posttoday

ชู "ดิจิ-ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์ม" ปั้นนิวเซ็นทรัล นิวอีโคโนมี

06 มีนาคม 2561

เทคโนโลยีที่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผู้บริโภค ส่งผลให้กลุ่มเซ็นทรัลต้องปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจครั้งใหญ่

โดย...จะเรียม สำรวจ

เทคโนโลยีที่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผู้บริโภค ส่งผลให้กลุ่มเซ็นทรัลต้องปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจครั้งใหญ่ ด้านการทรานส์ฟอร์มธุรกิจผสมผสานการทำธุรกิจออฟไลน์และออนไลน์ไปพร้อมๆ กันเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ

ญนน์ โภคทรัพย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจนับจากนี้ บริษัทจะเป็นเจ้าของธุรกิจค้าปลีกอย่างเดียวไม่ได้ แต่จะต้องเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มด้วย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลให้ทัน

ดังนั้น จึงวางยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจอีก 5 ปีนับจากนี้ (2561-2565) ด้วยการพากลุ่มเซ็นทรัลสู่การเป็น “นิวเซ็นทรัล นิวอีโคโนมี” (NEW CENTRAL, NEW E-CONOMY) เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านดิจิ-ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์ม (Digi-Lifestyle Platform) แห่งแรกในประเทศไทย และมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่เหนือกว่าให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ

สำหรับกลยุทธ์ที่กลุ่มเซ็นทรัลเลือกนำมาใช้ คือ ดิจิ-ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์ม ซึ่งจะถูกพัฒนาขึ้นมาในทุกกลุ่มธุรกิจในเครือ เพื่อต่อยอดไปยังธุรกิจใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ด้วยการขับเคลื่อนธุรกิจผ่าน 3 มิติสำคัญ คือ 1.ข้อมูล (Data) จัดเก็บข้อมูลทั้งหมด (Data Lake) จากทุกกลุ่มธุรกิจไว้บนระบบคลาวด์ เพื่อที่จะสร้างความเข้าใจที่ตรงกันเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกค้าเชิงลึก (Single view of customer) และมอบประสบการณ์ที่ดีกว่าให้กับลูกค้า

2.ลอยัลตี้ และการตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคล (Loyalty & Personalized experience) ผ่านแพลตฟอร์มใหม่ของเดอะวัน (The 1) ซึ่งจะทำให้กลุ่มเซ็นทรัลสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นกับลูกค้า และตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคลได้ดียิ่งขึ้น 3.ออมนิแชนแนล แพลตฟอร์ม (Omnichannel Platform) พัฒนาให้ทุกธุรกิจในเครือของกลุ่มเซ็นทรัลก้าวสู่การเป็นออมนิแชนแนล แพลตฟอร์มอย่างแท้จริง สามารถเชื่อมต่อประสบการณ์การช็อปปิ้งระหว่างโลกออฟไลน์ และออนไลน์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด ทุกที่ ทุกเวลา

นอกจากนี้ กลุ่มเซ็นทรัลยังได้จับมือร่วมกับ JD.Com ยักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซจากประเทศจีน ใช้งบลงทุนกว่า 1.75 หมื่นล้านบาท จัดตั้ง เจดี เซ็นทรัล (JD CENTRAL) สร้างธุรกิจมาร์เก็ตเพลส (Marketplace) ภายใต้ชื่อ JD.co.th เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเข้าถึงลูกค้าของกลุ่มธุรกิจในเครือกลุ่มเซ็นทรัล

แนวทางดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้กลุ่มเซ็นทรัลก้าวสู่การเป็น “ดิจิ-ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์ม” อย่างรวดเร็วและครบวงจรยิ่งขึ้น โดยภายในเดือน พ.ค.นี้ เว็บไซต์ JD.co.th จะเริ่มดำเนินการเปิดให้บริการแก่ลูกค้า พร้อมเปิดโอกาสให้สินค้าไทยได้มีโอกาสนำสินค้าเข้าจำหน่ายในตลาดโลก

การร่วมทุนกับ JD.com ดังกล่าว ไม่เพียงทำให้เกิดมาร์เก็ตเพลสแห่งใหม่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ในอนาคตยังจะมีการต่อยอดความสำเร็จไปสู่ 2 ธุรกิจใหม่ คือ 1.อี-โลจิสติกส์ (E-Logistics) กลุ่มเซ็นทรัลจะก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านโลจิสติกส์รายใหญ่ของประเทศไทย พร้อมบริการออนดีมานด์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น และ 2.อี-ไฟแนนซ์ (E-Finance) กลุ่มเซ็นทรัลมุ่งหน้าสู่การเป็นบริษัทฟินเทค (Fintech) เต็มตัว ให้บริการด้านการเงินอย่างครบวงจร (One stop-integrated financial system) ครอบคลุมทั้งบริการอี-เพย์เมนต์ (E-Payment) และอี-ไฟแนนเชียล (Financial) สำหรับทั้งลูกค้า และซัพพลายเออร์

อย่างไรก็ดี เพื่อให้การพัฒนาดิจิ-ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์ม เป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ กลุ่มเซ็นทรัลยังให้ความสำคัญกับ 4 องค์ประกอบหลัก ที่จะสามารถตอบสนองลูกค้าแบบไลฟ์สไตล์ ออนดีมานด์ และบรรลุเป้าหมายการเป็นนิวเซ็นทรัล นิวอีโคโนมี อย่างแท้จริง คือ 1.พันธมิตร (Alliance) ที่ผ่านมากลุ่มเซ็นทรัลได้ร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลก ได้แก่ ดุสิตธานี เจดีดอทคอม ฮ่องกงแลนด์ และอิเกีย เป็นต้น

2.เทคโนโลยี (Technology) โดยการพาธุรกิจสู่การเป็นสุดยอดเทคคอมปานี (Technology Company) ด้วยการสร้างอี-คอมเมิร์ซแพลตฟอร์มที่ดีที่สุด การสร้างฐานข้อมูลลูกค้าบนคลาวด์ การสร้างแพลตฟอร์มไลฟ์สไตล์ใหม่ของเดอะวัน หรือการลงทุนต่อเนื่องในด้านโลจิสติกส์ และศูนย์กระจายสินค้าที่ทันสมัย

องค์ประกอบที่ 3 คือ คน (People) ที่ยังคงสรรหา และส่งเสริมพนักงานที่เก่ง ดี และมีความสามารถในด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านดิจิทัลเข้ามาร่วมพัฒนาธุรกิจ และ 4.ชุมชน (Community) ด้วยการให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคมภายใต้โครงการ “เซ็นทรัลทำ” เพื่อตอบแทนชุมชนและสิ่งแวดล้อม