posttoday

ณัฏฐ์ ณัฐนิธิการัชต์ นักบริหารผู้มีวิสัยทัศน์

12 สิงหาคม 2556

เมื่อเอ่ยถึง “แอดไวซ์” (Advice) ผู้นำธุรกิจค้าปลีกค้าส่งสินค้าไอทีแถวหน้าของไทย

โดย...วรธาร ทัดแก้ว ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

เมื่อเอ่ยถึง “แอดไวซ์” (Advice) ผู้นำธุรกิจค้าปลีกค้าส่งสินค้าไอทีแถวหน้าของไทย คนทำธุรกิจเกี่ยวกับไอทีส่วนใหญ่จะต้องรู้จัก “เอส-ณัฏฐ์ ณัฐนิธิการัชต์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยร่วมค้าเดอะซิสเต็ม (TJV) เพราะเขาคือผู้บริหารแอดไวซ์ (www.advice.co.th) ตัวจริงเสียงจริง

แอดไวซ์ เกิดขึ้นจากการรวมตัวของร้านค้าไอทีทั่วประเทศ ซึ่งมีรูปแบบการดำเนินการที่เรียกว่า แอดไวซ์ ดิสทริบิวชั่น (Advice Distributions) โดยการนำเอาร้านค้าไอทีที่เป็นลูกค้าขายส่งมาสร้างเครือข่ายและเชื่อมโยงระบบหลังบ้านเข้าด้วยกัน โดยที่แอดไวซ์ไม่ต้องเข้าไปบริหาร แต่ให้เจ้าของกิจการเดิมเป็นคนทำธุรกิจเอง โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ผ่านระบบจัดการทางอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมต่อโครงข่ายครอบคลุมทั่วประเทศด้วยระบบการจัดการที่พัฒนาขึ้นมาจากประสบการณ์มากกว่า 10 ปี เพื่อช่วยในการบริหารงานในร้าน หนึ่งในนั้น คือ ระบบการสั่งซื้อ Smart Ordering Program หรือ SOP ที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้สั่งซื้อสินค้าผ่านหน้าเว็บไซต์ของแอดไวซ์ ทำให้สามารถเช็กจำนวนสินค้าและราคาได้แบบเรียลไทม์

“ขณะเดียวกันเรามอนิเตอร์การตัดสต๊อกสินค้าสำหรับร้านต่างจังหวัด 5 วัน ส่วนร้านในเมืองอยู่ที่ 3 วัน ดูสินค้าได้เป็นชนิดๆ และมีการสอนให้เขาขาดทุนเป็น แล้วจัดการของที่มีในสต๊อกให้หมด เพราะสินค้าไอทีอายุของมันสั้น ตกรุ่นไวมากๆ ยิ่งเก็บไว้กับร้านนานยิ่งขาดทุน นี่คือความสำคัญที่แอดไวซ์ต้องมีระบบออร์เดอร์แพลนเพื่อวางแผนให้กับลูกค้า ทำให้เกิดประสิทธิผล ความสะดวก ความประหยัด แม่นยำ รวดเร็ว” นักบัญชีผู้ก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าของบริษัทค้าปลีกค้าส่งไอทีรายใหญ่ของประเทศ กล่าว

นอกจากนี้ แอดไวซ์ ดิสทริบิวชั่น ยังมีเครื่องมือและช่องทางเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ พร้อมรายงานผลให้กับซัพพลายเออร์เจ้าของผลิตภัณฑ์แบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถทำการตลาด ผลักดันสินค้า และตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว เพื่อรองรับการแข่งขันในตลาดได้อย่างสมบูรณ์ ตลอดจนรับเป็นศูนย์รับเคลมสินค้าให้กับเจ้าของผลิตภัณฑ์โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพเพื่อประหยัดต้นทุนในการเปิดศูนย์บริการเอง ทำให้สามารถขายสินค้าได้ในราคาที่คุ้มค่าให้กับลูกค้าผู้มีอุปการคุณ อีกทั้งยังสร้างความสะดวกให้กับกลุ่มผู้ใช้งาน

ผู้บริหารหนุ่มย้ำว่า แอดไวซ์ ดิสทริบิวชั่น ยังมุ่งเน้นค้าส่งเพื่อช่วยสนับสนุนดีลเลอร์ผู้ประกอบการในทุกพื้นที่ทั่วไทย ให้สามารถแข่งขันและอยู่ในตลาด โดยเน้นความสะดวก รวดเร็ว และประหยัดให้กับดีลเลอร์ ทั้งด้านงานขายและบริการหลังการขาย

“ที่สำคัญเรามีระบบสารสนเทศที่ทำการแจกจ่ายให้กับดีลเลอร์ เพื่อนำไปใช้บริหารกิจการให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ค้าปลีก ด้วยข้อจำกัดบางประการด้านการค้าและการลงทุน เราจึงเหมาะกับการค้าปลีกแบบเทกโฮม (Take Home) สำหรับลูกค้าที่สามารถนำไปใช้และติดตั้งเองได้ในราคาถูก ทำให้ลูกค้าใช้เงินได้อย่างคุ้มค่าโดยแท้จริง” ผู้บริหารหนุ่ม กล่าว

ปัจจุบัน แอดไวซ์ มีเครือข่ายร้านไอทีอยู่กว่า 170 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ 72 จังหวัดทั่วไทย และจะทำการขยายเพิ่มให้ได้ 300 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ 77 จังหวัดทั่วประเทศ ภายในปี 2556

นิกเนม : “เอส” เป็นลูกคนเดียวในครอบครัวที่มีชื่อเล่นเป็นภาษาอังกฤษ โดยพี่สาวคนที่สองตั้งให้

ภูมิลำเนา : คนแม่กลอง จ.สมุทรสงคราม มีเชื้อสายจีน พ่อแม่ทำประมงและค้าขาย มีพี่น้อง 7 คน ชาย 3 หญิง 4 เป็นลูกคนสุดท้อง พ่อและแม่ฝึกสอนให้ทำงานตั้งแต่เด็กๆ ทั้งออกเรือหาปลา ขายของ ส่งข้าวสาร ทำงานบ้าน ไม่มีวันไหนที่ไม่ทำงาน ถ้าว่างจากการเรียน

สถานภาพ : แต่งงานมีลูก 2 คน คนโต 10 ขวบ ภรรยาอยู่ในวงการไอที เป็นเจ้าของบริษัทนำเข้าไอทีเหมือนกัน ตอนที่มีลูกคนแรกต้องสลับกันเลี้ยง ทำงานคนละครึ่งวัน ทำให้ทั้งสองบริษัทไม่โต จึงตกลงกันว่าปีหนึ่งใครหาเงินได้น้อยกว่า คนนั้นต้องปิดบริษัทมาเลี้ยงลูก และเขาชนะ

การศึกษา : ปริญญาตรี สาขาบัญชี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

บุคลิกลักษณะ : หัวดีมาตั้งแต่เด็กๆ ชอบคิดชอบวางแผน ขี้สงสัย มีความคิดสร้างสรรค์ และละเอียดรอบคอบ

ประสบการณ์การทำงาน : เป็นนักบัญชี นักการตลาดและการขายในบริษัทชื่อดังหลายบริษัท รวมทั้งร่วมกับเพื่อนที่เป็นโปรแกรมเมอร์ผลิตซอฟต์แวร์บัญชีขายให้กับองค์กรบริษัทต่างๆ

สไตล์การทำงาน : รวดเร็ว นำหน้าเวลาก่อนเสมอ

แนวคิดการทำธุรกิจ : WinWin ถ้าเลือกได้จะไม่เป็นหนึ่งเดียว แต่จะรวมกันเป็นหนึ่ง ดูแลคู่ค้าให้อยู่กันดีที่สุดและดำรงไว้ซึ่งคู่แข่ง เพื่อให้เกิดการพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา ท้ายที่สุดลูกค้าจะเป็นผู้ตัดสินเองว่าตัวเรามีคุณค่าพอที่เขาจะเลือกใช้บริการจากเราหรือไม่

คำคม : คนเราถ้ามีเวลาย่อมทำอะไรได้ทุกอย่าง แต่คนชอบจำกัดความสามารถของตัวเองด้วยการไม่ทำ

ไอดอล : ไม่มีใครเป็นไอดอล แต่ละคนมีจุดดีของตัวเองที่เขาสามารถหยิบเอามาใช้ได้หมด

ความสำเร็จ : ก่อตั้งบริษัทเล็กๆ จนวันนี้มียอดขายถึง 1 หมื่นล้านบาท ในปี 2555 และปี 2556 ตั้งเป้าที่ 1.6 หมื่นล้านบาท และสามารถสร้างงานให้คนได้เกือบ 1,000 คน กระจายอยู่ตามภูมิภาคทั่วประเทศ

ความภาคภูมิใจ : ทำให้เจ้าของร้านไอทีสามารถบริหารและควบคุมกิจการได้ตามหลักบัญชีที่ถูกต้องและรัดกุม พนักงานทุกคนมีข้าวกินฟรี 2 มื้อ มีรายได้สามารถเลี้ยงตัวและครอบครัวได้ ตลอดจนมีความรู้ ความสามารถเพิ่มขึ้น หน้าที่การงาน ความรับผิดชอบมากขึ้น

ตอบแทนสังคม : บริจาคสมทบทุนมูลนิธิต่างๆ เป็นเรื่องปกติที่ทำทุกปีต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันกำลังสร้างความแข็งแรงให้กับเจ้าของกิจการไอทีทั่วประเทศ โดยหวังว่าวันข้างหน้าพวกเขาจะช่วยเหลือผู้อื่นต่อๆ ไป รวมถึงการทำประโยชน์ต่อสังคม

แนวคิดต่อครอบครัว : ครอบครัวเป็นองค์กรองค์กรหนึ่ง ถือว่าเป็นผลงานชิ้นโบแดงยิ่งกว่าบริษัท เพราะผลผลิตคือลูก หลาน เหลน โหลน ซึ่งไม่มีวันจบสิ้น จะสืบเนื่องไปเรื่อยๆ ยั่งยืนกว่าบริษัท ดังนั้น ต้องแบ่งเวลา และกำหนดหน้าที่กันในครอบครัวเพื่อบริหารได้อย่างต่อเนื่อง