posttoday

ฮอตแห่งปี...วัดท่าไม้

23 พฤษภาคม 2556

จั่วหัวไว้ไม่เกินจริง ถ้าถามวัดไหนที่ฮอตเกินกว่าอากาศที่ร้อนระอุก็ต้องที่วัดท่าไม้นี่ละ 12 ปีมานี้ดังมากๆ

โดย...ชมดาว ภาพ พงษ์ไทย วัฒนาวณิชย์วุฒิ

จั่วหัวไว้ไม่เกินจริง ถ้าถามวัดไหนที่ฮอตเกินกว่าอากาศที่ร้อนระอุก็ต้องที่วัดท่าไม้นี่ละ 1-2 ปีมานี้ดังมากๆ ทั้งสติกเกอร์ชื่อวัดที่ติดตามรถต่างๆ ไหนจะเป็นวัดที่ดาราและผู้จัดละครค่ายดัง หรือแม้กระทั่งเจ้าของช่องต่างๆ ก็พาเหรดกันมาให้อุ่นหนาฝาคั่ง เรื่องดาราน่ะมาทีหลัง ตั้งแต่ 6-7 ปีที่แล้วทั้งนักธุรกิจใหญ่ระดับร้อยล้านพันล้าน นายทหาร นายตำรวจ เขาขึ้นกันมานานแล้ว แต่กระแสไม่ฮือฮาเท่าซุป’ตาร์เขาไปกัน ข่าวเลยดังเป็นพลุแตกกันก็ตอนนี้

ไปดูซิวัดนี้มีอะไรดีระดับคนดังถึงไปกันไม่ขาดสาย คงต้องให้เวลาทัวร์วัดสัก 3 ชั่วโมง

One Stop Service สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีครบครัน

วัดท่าไม้ตั้งเมื่อปี 2532 มีเนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ แต่มีสิ่งปลูกสร้างเต็มพื้นที่จนแน่นขนัดไปหมด เรียกว่าพุทธบริษัทอยากมาไหว้อะไร วัดนี้มีให้ครบทั้ง ไทย จีน ฮินดู เข้าประตูมาเจอองค์พระพุทธเจ้าน้อยเป็นสิ่งแรก ขยับขามาไม่กี่ก้าว จะได้สักการะเสด็จพ่อ ร.5 ขนาดเท่าคนจริงสีทองอร่ามเรือง ใกล้ๆ กับพระอุโบสถที่กำลังก่อสร้างอยู่ยังไม่แล้วเสร็จ ท่านเจ้าอาวาสบอกว่า อุโบสถแห่งนี้จำลองรูปแบบการตกแต่งมาจากหอคำหลวงที่ จ.เชียงใหม่ จะให้แล้วเสร็จภายในปีหน้าเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ถัดมาเป็นอาคารศาลาพระโพธิสัตว์ สถาปัตยกรรมแบบจีน มีเหล่าเทพเจ้าต่างๆ ตามความเชื่อแบบชาวจีน และที่นี่ยังมีให้ทำบุญบริจาคโลงแก่ศพไม่มีญาติอีกด้วย ทั้งตู้บริจาคให้ทุนการศึกษากับเด็กยากไร้ที่วัดอุปถัมภ์อยู่กว่า 1,000 คน

เดินมาเรื่อยๆ เจอศาลาการเปรียญที่ประดิษฐานพระประธานของวัด คือพระพุทธหิรัญราชขนาดใหญ่ ใกล้ๆ กันนั้นมีศาลาขนาดกลางๆ เดินเข้าไปจะพบพระพุทธรูปองค์ใหญ่สร้างตามแบบพระเมตตาที่วัดพุทธคยา และพระองค์ดำ แห่งนาลันทา ประเทศอินเดีย ในศาลานี้จะมีเทพตามศาสนาอินเดียอีกหลายองค์ เปิดบทสวดแบบอินเดียคลอเคล้าให้เข้าบรรยากาศแบบภารตะ

ฝั่งตรงข้ามกันเป็นศาลาเทวาพิทักษ์หรือศาลาพระราหู ประดิษฐานพญาราหูเทวราชองค์ใหญ่ และจัดให้มีพิธีไหว้ราหูทุกๆ วันพุธเป็นต้นตำรับการบูชาพระราหูในยุคแรก ในศาลานี้ยังมีองค์จตุคามรามเทพ ใครอยากจะบูชาของดำทางวัดก็จัดไว้ให้ หรือจะแก้เคล็ดแก้กรรมด้วยการนอนในโลงก็มี

เข้ามาเรื่อยๆ จะพบศาลาชินบัญชร พรหมรังสี เป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทขนาดใหญ่ มีพระบรมสารีริกธาตุชั้นบนของศาลา จัดเป็นสถานที่ศึกษาธรรมของภิกษุ สามเณร และสถานที่ปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนิกชน ใกล้กันเป็นศาลาไม้หลวงปู่รุ่ง (เทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำท่าจีน) ประดิษฐานรูปหล่อของยอดเถราจารย์ 4 องค์ คือ หลวงปู่รุ่ง หลวงปู่ทวด หลวงปู่มั่น และสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี ใกล้ๆ กันเป็นศาลาทรงไทยไม้สักประดิษฐานพระพุทธรูปหลวงพ่อธรรมจักรแก้ว ว่ากันว่าท่านมีความโดดเด่นในเรื่องประธานพรเป็นพิเศษ

ถัดมาศาลาเจ้าแม่โอบทอง มีผู้นิยมไปกราบไหว้ขอพรอยู่ไม่ขาดสายโดยเฉพาะใกล้วันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือนล่ะก็จะมากันเยอะ ภายในเป็นที่ตั้งของท่อนไม้เต็งขนาดใหญ่ ที่ช่วงกลางของลำต้นจะป่องออกมาเหมือนผู้หญิงท้อง มีประวัติความเป็นมาน่าขนลุก

บรรยากาศทั่วไปร่มรื่นใช้ได้มีต้นไม้อยู่แทบทุกมุมของวัด แต่หาที่โล่งๆ ยากเพราะเกือบทุกที่มีแต่สิ่งปลูกสร้างเต็มไปหมด เจ้าอาวาสบอกว่าส่วนใหญ่โยมเขามาขอสร้างถวายอยากให้คนได้มาสักการบูชา มีซุ้มให้เช่าบูชาของขลังต่างๆ ที่ซุป’สตาร์เป็นพรีเซ็นเตอร์เพียบ

ดูดวงแม่นๆ...แม่เหล็กดึงคน

พระครูปลัดอุเทน สิริสาโร เป็นเจ้าอาวาสวัดท่าไม้ด้วยวัยเพียง 30 ต้นๆ ปัจจุบันอายุ 38 ปี เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่รุ่ง ที่ได้ร่ำเรียนผ่านตำราของหลวงปู่รุ่งจากสมุดข่อย 20 กว่าเล่ม มีทั้งตำราโหราศาสตร์ ตำรายาสมุนไพร ตำราปลูกบ้าน ปลุกเสกพระ ดูฤกษ์ยาม ตำราดูสัตว์มงคล ครบเลย เพราะสมองดีจึงเรียนวิชาท่านได้แตกฉานภายใน 2 พรรษาหลังจากได้ตำรามา ประกอบกับเป็นพระสายปฏิบัติมาก่อนมีสมาธิแกร่งกล้าบวกวิชาจากครูดี ผลลัพธ์คือทำนายทายทักได้แม่นยำจนเป็นที่ร่ำลือมานานกว่า 10 ปี ท่านว่าตอนแรกไม่ได้รับดูอะไร แต่ไปทักพระในวัดเรื่องนั้นเรื่องนี้ตั้งแต่อยู่วัดท่ากระบือ ก็เลยปากต่อปากจากพระในวัด ถึงญาติโยม บอกกันไปชวนกันมาเต็มไปหมด

“ไม่ได้อยากดู แต่เขามากันไกลๆ ทุกข์ร้อนกันมา ร้องไห้มา เดือดร้อนมั่ง ทุกข์มาก็ต้องช่วย สอนไปแนะนำไป แต่ก็ไม่ได้ให้ทำอะไรงมงายนะสอนตามแนวทางพระพุทธเจ้าท่านสอนมา เงินทองก็ไม่เคยรับ อยากทำบุญก็ไปหยอดตู้เอา หลวงปู่รุ่งเจ้าของตำราท่านสั่งไว้ว่าอย่าเอาตำรากูมาหาแดก ให้เอาไว้ช่วยคน ยิ่งดังก็ต้องระวังตัว 3 อย่าง คือ สติ สตางค์ สตรี เงินได้มาอาตมาก็ไปเข้ามูลนิธิหมด ตอนนี้มุ่งสร้างโบสถ์อย่างเดียว”

ทุกวันนี้ท่านจำวัดเที่ยงคืน ตื่นตี 4 ปฏิบัติกิจของสงฆ์เสร็จ จะรับดูดวงตั้งแต่ 7.00 น จนถึงค่ำ ท่านฉันเพลมื้อเดียว วันพฤหัสบดีและวัดพระ งดดูดวง ถ้าไม่มีภารกิจไปที่ใดก็จะอยู่ดูดวงให้ญาติโยมถือเป็นงานที่ได้ช่วยคน จะจนจะรวย จะดัง ก็ต้องมานั่งต่อคิวเท่าเทียมกัน ทุกวันนี้มีคนมาจองคิวดูดวงตั้งแต่ตี 4

พระสายปฏิบัติและนักพัฒนา

ปกติแล้ววัดสายปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานจะไม่เน้นสิ่งปลูกสร้าง หรือทำวัตถุเช่าบูชาใดๆ เพราะแก่นคือสอนคนให้ปฏิบัติเรียนรู้ธรรมะ ส่วนพระนักพัฒนาก็ไม่เน้นถือศีลปฏิบัติธรรมเน้นสิ่งปลูกสร้าง แต่ที่วัดท่าไม้ท่านเอา 2 สิ่งมารวมกัน แล้วไปด้วยกันได้อย่างไร ท่านชี้แจงว่ารากเหง้าของวัดนี้เป็นสำนักปฏิบัติธรรมมาก่อน ท่านจึงไม่ทิ้งวัตถุประสงค์เดิมของวัด ที่ต้องมีสอนคนให้มาปฏิบัติธรรมกรรมฐานซึ่งก็ยังทำอยู่ แต่ที่นี่เริ่มคับแคบรับได้เพียงหลักร้อยก็แน่นแล้ว จึงได้ไปสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมที่ราชบุรี กว่า 130 ไร่ ใครที่ต้องการมาเรียนรู้ฝึกฝนตนมาปฏิบัติได้เป็นเดือนๆ อยู่ฟรี เรียนฟรี มีมูลนิธิของวัดดูแลให้หมด รองรับผู้มาปฏิบัติได้เป็นพันๆ คน นี่สำหรับผู้ที่ต้องการมาเรียนรู้ให้ถึงแก่นได้วิชาไปใช้ดูแลชีวิต วัดเป็นของสาธารณะ อาตมาไม่ใช่เจ้าของ สร้างไว้ก็ให้ชาวบ้านใช้ร่วมกัน

แก่นหรือเปลือก...เลือกได้

ที่วัดท่าไม้ เป็นวัดที่มีทุกสิ่งให้คนมาทำบุญ กราบไหว้ขอพร กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นธรรมะแบบที่คนส่วนใหญ่เข้าถึงง่าย สัมผัสจับต้องได้ มีวัตถุให้กราบไหว้บูชาให้อุ่นใจ

“คนเราไม่เท่ากันบางคนมีสติ มีปัญญา มีกำลัง เขาสามารถลางาน พักธุรกิจของเขาทีละ 7 วัน มาเรียนรู้ธรรมะได้บ่อยๆ แบบนี้อาตมาก็ยินดี แต่บางคนหาเช้ากินค่ำได้ค่าแรงวันละ 100200 ให้หยุดงานมาถือศีลปฏิบัติธรรมทีละ 7 วันรายได้หายไปแล้วจะเอาอะไรให้ลูกให้เมียกิน ภาระทางโลกเขาเยอะ งั้นมาวัดได้แค่ 12 ชม มาไหว้พระทำบุญ สวดมนต์ขอพร นั่งสมาธิฟังสวดได้สักครึ่ง ชม ก็ดีถมไปแล้ว แบบนี้อาตมาก็ยินดี เขามาเข้าวัดแม้ชั่วครู่ได้ทำจิตใจให้เป็นกุศลเยือกเย็นทิ้งทุกข์ร้อนไว้นอกวัดสักแป๊บ ได้มาอ่านคำสอนที่ติดไว้ตามต้นไม้ มาอ่านหนังสือธรรมะที่มีไว้แจก ก็ดีกว่าเขาไปเที่ยว ไปเมาหัวราน้ำ วัดก็มีให้พร้อมนะใครจะมาเอาแก่นเอากระพี้ หรือใครจะมาเอาเปลือกก็อยู่ที่เลือกรับกันเอง เพราะทั้งแก่นทั้งเปลือกมันก็ต้องไปควบคู่กัน ขอให้เข้าวัดเถอะดีทั้งนั้น ได้มากได้น้อยก็อยู่ที่บุญของแต่ละคน” ท่านชี้ธรรม

ส่วนเรื่องซุป’ตาร์มาวัดก็เป็นเรื่องบังเอิญ หลายคนมาตั้งแต่ยังไม่ดัง ผู้จัดการเขาพามาให้ดูก็บอกไป คนนี้ดวงดังได้ก็สอนไปว่าจะเสริมดวงให้ดียิ่งขึ้นยังไง บางคนมาก็ไม่รู้ว่าเขาดังลูกศิษย์จะคอยบอกคนนี้เขาดังมากนะ

เด็กวัดร้อยล้าน

ที่ฮอตอีกเรื่องก็คือเด็กวัดที่นี่ไม่ธรรมดา คนนี้เรียกได้ว่าก้นกุฏิเป็นเลขา และประสานงานต่างๆ เพิ่งเซ็นสัญญากับโพลีพลัสไป แบบว่าบอสนิด อรพรรณ โทรมาชวนด้วยตัวเอง เร็วๆ นี้จะมีผลงานทางช่อง 7 เล่นเป็นพระรอง เพิ่งรับปริญญาไปหมาดๆ จากคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) มหาวิทยาลัยศิลปากร หน้าตาตี๋ หล่อ เป็นเด็กแถววัดรู้จักพระอาจารย์มาตั้งแต่อายุ 13 ปี เพิ่งมาช่วยงานได้ 5 ปี กินนอนอยู่ที่วัดแต่ก็มีธุรกิจเป็นของตัวเอง

เอกศุภากร ประทีปถิ่นทอง ตอนนี้อายุ 24 ปี ที่บ้านทำธุรกิจที่ดินแต่เลิกไป ตอนนี้เขามาต่อยอดอีกครั้งทำโรงงานขนาดเล็กขายและเช่า มีโรงเรียนกวดวิชาแถวสยาม มีธุรกิจด้านไอที มีงานอดิเรกในวงการ ถือเป็นมือขวาจับเรื่องสื่อให้วัด