่งผลให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นในแบรนด์

 ทั้งคู่ทำธุรกิจร่วมกัน แต่ก็มีไลฟ์สไตล์ที่ใกล้เคียงกันด้วย ที่ต่างชื่นชอบการออกกำลังกายเหมือนกันในทุกสัปดาห์ โดยเฉพาะการวิ่ง และการได้ออกกำลังกายยังช่วยในเรื่องการพักผ่อนทางจิตใจ รวมถึงการไปในสถานที่ท่องเที่ยวแปลกใหม่ ทำให้ได้รับแนวคิดใหม่ๆ กลับมา เป็นแรงขับเคลื่อนสร้างบริหารจัดการธุรกิจต่อไป อีกทั้งยังชื่นชอบในเรื่องการทำอาหาร คิดค้นสูตรและได้เรียนรู้ใหม่ๆ

ฉัตรชัย กล่าวถึงแผนงานว่า ในอนาคตที่วางแผนไว้ จะขยายสาขาซาลาเปาบัน 101 ใหม่ ปีละ 1-2 สาขา พร้อมกับการนำเสนอเมนูอาหารเพื่อสุขภาพใหม่ในร้านอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสร้างแบรนด์ ทำให้อยู่ในใจของผู้บริโภค กลุ่มครอบครัว และลูกค้าที่สนใจดูแลสุขภาพ พร้อมกับการสร้างแบรนด์ไทยให้เติบโตและขยายสาขาไปในต่างประเทศและในประเทศเพื่อนบ้าน

 “ในโลก ยังไม่มีร้านซาลาเปาที่มีคอนเซ็ปต์ในแบบนี้มาก่อน เราต้องการสร้างแบรนด์ไทยให้อยู่ในใจลูกค้า นำเสนอเสน่ห์ของเมนูอาหารเอเชีย พร้อมผลักดันแบรนด์ให้เติบโตในประเทศเพื่อนบ้านให้สำเร็จ” ฉัตรชัย กล่าวทิ้งท้าย