posttoday

‘ร้องเพลง’ มูลค่าเพิ่มเสริมภาพลักษณ์

22 มีนาคม 2560

ใครจะคาดคิดว่า “น้ำเสียง” ทั้งการพูดและการร้องเพลงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์และเพิ่มศักยภาพภายในคนคนนั้นให้ดูดี

โดย...วราภรณ์

ใครจะคาดคิดว่า “น้ำเสียง” ทั้งการพูดและการร้องเพลงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์และเพิ่มศักยภาพภายในคนคนนั้นให้ดูดี หรือเสน่ห์หดหายจากการพูดเพียงประโยคเดียว ดังนั้นการพูดและการร้องเพลงโดยเฉพาะในระดับผู้บริหารถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องเพิ่มพูนศักยภาพในตัวเองอยู่อย่างสม่ำเสมอ

เช่นเดียวกับ ฟลุค ชูสุวรรณ เจ้าของเพจ Alwaysfluke และเจ้าของบริษัทออนไลน์เอเยนซี A1113 คนดังทางโลกออนไลน์ ที่การร้องเพลงเป็นผลพลอยได้จากการพัฒนาด้านการใช้เสียง แค่อยากพูดให้มีน้ำเสียงน่าฟังเพื่อให้สามารถนำการใช้เสียงอย่างถูกหลัก และเมื่อพูดด้วยน้ำเสียงใช้ได้แล้ว การเพิ่มศักยภาพด้านการร้องเพลงของฟลุคจึงตามมาซึ่งตอนนี้เขากำลังฝึกซ้อมเรียนร้องเพลงอยู่

ในวัย 40 ปี ที่งานส่วนใหญ่ต้องเป็นวิทยากรสอนด้านการแต่งหน้าและดูแลด้านบุคลิกภาพ ทำให้เขาเห็นความสำคัญของการใช้เสียงมากๆ ปัญหาของเขาคือ การพูดด้วยน้ำเสียงโมโนโทนมาตลอด ซึ่งเขาพยายามปรับตัว และหมั่นเช็กการพูดทางช่องทางออนไลน์และฟังจากบทสัมภาษณ์ของตัวเองออกสื่ออยู่อย่างสม่ำเสมอ

มาถึงจุดที่พูด 10 รอบ 1 สัปดาห์ติดกัน ส่งผลต่อเสียงเพราะเขาใช้เสียงไม่ถูกต้อง หาผู้ช่วยคือครูสอนด้านการใช้เสียง หรือวอยซ์เทรนเนอร์ ครูแอร์-ภาชีวี เจริญสุข เริ่มแรกเรียนแค่การใช้เสียงพูดอย่างไรให้มีน้ำเสียงน่าฟัง หลังๆ ในฐานะที่ได้ครูสอนร้องเพลงชื่อดังมาอยู่กับตัวแล้ว จึงขอคุณครูสอนด้านการร้องเพลงไปได้ด้วยเลย

‘ร้องเพลง’ มูลค่าเพิ่มเสริมภาพลักษณ์ ฟลุค ชูสุวรรณ

“นอกจากครูแอร์จะให้แบบฝึกหัดมาฝึกออกแบบเสียง ครูยังสอนการพูดในที่สาธารณะพูดอย่างไรให้น่าสนใจ ซึ่งการเรียนการพูดต้องมีหลักเกณฑ์ แค่เรียนครั้งแรกเอาแบบฝึกหัดมาฝึกพบการพูดของเราเปลี่ยนไปทันที ซึ่งไม่รู้ว่าเพราะอะไร ปกติในเฟซบุ๊กของผมจะไลฟ์ทุกอาทิตย์ ก็เริ่มมีคนมาทักว่า เอ่อ... พูดดูมีชีวิตชีวา พูดชัดขึ้น จังหวะดีขึ้น เพราะบางแบบฝึกหัดคำที่ผมพูดไม่ชัด ครูจะให้เอ็กเซอร์ไซส์เสียง ครูสอนให้ผมขยับปากทำลิ้น เราทำอะไรได้มากขึ้นกับเสียง ซึ่งเป็นสิ่งเหลือเชื่อ”

เมื่อพัฒนาด้านการพูดฟังได้รื่นหูแล้ว ฟลุคเรียนร้องเพลงเพิ่ม ซึ่งพุ่งเป้าไปที่การให้ครูเลือกเพลงที่เหมาะสมกับคาแรกเตอร์เสียงของเขา การร้องเพลงเป็นสิ่งที่ฟลุคชอบมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ครั้งนั้นยังไม่มีทักษะด้านการใช้เสียงที่ดีมากพอ ลักษณะการร้องจึงเป็นการตะเบ็งเสียง ใครฟังก็บอกว่าไม่โอเค พอเขาได้ฟังฟีดแบ็กแบบนั้น เมื่อคนฟังไม่ว้าว เขาจึงต้องหยุดตัวเองไปโดยปริยาย

“ผมคิดว่าร้องเพลงหรือพูดคือการออกเสียงให้เป็นจังหวะจะโคนให้ชัดเจนมันสำคัญมาก ผมมองว่าการร้องเพลงกับการเข้าสังคมเป็นเรื่องเดียวกัน อย่างล่าสุดผมไปงานเปิดตัวน้ำหอม เจ้าของงานเชิญแขกขึ้นไปร้องเพลงบนเวที อย่าง ดร.สมศักดิ์ ชลาชล ร้องเพลง My Way ได้เพราะมาก แขกฟังเพลิน หรือตัวเจ้าของงานเองก็ร้องเพลงเพราะมาก ทุกคนร้องเพลงเพราะมากๆ นักร้องก็เล่นเปียโนแทน เป็นเสน่ห์ของงานเลยก็ว่าได้”

การเรียนร้องเพลงในวัย 40 ปี ถือเป็นการใช้ศักยภาพของมนุษย์เรา แค่หาครูที่สามารถช่วยปลดล็อกศักยภาพในตัวเราให้ได้ แล้วครูมีหน้าที่ผลักดันเราให้ได้ใช้ความสามารถในตัวเราให้เต็มที่ แล้วเราก็จะโชนเสียงในที่สุด ขอแค่เราเตรียมตัวเตรียมความพร้อมด้านการร้องเพลง แล้วเมื่อถึงวันหนึ่งเราจะสามารถโชว์ความสามารถที่มีของเราออกมาได้

‘ร้องเพลง’ มูลค่าเพิ่มเสริมภาพลักษณ์ เบส-อคพจน์ ธีรพงษกร

ด้าน เบส-อคพจน์ ธีรพงษกร เจ้าของร้านบลูเวล (Blue Whale) ท่าเตียน ก็เป็นศิษย์มีครู โดยเขาเข้าคอร์สเรียนร้องเพลงในโครงการพัฒนาเสียงพูดและการร้องเพลงสำหรับนักแสดงหน้าใหม่ โดยการเรียนร้องเพลงของอคพจน์เพื่อเติมเต็มคำที่คนรอบข้างเคยบอกว่า เขาร้องเพลงไม่เห็นเพราะเลย จนเกิดปมในใจว่าคงเป็นนักร้องที่ดีไม่ได้

เขาจึงพับด้านการร้องเพลงในที่สาธารณะไป แต่เมื่อสวมบทบาทเป็นเจ้าของธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มย่านท่องเที่ยวชื่อดังของกรุงเทพฯ ซึ่งร้านแห่งนี้จัดเป็นสถานที่เช็กอินของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากที่สุด แม้เปิดได้เพียง 6 เดือน และเมื่อต้องทำธุรกิจที่ต้องพบปะผู้คน ซึ่งแต่ก่อนเขาเป็นเด็กหนุ่มที่มีปัญหาด้านการใช้น้ำเสียง คือพูดโมโนโทนและมีน้ำเสียงที่เบา เขาจึงพัฒนาตนเองโดยเข้าคอร์สเรียนด้านการพูดและการใช้น้ำเสียง ซึ่งเมื่อพัฒนาตนด้านการพูดได้น่าฟังแล้ว เขาหาขีดจำกัดความสามารถของตัวเองเพิ่มขึ้น โดยเรียนร้องเพลงต่อ ซึ่งคุณครูก็มีหน้าที่หาเพลงที่เหมาะกับเรนจ์เสียงของเขา เพราะเพลงทุกเพลงไม่ได้เหมาะกับคนทุกคน ดังนั้นเราจึงต้องเลือกเพลงที่เหมาะกับคาแรกเตอร์เสียงของเราเอง แล้วเพลงจะมีความไพเราะมากขึ้น

“จากเมื่อก่อนผมชอบร้องเพลงให้ตัวเองฟังขณะทำงาน แต่ถ้ามีงานเลี้ยงสังสรรค์ร้องคาราโอเกะในกลุ่มเพื่อนก็น้อยมาก แต่หลังจากที่ผมไปเรียนร้องเพลงแล้ว เวลาร้องเพลงให้เพื่อนฟัง เพื่อนจะแปลกใจว่าผมร้องเพลงได้ด้วยเหรอ แต่ผมก็ยังเป็นคนขี้อายไม่กล้าร้องเพลงให้คนอื่นฟังมากนัก แต่การเรียนร้องเพลงของผมเหมือนช่วยปลดล็อกในใจของผมเอง คือ เราคงไม่เหมาะกับการร้องเพลง ซึ่งความจริงคือเราไม่ได้เหมาะกับเพลงทุกเพลง แค่เลือกร้องเพลงให้เหมาะกับเรนจ์เสียงของเรา เพลงก็จะออกมาน่าฟัง ปัจจุบันผมชอบร้องเพลงให้ตัวเองฟัง ทำงานไปด้วยร้องเพลงคลอไปด้วย มันทำให้ผมรู้สึกมีความสุขมากครับ”

‘ร้องเพลง’ มูลค่าเพิ่มเสริมภาพลักษณ์ สุนทรียา ทวิชาประสิทธิ์

สุนทรียา ทวิชาประสิทธิ์ ผู้อำนวยการส่วนอุทธรณ์ราคาศุลกากร สำนักงานมาตรฐานพิธีการและราคาศุลกากร กรมศุลกากร ก็เป็นนักบริหารอีกคนที่รักการร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ โดยอาศัยการฝึกฝนร้องเพลงเองตั้งแต่เด็กๆ จนกลายเป็นความสามารถพิเศษที่ติดตัว เป็นนักเอนเตอร์เทนเนอร์ที่ลูกน้องและเพื่อนๆ ต้องการตัวเวลามีงานเลี้ยงสังสรรค์

“ดิฉันเห็นด้วยเลยกับประเด็นที่ว่าการร้องเพลงเป็นจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้ตัวเราเอง เพราะแค่พูดอย่างเดียวก็ดูธรรมดา แน่นอนการบริหารงานบางครั้งอาจดูจริงจังหรือเข้มงวดเกินไป แต่ถ้าเราร้องเพลงได้เราจะสามารถทำให้ลูกน้องเข้าถึงเราได้ มันดูฟีลฟรี ดูสบายๆ ซึ่งเป็นอีกโหมดหนึ่งที่ลูกน้องเราไม่เคยเห็นหัวหน้างานจับไมค์ร้องเพลง จะเกิดบรรยากาศแห่งความเป็นมิตรขึ้น เขาก็บันเทิงนะ หัวหน้าก็ไม่ได้เคร่งเครียดตลอดเวลานะ

เวลาไปร้องคาราโอเกะเพื่อนจะชวนไปอยู่แล้วแต่เป็นเพื่อนสมัยโต แต่พอเจอเพื่อนสมัยเด็กแล้วเราถูกเชิญให้ไปร้องเพลงเพื่อนในวัยเด็กของเราจะรู้สึกอะเมซิ่งมาก เฮ้ย ไม่เคยเห็นเลย ทำได้ไง มีคนเคยสอนมาว่าถ้าจะร้องเพลงคนเดียวเราร้องอะไรก็ได้ แต่ถ้าร้องให้คนอื่นฟัง เราต้องเลือกเพลงที่เขาร่วมร้องได้ นั่นคือเพลงที่เต้นสนุกสนานไม่ใช่รักอกหัก ต้องร้องเพลงลูกทุ่งจะได้รับเสียงตอบรับมาก

การร้องเพลงดิฉันฝึกเองตั้งแต่เด็ก เสียงต้องออกมาจากกระบังลม จริงๆ อยากเรียนนิเทศศาสตร์ แต่ไม่ได้เรียน พอศึกษาจบจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  มีเวลาว่างช่วงหนึ่งด้วยความชอบแสดง ชอบร้องเพลงมาก จึงไปเรียนคอร์สศิลปะการแสดงของกันตนา ครูจะสอนด้านการโปรเจกต์เสียง การพูดบทละครต้องมีจังหวะจะโคน การแสดงบนเวทีก็ต้องใช้เสียง พูดอย่างไรให้มีจังหวะไม่ใช่เสียงโมโนโทน

ดิฉันก็ได้เรียนการใช้เสียงจริงจังตั้งแต่ครั้งนั้น และก็มีโอกาสได้แสดงละครด้วย ไม่ว่าจะร้องเพลงหรือการแสดง ก็คือโหมดเดียวกันค่ะ”