posttoday

อูเบอร์ทิ้งอาเซียน ขายให้คู่แข่งแกร็บ

10 มีนาคม 2561

สื่อเผยอูเบอร์ยอมทิ้งธุรกิจในอาเซียน ขายให้แกร็บแลกถือหุ้น 30% หวังเดินหน้าเข้าตลาดหุ้นปี 2562

สื่อเผยอูเบอร์ยอมทิ้งธุรกิจในอาเซียน ขายให้แกร็บแลกถือหุ้น 30% หวังเดินหน้าเข้าตลาดหุ้นปี 2562

หนังสือพิมพ์วอลสตรีท เจอร์นัล รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า บริษัท อูเบอร์ เทคโนโลยี อิงค์ ได้ตกลงขายกิจการเกือบทั้งหมดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้กับคู่แข่ง บริษัท แกร็บ อิงค์ โดยอูเบอร์จะได้ถือหุ้นในแกร็บเป็นการแลกเปลี่ยนที่มีสัดส่วนราว 30% นับเป็นการจบศึกรถโดยสารผ่านแอพพลิเคชั่นที่ยืดเยื้อมาตลอดหลายปีในอาเซียน

รายงานระบุว่า ข้อตกลงครั้งนี้ยังอยู่ระหว่างการสรุปในรายละเอียดขั้นสุดท้าย ซึ่งอูเบอร์อาจได้สัดส่วนการถือหุ้นลดลง ขณะที่ข้อตกลงขายกิจการแลกการถือหุ้นครั้งนี้ยังคล้ายคลึงกับข้อตกลงที่อูเบอร์ทำกับบริษัท ตีตี ชูซิ่ง ในจีนเมื่อปี 2560

การบรรลุความตกลงเบื้องต้นในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนฐานะทางการเงินของอูเบอร์ และอาจทำให้อูเบอร์สามารถเข้าตลาดหลักทรัพย์ออกหุ้นเสนอขายแก่สาธารณชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ได้ในปี 2562 ตามแผนที่วางเอาไว้ได้ หลังจากบริษัทประสบภาวะขาดทุนสุทธิถึง 4,460 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.4 แสนล้านบาท) ในปี 2560 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ หลังจากที่นายดารา คอสโรว์ชาฮี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของอูเบอร์ เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา อูเบอร์ได้เดินหน้าขายธุรกิจที่ไม่ทำกำไร เช่น ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ และดำเนินการยอมความกับบริษัท อัลฟาเบธ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ในคดีที่ถูกกล่าวหาว่าขโมยความลับทางการค้า

อย่างไรก็ดี โฆษกของอูเบอร์และแกร็บยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อข่าวนี้

ก่อนหน้านี้ อูเบอร์ได้ทุ่มงบประมาณถึงราว 200 ล้านดอลลาร์/ปี (ราว 6,300 ล้านบาท) เพื่อแข่งขันในตลาดอาเซียนกับคู่แข่งรายใหญ่ เช่น แกร็บ จากสิงคโปร์ และโกเจ็ก หรือธุรกิจเรียกรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างผ่านแอพพลิเคชั่นจากอินโดนีเซีย ที่เพิ่งระดมทุนได้มากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 3.13 หมื่นล้านบาท)

รายงานระบุว่าในปีที่ผ่านมา แกร็บระดมทุนได้ถึงราว 2,500 ล้านดอลลาร์ (ราว 7.84 หมื่นล้านบาท) จากนักลงทุนทั่วโลกซึ่งรวมถึงบริษัท ซอฟต์แบงก์ จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งต่อมาในช่วงต้นปี 2561 ซอฟต์แบงก์ได้เข้าซื้อหุ้น 15% ในอูเบอร์ เป็นมูลค่า 7,700 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.41 แสนล้านบาท) ทำให้ซอฟต์แบงก์เป็นนักลงทุนรายใหญ่ในธุรกิจเรียกรถผ่านแอพ เช่น อูเบอร์ แกร็บ รวมถึงตีตี ชูซิ่ง ในจีน และโอลา ในอินเดีย

ทั้งนี้ แกร็บซึ่งมีสำนักงานใหญ่ที่สิงคโปร์ ก่อตั้งขึ้นในปี 2012 ก่อนจะขยายกิจการอย่างรวดเร็วในหลายประเทศแถบอาเซียนจนมีฐานลูกค้าในปัจจุบันมากกว่า 2.1 ล้านคน และล่าสุดได้ขยายธุรกิจไปยังกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อปีที่แล้ว