posttoday

ปิด535เว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์สินค้า-หนัง-เพลง

25 มิถุนายน 2561

พาณิชย์ประสานดีอีเร่งดำเนินคดีหลังพบสินค้าเถื่อน ทั้งหนัง เพลง แบรนด์สินค้ากระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า นาฬิกา

พาณิชย์ประสานดีอีเร่งดำเนินคดีหลังพบสินค้าเถื่อน ทั้งหนัง เพลง แบรนด์สินค้ากระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า นาฬิกา

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมได้มีการติดตามและตรวจสอบการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทางอินเทอร์เน็ตอย่างต่อเนื่อง โดยผลการดำเนินการส่งเรื่องให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์ตามมาตรา 20 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 ตั้งแต่เดือน ก.ย. 2560-พ.ค. 2561 มีจำนวน 17 เรื่อง และศาลมีคำสั่งให้ระงับการกระทำให้แพร่หลาย หรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาหรือปิดกั้นเว็บไซต์แล้วจำนวน 8 เรื่อง จำนวน 535 ยูอาร์แอล (URLs) ซึ่งเป็นที่อยู่ของไฟล์หรือเว็บไซต์บนอินเทอร์เน็ต

“ในจำนวน 535 ยูอาร์แอล ส่วนใหญ่เป็นเว็บและลิงก์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์หนังและเพลง รวมถึงกระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า นาฬิกาปลอม เป็นต้น ซึ่งกรมได้ทำงานร่วมกับเจ้าของสิทธิในการตรวจสอบ รับแจ้งเบาะแส และเมื่อได้ข้อมูลชัดเจน ก็ส่งเรื่องไปยังกระทรวงดีอีให้ดำเนินการปิดเว็บหรือปิดกั้นเว็บ หรือปิดยูอาร์แอล เพราะบางรายไม่ได้อยู่ในประเทศไทย” นายทศพล กล่าว

ทั้งนี้ กรมยังคงเดินหน้าตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทางเว็บไซต์ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และเปิดรับเรื่องร้องเรียนจากผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไป หากใครพบเห็นสามารถยื่นเรื่องมาที่กรมได้ โดยกรมจะเร่งเข้าไปตรวจสอบ ถ้ามีหลักฐานชัดเจน จะรีบดำเนินการตามขั้นตอนทันที เพื่อไม่ให้มีการจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์อีกต่อไป

สำหรับการปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์บนอินเทอร์เน็ตผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ทั้งเฟซบุ๊ก ยูทูบ อินสตาแกรมทางกรมได้ประสานงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมีผลการจับกุมของกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) ในช่วง 4 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-เม.ย.) จำนวน 44 คดี ของกลาง 3,256 ชิ้น

ด้านการจับกุมสินค้าละเมิดในท้องตลาด ทั้งที่จำหน่ายในตลาดทั่วไปและสถานที่เก็บ ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2560-พ.ค. 2561 มีจำนวน 2,563 คดี ของกลาง 9.79 ล้านชิ้น

ขณะที่ นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ขณะนี้มีประชาชนร้องเรียนผ่านสายด่วนราคาสินค้า 1569 ในกรณีซื้อขายสินค้าผ่านออนไลน์ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมมากขึ้น โดยผู้ขายสินค้าออนไลน์ไม่แสดงราคาสินค้าตามที่กฎหมายกำหนด หรือบางรายให้รายละเอียดเฉพาะราคาสินค้า แต่จะไม่รวมค่าขนส่งทั้งหมด ส่วนใหญ่จะเป็นช่องทางเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และไลน์ เป็นต้น ดังนั้นกรมขอฝากเตือนผู้ค้าออนไลน์ติดป้ายราคาสินค้าพร้อมค่าบริการขนส่งและอื่นๆ ให้ครบ ไม่เช่นนั้นจะมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 1 หมื่นบาท และที่ผ่านมาก็ดำเนินการปรับไปแล้วหลายรายส่วนใหญ่ค่าปรับเฉลี่ยที่ 2,000 บาท

“ส่วนใหญ่ผู้บริโภคบอกว่าร้านค้าออนไลน์หลายร้านไม่บอกราคา แต่ให้ผู้ชื้ออินบ็อกซ์ไปสอบถามราคาเอาเอง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเทคนิคในการเปลี่ยนราคาสินค้าได้ง่ายๆ หรือเทคนิคการขายที่ให้ผู้ซื้อเข้ามามีปฏิสัมพันธ์กับผู้ขายก่อน แล้วค่อยโน้มน้าวภายหลัง ซึ่งกรมเห็นว่าไม่เหมาะ ดังนั้นผู้ขายสินค้าออนไลน์ต้องแสดงราคาสินค้าเป็นตัวเลขอาระบิกและรายละเอียดสินค้า เช่น ขนาด น้ำหนักให้ชัดเจน รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่นค่าส่ง ก็ต้องแสดงให้ชัดเจนด้วย” นายบุณยฤทธิ์ กล่าว