posttoday

ดร.ธีรธร ธาราไชย การเป็นผู้ให้ยิ่งใหญ่เสมอ

03 กรกฎาคม 2555

สัปดาห์หน้าวันที่ 12-15 ก.ค.นี้ จะมีงานใหญ่ประจำปีของวิศวกรรมแห่งชาติ ที่ถือว่าเป็นงานประชุมวิชาการประจำปี

โดย...อณุศรา ทองอุไร

สัปดาห์หน้าวันที่ 12-15 ก.ค.นี้ จะมีงานใหญ่ประจำปีของวิศวกรรมแห่งชาติ ที่ถือว่าเป็นงานประชุมวิชาการประจำปี และยังมีเอกซิบิชันโชว์ทางวิศวกรรมระดับประเทศให้ชมมากมาย เราจึงมีนัดสัมภาษณ์กับชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งคนนี้ ดร.ธีรธร ธาราไชย เพราะเขาเป็นประชาสัมพันธ์ให้กับวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.)และยังเป็นอาจารย์พิเศษที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เติบโตมาในครอบครัวที่มีคุณพ่อและพี่ชายก็ล้วนแต่เป็นวิศวกรทั้งสิ้น ทำให้เขาซึมซับและชอบจึงเลือกเรียนสาขานี้ตามคุณพ่อและพี่ชาย นอกจากเป็นอาจารย์พิเศษแล้วเขายังเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่อีกด้วย

เขาบอกว่าเนื่องจากปลายปีที่ผ่านมาประเทศไทยประสบปัญหาภัยพิบัติอย่างหนักหลายอย่าง ทำให้เนื้อหาการจัดงานในปีนี้มุ่งเน้นให้ความรู้ในเรื่องภัยพิบัติมากขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำท่วมและแผ่นดินไหว ซึ่งไม่แน่ใจว่าปลายปีนี้ประเทศไทยจะเจอเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่อีกหรือไม่ ก็เลยอยากเพิ่มเนื้อหาในส่วนนี้ให้แน่นและแม่นยำเพื่อประชาชนที่เข้ามาชมงานจะได้นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ได้จริง

อีกเรื่องที่เน้นเป็นพิเศษก็คือการเตรียมพร้อมเพื่อรับมือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในอีก 3 ปีข้างหน้านี้ เพื่อให้วิศวกรของไทยเรามีความพร้อมที่จะไปสู้หรือแข่งขันกับเขาได้ “เรื่องความสามารถไม่ห่วงเลยครับ วิศวกรคนไทยเราฝีมือสู้เขาได้สบายมาก แต่ด้อยเรื่องภาษานี่ล่ะที่เสียเปรียบ อีกเรื่องก็คือเรื่องระเบียบวินัย ซึ่งไทยเราสู้สิงคโปร์ไม่ได้เลยเขาเนี้ยบมาก วินัยเป๊ะๆ เลย จึงต้องให้ข้อมูลในเรื่องนี้กันให้มากว่าเรามีจุดด้อยอย่างไรกันบ้างจะได้ปรับปรุงเตรียมพร้อมให้ทัดเทียมกับต่างประเทศ” เขากล่าวด้วยความห่วงใย

ดร.ธีรธร ธาราไชย การเป็นผู้ให้ยิ่งใหญ่เสมอ

ดร.ธีรธร กล่าวต่อไปว่า ช่วงนี้ทางสมาคมจะพยายามให้ความรู้ในเรื่องการส่งเสริมวิชาชีพ พัฒนาจุดอ่อนจุดแข็งสมาชิกวิศวกรของไทยให้แข็งแกร่งสู้เขาได้ โดยเฉพาะเรื่องปฏิบัติต้องให้มากควบคู่ไปกับเรื่องทฤษฎีเลย “อย่างโครงการที่ทวายของพม่าก็มีวิศวกรไทยไปทำงานกันเยอะ เราก็ต้องพัฒนาให้เก่งยิ่งๆ ขึ้นไป เพราะงานวิศวกรรมคืองานในเรื่องของความปลอดภัย”

แม้จะอยู่ในวัย 30 ปลายๆ ทำงานหลายอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่เขาพยายามจะแบ่งเวลาให้เสมอก็คือเรื่องงานที่เกี่ยวกับกิจกรรมเพื่อสังคม เพราะอยู่ในวัยหนุ่มยังมีพลังเหลือเฟือ ควรจะอุทิศเวลาให้กับงานส่วนรวมบ้าง ไม่ต้องรอจนแก่ถึงมีเวลาเหลือแล้วคอยทำ ของแบบนี้ยิ่งให้เรายิ่งได้ ได้ประสบการณ์ได้สายสัมพันธ์ที่ดีๆ กลับมา

ส่วนมีหลักการทำงานอย่างไรนั้น เขาบอกว่าต้องมีความซื่อสัตย์ในวิชาชีพ เพราะงานวิศวกรหัวใจสำคัญคือเรื่องของความปลอดภัย มีความซื่อสัตย์ต่องานของเรา ต่อลูกค้าของเรา และตัวเราเอง บางครั้งตัวตายไปแล้วแต่ตึกที่เราสร้างยังอยู่ ดังนั้นจึงต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพ ทำงานให้มีความสุขสนุกกับการทำงานไม่เครียดงานก็จะออกมาดี และเมื่อทำเพื่อตนเองประสบความสำเร็จดีแล้ว อย่าลืมทำเพื่อคนอื่น เพื่อสังคมบ้าง คนเราควรเป็นทั้งผู้รับและผู้ให้ไปพร้อมๆ กัน

สำหรับแผนงานในอนาคตเขาอยากจะมีธุรกิจเป็นของตนเอง ทางด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อาจจะไม่ใหญ่โตมาก แต่เป็นโครงการที่ดีมีคุณภาพ มีสภาพแวดล้อมที่ดี ถือว่าเป็นคนหนุ่มที่มีหลักการมีจิตอาสาเพื่อสังคมอย่างน่านิยมอย่างยิ่ง