posttoday

ผ้าทอมือทรงคุณค่า ของรักของหวง สงวนศรี สุทธิพงษ์ชัย

20 เมษายน 2557

ห้องใต้หลังคาของบ้านหลังสวยที่ตกแต่งด้วยสไตล์คอมเทมโพรารี่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีความงดงามของ “ผ้าทอมือ”

โดย...วราภรณ์ ภาพ : วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

ห้องใต้หลังคาของบ้านหลังสวยที่ตกแต่งด้วยสไตล์คอมเทมโพรารี่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีความงดงามของ “ผ้าทอมือ” ซ่อนอยู่ ซึ่งเป็นของสะสมของรักของหวงของผู้บริหารสายตายาวไกลที่มีความละเมียดละไมในการมองเห็นความงดงามของผ้าทอที่หลากหลายของ สงวนศรี สุทธิพงษ์ชัย กรรมการบริหารและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เวสเทอร์น พร็อพเพอร์ตี้ เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งให้เช่าอาคารสำนักงานธนภูมิบนถนนเพชรบุรี อีกทั้งยังเป็นเจ้าของโรงงานให้เช่าและบริหารโรงงานเต็มรูปแบบ ผ้าแต่ละผืนสะท้อนความงดงามของลวดลายผ้าที่แต่ละพื้นบ่งบอกฝีมือการทออันวิจิตรของแต่ละยุคแต่ละสมัย มีทั้งผ้าทอมือ ผ้าไหม และผ้าฝ้าย ทั้งผ้าเก่า ผ้าโบราณ ผ้าซิ่น ผ้าคลุมไหล่ ซิ่นสำเร็จ ทั้งจากลาว มาเลเซีย อุซเบกิสถาน จีน เคนยา ภูฏาน ตุรกี ดูไบ ญี่ปุ่น เขมร พม่า อินโดนีเซีย ไทย มีเก็บสะสมราวพันกว่าผืน หรือแม้กระทั่งผ้าชาวเขาครอสติช ผ้าบางผืนเห็นชาวเขาสวยใส่เดินผ่านมาเมื่อครั้งเธอไปเที่ยวชมดอยตุงของสมเด็จย่า ด้วยความหลงเสน่ห์ลวดลายผ้าโพกหัวของชาวเขา ก็ขอซื้อมาเก็บรักษาความงามไว้ โดยเฉพาะผ้าทอไทย เช่น ผ้าทอมือจาก จ.ขอนแก่น ลำพูน กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี แพร่ น่าน อุทัย แม่ฮ่องสอน เชียงรุ้ง เชียงของ กระเหรี่ยง ฯลฯ สงวนศรีเก็บสะสมเป็นคอลเลกชั่นส่วนตัวทั้งหมด ซึ่งบางผืนเป็นผ้าโบราณอายุมากกว่า 170 ปีทีเดียว บางผืนอายุ 40 ปี ราคามีตั้งแต่หลักแสนไปถึงหลักหมื่นบาททีเดียว

ผ้าทอมือทรงคุณค่า ของรักของหวง สงวนศรี สุทธิพงษ์ชัย

 

สงวนศรี เล่าถึงความชอบ “ผ้าทอ” เริ่มต้นตั้งแต่เด็กๆ เธอเติบโตจากครอบครัวคหบดีที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบของเก่า เริ่มตั้งแต่คุณแม่ร่วมถึงคุณปู่ชอบพาไปชมสิ่งของวัตถุโบราณมาตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งเธอไม่รู้ตัวว่าตนเองชื่นชอบผ้าทอมือที่มีความประณีตมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ได้ซึมซับรสนิยมที่ดีของคุณแม่ที่ชอบตัดเย็บเสื้อผ้าให้ลูกๆ ใส่ อีกอิทธิพลหนึ่งคือสงวนศรีซึมซับเรื่องราวในเรื่องศิลปะความงดงาม ผ่านภาพยนตร์ที่คุณพ่อคุณแม่พาไปดูในวัยเด็ก โดยเฉพาะภาพยนตร์จีนและภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด

ผ้าทอมือทรงคุณค่า ของรักของหวง สงวนศรี สุทธิพงษ์ชัย

 

“ผ้าทอมือ” ที่เธอเก็บสะสมราว 1,049 ผืน เริ่มเก็บสะสมราว 40 ปีที่แล้ว ไม่ได้เกิดจากการไปเดินหาตามร้านค้าผ้าอย่างจริงจัง อาศัยได้ผ้าทอมือจากการไปท่องเที่ยวชื่นชมวัฒนธรรมตามประเทศต่างๆ ประกอบกับความชื่นชอบตั้งแต่เด็กๆ คือ งานฝีมือที่เวลาได้รับมอบหมายจากคุณครูให้ทำงานประดิษฐ์ หรือเย็บปักถักร้อย เด็กหญิงสงวนศรีมักทำได้ดี โดยเฉพาะงานปัก ทำแล้วเธอมีความสุข นำพาสู่ความชอบ “ผ้าทอ” งานหัตถกรรม ซึ่งถือเป็นปัจจัย 4 ของการดำเนินชีวิต ดังนั้น งานทอจึงเป็นงานหัตถกรรมที่ถ่ายทอดมานานกว่า 1,000 ปีแล้ว ซึ่งงานทอแต่ละภูมิภาคสามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ให้สงวนศรีได้ศึกษาถึงความเป็นมาและเรื่องราวของมนุษย์ผ่านงานผ้าทอ สถาปัตยกรรมและจิตรกรรมฝาผนัง หากดูดีๆ ผ้าทอมือที่เธอมีอยู่หลายผืน ล้วนเป็นงานที่ผู้มีความชำนาญในงานนั้นๆ ถ่ายทอดงานวาดบนผนังถ้ำสู่งานทอมือ ให้เธอศึกษาและได้เห็นถึงศิลปะในอดีตอันงดงาม อีกทั้งเรื่องราวบนผ้าทอหลากหลายผืนยังถ่ายทอดความเชื่อทางศาสนาซึ่งศาสนามีอิทธิพลมากในอดีต

ผ้าทอมือทรงคุณค่า ของรักของหวง สงวนศรี สุทธิพงษ์ชัย

 

 

“ผ้าทอหากเราศึกษาลงไปลึกๆ ก็จะรู้ถึงยุคเมื่อหลายพันปีมีวิวัฒนาการขึ้นมาเป็นอย่างไร ในอดีตเป็นบ่อเกิดอารยธรรมมากมาย ทั้งจากทางอียิปต์กับอินเดียมีความเจริญมานับ 5,000 ปี แต่ละภูมิภาคและทวีปมีการส่งถ่ายอารยธรรมของตนผ่านการไปค้าขาย การแผ่ขยายทางศาสนา การสงคราม เมืองที่ชนะมักกวาดต้อนเมืองแพ้ไปอยู่บ้านเมืองตน จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม สิ่งเหล่านี้ดิฉันได้เรียนรู้ ได้ชมผ้าทอมืออันสวยงามจากการเดินทางท่องเที่ยวไปตามประเทศต่างๆ ทั้งทางแถบเอเชีย ตะวันออกกลาง จีน เป็นต้น”

ผ้าทอมือทรงคุณค่า ของรักของหวง สงวนศรี สุทธิพงษ์ชัย

 

 

ผ้าทอมือในคอลเลกชั่นส่วนตัว 1,049 ผืน ล้วนมาจากต่างที่ อาทิ เซาท์อีสเอเชีย 10 ประเทศ อินโดนีเซีย ไทย กัมพูชา มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม เรื่อยไปถึงอินเดีย ศรีลังกา ภูฏาน เกาหลี ญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง ได้แก่ เตอร์กี้ โอมาน ดูไบ อิสราเอล อียิปต์ อุซเบกิสถาน อัลบาเนีย เป็นต้น

ผ้าทอมือทรงคุณค่า ของรักของหวง สงวนศรี สุทธิพงษ์ชัย

 

“เสน่ห์ของผ้าไทยดิฉันคิดว่าอยู่ที่ลวดลายของผ้า ลายผ้าบางผืนบอกเล่าศิลปะร่วมสมัยลวดลายเก่าแก่ ซึ่งเราศึกษาเรื่องราววัฒนธรรมจากลวดลายผ้าได้ เรามองความงดงามความรู้สึกนึกคิดของผู้ทอได้ เราได้ดื่มด่ำลงไปในความงดงามของลายผ้า เรามองถึงคนที่ทอคิดเช่นไร เขาเป็นคนยุคไหน สมัยไหน เราเรียนรู้ประวัติ ความเจริญของมนุษย์ผ่านผ้าทอ ผ้าแต่ละผืนมาจากต่างภูมิภาค แต่ละประเทศความงดงามก็ไม่เหมือนกัน อย่างผ้าทอของชาวอาหรับจะเป็นรูปทรงเรขาคณิต ซึ่งสถาปัตยกรรมของเขาก็มีลวดลายรูปทรงเรขาคณิตเช่นกัน เช่น รูปโดม อย่างผ้าคาชินของชนเผ่าก็จะเป็นลายเรขาคณิตแต่มีการร้อยลูกปัดลงไปด้วย ลายพม่าก็มีลวดลายสัญลักษณ์เฉพาะคือคลื่นน้ำ”

ผ้าทอมือทรงคุณค่า ของรักของหวง สงวนศรี สุทธิพงษ์ชัย

 

หากกล่าวถึงผ้าผืนที่โปรดที่สุด สงวนศรีไม่สามารถเจาะจงได้ เพราะแต่ละผืนมีที่มาต่างกัน แม้จะมีราคาแพงหรือถูกก็มีคุณค่าและความงดงามไม่เหมือนกัน เพราะลวดลายที่สวยงามเกิดได้จากความมุมานะและอดทน ความคิดสร้างสรรค์ลวดลายของผู้ทอ แม้มีการทอซ้ำแต่ลวดลายจะไม่เหมือนกันเพราะความคิดของผู้ทอเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา

ผ้าทอมือทรงคุณค่า ของรักของหวง สงวนศรี สุทธิพงษ์ชัย

 

“ผ้าผืนที่เก่าแก่มากที่สุด คือ 170 ปี เป็นผ้าของเขมรได้มา 20 ปีแล้ว บางผืนอายุ 50 ปี 40 ปี บางผืนเราก็จำประวัติไม่ได้ แต่ดิฉันจะเก็บผ้าทอที่เกิดจากการย้อมเส้นใยธรรมชาติทั้งหมด ผ้าทอสีธรรมชาติก็งดงามแตกต่างจากผ้าทอเคมี แต่ผืนหนึ่งดิฉันไปเจอที่ขอนแก่น เห็นแล้วตกใจ เขาใช้สีเคมีย้อมผ้าฝ้ายได้สวยมาก”

สำหรับแหล่งที่หาซื้อผ้า สงวนศรี เล่าว่า เธอไม่ใช่นักเก็บของเก่าโบราณ เวลาได้ผ้าทอมาก็เกิดจากการไปท่องเที่ยวทั้งสิ้น เพราะเธอเชื่อว่าหากเรามุ่งมั่นในการเสาะแสวงหาของโบราณมากเกินไป ชีวิตก็จะขาดอรรถรสในการท่องเที่ยวไป

“ถ้าเราอยากได้ผ้าโบราณ อย่าอยากได้ อยากมี เพราะเราจะไม่มีโอกาสได้เห็น เราควรจะเจอมันด้วยความบังเอิญ อย่าไปตั้งใจที่จะไปหาซื้อ เพราะดิฉันไม่ได้เก็บเพื่อการพาณิชย์ ถ้าคิดเพื่อค้าขายเราเกิดความกดดันและเครียด เราจะเก็บผ้าไม่สนุก แรกๆ เก็บสะสมเหมือนงานอดิเรก แต่ดิฉันไม่เคยเสาะแสวงหา ถ้าเรายิ่งหาราคายิ่งแพง เราพอใจกับสิ่งที่เราไปเจอและเราเห็นว่ามีความงดงามอยู่ ความงดงามคือประสบการณ์ที่เรามองออกมองเห็นเพื่อตัดสินใจซื้อค่ะ”

ผ้าทอมือทรงคุณค่า ของรักของหวง สงวนศรี สุทธิพงษ์ชัย

 

วิธีเก็บรักษาผ้าทอโบราณ

สงวนศรีแนะวิธีเก็บรักษาผ้าไว้อย่างน่าฟัง คือ ควรจัดระบบการจัดเก็บผ้าอย่างเป็นหมวดหมู่ เพราะความเป็นระเบียบและหาใช้ง่าย สำหรับผ้าโบราณควรม้วนผ้าเป็นม้วนซึ่งเป็นการดูแลรักษาผ้าทอที่ดีที่สุด โดยเฉพาะผ้าที่ทอจากเส้นไหมและทอด้วยดิ้นเงินดิ้นทอง เพราะหากม้วนเส้นด้ายจะไม่หัก เมื่อไม่พับผ้าก็จะไม่เกิดรอยหัก และเก็บไว้สักพักก็ควรนำออกมาม้วนกลับไปกลับมาเพื่อไม่ให้ผ้าตายอยู่กับที่ อีกทั้งควรเก็บผ้าไหมไว้ที่อุณหภูมิ 20 องศา เพราะเส้นไหมก็ถือเป็นสิ่งที่มีชีวิต

“ผ้าของดิฉันทั้งหมดถูกเก็บรักษาไว้ในห้องแอร์ โดยดิฉันจะเปิดเครื่องปรับอากาศ 2 ครั้งต่อวัน และครั้งละ 2 ชั่วโมง คือ ช่วง 10 โมงเช้าถึงบ่ายโมง และช่วง 5 โมงเย็นถึง 1 ทุ่ม เพื่อรักษาอุณหภูมิของห้องให้คงที่” และเคล็ดลับส่วนตัวของสงวนศรีอีกข้อ ก็คือ ผ้าทุกผืนจะไม่ซักเลย เพราะแต่ละผืนเราไม่รู้ว่าย้อมสีด้วยสีธรรมชาติหรือสารเคมี หากซักแล้วผ้าสีตกเกิดด่างดวงจะเสียดายผ้ามากๆ และแก้ไขได้ยาก

“อย่างผ้าทอประดับที่ฝาผนังดิฉันซื้อมาจากอุซเบกิสถานซึ่งย้อมสีธรรมชาติทั้งหมด หากซักไม่รู้ว่าสีจะตกหรือเปล่า เมื่อได้ผ้าแต่ละผืนมาดิฉันจะใช้การผึ่งลม ผึ่งแดด เพื่อให้ผ้าคลายกลิ่นอับที่เก็บเอาไว้ในที่ที่เจ้าของเดิมดูแลดีหรือไม่ก็ไม่รู้ บางผืนผึ่งนานเป็นเดือน เมื่อผ้ากลิ่นสะอาดด้วยแสงแดดแล้ว จากนั้นค่อยเก็บรักษาในตู้อย่างดี ผ้ามีฝุ่นสกปรกก็คือสะบัดๆ”

อีกข้อระวังหนึ่งสำหรับคนรักผ้า คือ ถ้าผ้าทอสวยๆ เราไม่ควรตัดเด็ดขาด เพราะผ้าแต่ละชิ้นมีลวดลายที่งดงามพอดีผืนของเขา เราควรรักที่เขาเป็นเขาเท่านั้น

“ถ้าผ้าโบราณจริงๆ ดิฉันจะเก็บด้วยการม้วนและนำกระดาษหรือผ้าฝ่ายมาลองอีกชั้นหนึ่งแล้วค่อยม้วน โดยเฉพาะผ้าไหมยิ่งทอเส้นละเอียดเนื้อยิ่งบางมากๆ หากรักษาไม่ดีอาจมีการเปื่อย เราควรปูผ้าปูด้านหลังเพื่อดามไว้ หรือเย็บติดไปเลยเพื่อให้เส้นดายคงสภาพดีที่สุด ยิ่งผ้าที่ทอจากไหมน้อยยิ่งละเอียด ยิ่งต้องรักษาให้ดีค่ะ”