posttoday

แกร็บปรับองค์กรใหม่ งัดกลยุทธ์เบ็ดเสร็จในแอพเดียว

09 พฤษภาคม 2561

แกร็บปรับองค์กรใหม่ ชูกลยุทธ์เบ็ดเสร็จในแอพเดียว ขยายทำแกร็บฟู้ดเสริมไลน์ พร้อมยื่นขอใบอนุญาตให้บริการทางการเงินจาก ธปท.

แกร็บปรับองค์กรใหม่ ชูกลยุทธ์เบ็ดเสร็จในแอพเดียว ขยายทำแกร็บฟู้ดเสริมไลน์ พร้อมยื่นขอใบอนุญาตให้บริการทางการเงินจาก ธปท.

นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แกร็บ ประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับองค์กรใหม่ (รีออร์แกไนเซชั่น) ภายหลังการควบรวมกิจการกับอูเบอร์ในระดับอาเซียนช่วงต้นปี 2561 โดยโฟกัสธุรกิจด้วยการพัฒนาแอพพลิเคชั่นแบบศูนย์รวมทุกความต้องการไว้ในแอพเดียวภายใต้แนวคิด แกร็บ เอฟรี่เดย์ (Grab Everyday) ซึ่งมี 3 แกนธุรกิจหลักได้แก่ 1.บริการรถสาธารณะ (ทรานสปอร์ต) 2.บริการส่งสินค้า (เดลิเวอรี่) และ 3.บริการทางการเงิน (เพย์เมนต์/ไฟแนนเชียล) ซึ่งคาดว่าจะสมบูรณ์ภายในปีนี้

ทั้งนี้ รูปแบบการให้บริการของบริษัทในอนาคตจะสามารถเชื่อมโยงถึงกันทั้งหมดทั้งในด้านการเดินทาง การสั่งอาหาร การส่งสินค้า และการชำระเงิน ผ่านแอพพลิเคชั่น "แกร็บ" เพื่อรองรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และการก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสด (แคชเลสโซไซตี้)

นอกจากนั้น ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัว "แกร็บ ฟู้ด" อย่างเป็นทางการ เพื่อขยายความครบถ้วนในการให้บริการบนแอพ พลิเคชั่นเดียว ซึ่งได้มีการทดลองให้บริการไปแล้วในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดีด้วยการเติบโต 440% นับตั้งแต่เริ่มทดลอง และปัจจุบันมีจำนวนร้านอาหารที่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรจำนวน 4,000 ร้าน ซึ่งมีแผนขยายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

"แม้ว่าการแข่งขันในตลาดฟู้ดเดลิ เวอรี่ จะรุนแรงแต่บริษัทมองเป็นโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งได้จัดโปรโมชั่นฟรีค่าส่งตั้งแต่ วันนี้ถึงสิ้นเดือน พ.ค.นี้" นายธรินทร์ กล่าว

นายธรินทร์ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการยื่นขอใบอนุญาตการทำ อี-วอลเล็ต และการปล่อยสินเชื่อใน รูปแบบ นาโน ไฟแนนเชียล กับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยมีแผนในการปล่อยกู้ให้กับผู้ขับขี่ในแอพพลิเคชั่นแกร็บ เพื่อยกระดับการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของกลุ่มดังกล่าวโดยใช้ฐานข้อมูลที่ลงทะเบียนในแอพของบริษัท จากนั้นจะแนะนำบริการ "แกร็บ ไฟแนนเชียล" ต่อไป

ขณะที่ด้านแผนการขยายการให้บริการรถสาธารณะของบริษัทให้ครอบคลุมจังหวัดต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีพื้นที่ในการให้บริการ 16 จังหวัดทั่วประเทศ และในช่วงกลางเดือน พ.ค.นี้ จะขยายไปยัง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยภายในปีนี้มีแผนขยายการให้บริการทั้งสิ้น 20 จังหวัด

นายธรินทร์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในกรุงเทพมหานคร (กอ.รมน.กทม.) สั่งห้ามไม่ให้รถยนต์ส่วนบุคคลให้บริการ รับ-ส่ง ผู้โดยสารเด็ดขาดนั้น บริษัทอยู่ระหว่างการทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งบริษัทยินดีให้ความร่วมมือทุกวิถีทางเพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการให้ถูกต้องตามที่รัฐกำหนด