posttoday

พญ.วิมลมาศ พรหมสาขา ณ สกลนคร โต๊ะโตะจัง เล่มนี้ทำให้เด็กเป็นหมอเด็ก

12 พฤษภาคม 2556

เด็กหญิงโต๊ะโตะจัง ดูเหมือนเป็นเด็ก “มีปัญหา” ในสายตาของครู เพราะเธอเป็นเด็กที่ไม่ค่อยจดจ่ออยู่กับการเรียนการสอนของคุณครู

เด็กหญิงโต๊ะโตะจัง ดูเหมือนเป็นเด็ก “มีปัญหา” ในสายตาของครู เพราะเธอเป็นเด็กที่ไม่ค่อยจดจ่ออยู่กับการเรียนการสอนของคุณครู สนใจเรื่องราวนอกหน้าต่างห้องเรียนไปเสียทุกๆ เรื่อง โต๊ะโตะจังถูกไล่ออกจากโรงเรียนเก่าขณะเรียนชั้นประถมหนึ่ง ด้วยเหตุผลว่า “จะเป็นการรบกวนเด็กคนอื่นในชั้นเรียน” นี่คือเนื้อหากระทบใจคุณหมอเปิ้ลพญ.วิมลมาศ พรหมสาขา ณ สกลนคร ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกุมารแพทย์และพฤติกรรมสมองของเด็กทารกและเด็กเล็ก จากสถาบัน Heguru Thailand by Dr.Apple @ Zen เซ็นทรัลเวิลด์ และหนังสือเล่มนี้ก็เปลี่ยนแปลงชีวิตให้ตัดสินใจเลือกเป็น “หมอเด็ก” นับตั้งแต่วันนั้น

“ดิฉันอ่านหนังสือเล่มนี้หลายรอบค่ะ เริ่มอ่านตั้งแต่เด็ก ป.4 คุณอาเป็นเจ้าของสำนักพิมพ์หนังสือเด็ก แล้วก็จะขนหนังสือดีๆ มาให้หลานๆ อ่าน ทำให้หนังสือคือของสะสมของดิฉัน และอ่านได้ทั้งวันทั้งคืน วันไหนไม่ได้อ่านแล้วจะลงแดง แต่ตอนเด็กที่เราอ่านโต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง ดิฉันไม่ได้อยากเป็นหมอนะคะ อยากเป็นครูค่ะ (บอกพร้อมรอยยิ้ม) เพราะถึงแม้ว่าเธอจะถูกไล่ออกจากโรงเรียน แต่ก็โชคดีค่ะที่เด็กหญิงโต๊ะโตะจังมีครูที่รักและเชื่อมั่นในตัวเด็กอย่างเช่นคุณครูใหญ่โคบายาชิ

พญ.วิมลมาศ เล่าให้ฟังว่า โรงเรียนใหม่ของโต๊ะโตะจัง มีแต่เรื่องสนุกๆ ห้องเรียนเป็นตู้รถไฟซึ่งไม่ได้ใช้แล้ว เธอสัญญากับตัวเองว่า “โรงเรียนดีๆ อย่างนี้ จะไม่ยอมขาดเรียนเลยสักวันเดียว”

“ดิฉันนำวิธีนี้มาใช้กับการเป็นหมอเด็ก ถ้าเจอเคสเด็กสมาธิสั้น ก็จะบอกคุณแม่เด็กว่า ก็ของมันไม่สนุกนี่คะ (หัวเราะ) ไม่น่าสนใจค่ะ คุณแม่ต้องหาของที่เขาสนุก เขาสนใจให้ทำ เขาก็จะอยู่กับสิ่งนั้นนานขึ้นๆ สมาธิดีขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ แล้วถ้าเด็กมีปัญหาอย่ารีบตราหน้า เพราะมันเป็นเรื่องที่มีแต่ผลเสียหายตามมา หมอตอนเด็กๆ ก็ชอบแกล้งป่วย อ้วก ร้องไห้ไม่อยากไปโรงเรียน แต่ด้วยความเชื่อมั่นของคุณแม่ที่คิดเสมอว่าลูกเป็นเด็กเรียนเก่ง ไม่เคยจ้ำจี้จ้ำไชหรือเห็นว่าคือปัญหา แต่สนับสนุนว่าลูกเรียนเก่งนะ ลูกทำได้ ลองดูสิ แม่เชื่อว่าลูกทำได้ๆๆ จำได้ว่าท่านบอกย้ำๆ อย่างนั้นกับเราอยู่ตลอดเวลา

ความคิดแม่ส่งผลโดยตรงถึงความคิดของลูกค่ะ เพราะเด็กมักเชื่อในสิ่งที่แม่เชื่อ คือก็คงมีคนบอกคุณแม่หมอว่าลูกสมาธิสั้น ถ้าแม่เราเชื่ออย่างนั้น ดิฉันไม่มีทางได้เรียนแพทย์เป็นคุณหมอแบบทุกวันนี้หรอกนะคะ” พญ.วิมลมาศ กล่าวพร้อมบอกอีกว่า “ถ้าอยากให้ลูกอ่านหนังสือ คุณแม่ลองประดิษฐ์หนังสือนิทานทำมือโดยฝีมือคุณแม่เอง โดยใช้ภาพถ่ายของคนครอบครัวประทับปฏิทินเก่าๆ ใช้ภาพเดินเรื่อง วันนี้หนูไปทะเล หนูตักทราย และรูปนั้นก็คือรูปของเขาและคนในครอบครัว เด็ก 2-3 เดือน ก็ดูรูปพวกนี้ได้แล้ว คุณแม่ลองทำหนังสือเล่มนี้ดูนะคะ