posttoday

จับตาไอทีไตรมาสแรก องค์กรลงทุนเทคโนโลยี

05 มีนาคม 2561

การลงทุนเทคโนโลยีภาครัฐและเอกชนจะช้าหรือเร็ว จุดหมายปลายทางคือการทรานส์ฟอร์มประเทศให้ได้ภายใน 3 ปี

โดย...รัชนีย์ ศรีวัฒนชัย

เทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตของคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตลาดสินค้าไอทีและอุปกรณ์ต่างๆ จึงมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ขณะที่ภาครัฐและเอกชนต้องทรานส์ฟอร์มองค์กร ทำให้ต้องให้ความสำคัญกับการลงทุนทางเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นจับกระแสตลาดไอทีและเทคโนโลยีไตรมาสแรก

สุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น (COM7) ผู้ประกอบการค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่ เปิดเผยว่าภาพรวมร้านค้าปลีกสินค้าไอทีในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ประเมินว่ามีอัตราการเติบโต 10% ถือว่าอยู่ในภาวะที่ดีใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ซึ่งมีอัตราการเติบโต 10% เนื่องจากกลุ่มผู้ประกอบการเปิดตัวสินค้าและเทคโนโลยีใหม่ๆ ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาและคนต้องการเปลี่ยนสินค้ารุ่นใหม่ๆ เพื่อใช้ฟังก์ชั่นการใช้งานที่ดีขึ้น

ทั้งนี้ สินค้ากลุ่มไอทีเติบโตใกล้เคียงกันหมด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มโทรศัพท์มือถือ พบว่าพฤติกรรมการซื้อของคนไทยเริ่มยกระดับเพิ่มขึ้นจากราคาเริ่มต้น 7,000 บาทมาเป็นระดับราคา 7,700-8,000 บาท และสมาร์ทโฟน ทั้งไอโฟน ซัมซุง หัวเว่ย มีราคาเฉลี่ยต่อเครื่องที่สูง เพื่อรองรับความต้องการของตลาด นอกจากนี้ กลุ่มการ์ดจอ แม้ว่ามูลค่าของบิตคอยน์จะผันผวน แต่อัตราการซื้อการ์ดจอไม่ตกลง ส่วนหนึ่งมาจากกระแสอี-สปอร์ตที่มาแรงต่อเนื่อง

ขณะที่ตลาดโน้ตบุ๊กเติบโตมาจากมีรุ่นสำหรับการเล่นเกมเปิดตัวมากขึ้น อย่างไรก็ดีประเมินว่าตลาดค้าปลีกในช่วงไตรมาส 2 การเติบโตจะชะลอตัวลง หรือเติบโตเพียง 5% เนื่องจากเป็นสงกรานต์ กำลังซื้อส่วนใหญ่จะจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว รวมทั้งยังเป็นช่วงปิดเทอม ซึ่งถือว่าเป็นโลว์ซีซั่นของตลาดค้าปลีกไอที และในช่วงไตรมาส 3 ตลาดจะกลับมาคึกคัก จากการที่อุปกรณ์ไอที ค่ายโทรศัพท์มือถือต่างๆ เปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่

สำหรับบริษัทยังเดินหน้ากลยุทธ์ในปี2561 ด้วยการขยายสาขาบานาน่า สตูดิโอ7 เป็นต้น จากปี 2560 มีสาขาทั้งหมด 434 สาขา ให้ครบ 600 สาขา แบ่งเป็นการบริหารของคอมเซเว่น 500 กว่าสาขา และธุรกิจแฟรนไชส์คาดว่าจะมีผู้สนใจกว่า 100 ราย รายได้ปี 2561 ตั้งเป้าโตอย่างน้อย 15% จากในปีที่ผ่านมารายได้กว่า 2.2 หมื่นล้านบาท

จับตาไอทีไตรมาสแรก องค์กรลงทุนเทคโนโลยี

ดุสิต สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท เจมาร์ท โมบาย กล่าวว่าแนวโน้มตลาดโทรศัพท์มือถือยังคงเติบโตมีมูลค่าเพิ่มจาก 1.1 แสนล้านบาท เพิ่มเป็น 1.2 แสนล้านบาท ปีที่ผ่านมาบริษัทสามารถจำหน่ายมือถือได้ 1.2 ล้านเครื่อง สำหรับปีนี้ลงทุน 130 ล้านบาท ขยายสาขาเพิ่ม 75 สาขา จากเดิมมี 225 สาขา อย่างไรก็ดี บริษัทวางแผนนำสินค้าไอโอทีอุปกรณ์เออาร์กับวีอาร์ และสมาร์ทโฮม มาจำหน่ายภายในร้าน เพื่อรองรับกับความต้องการในอนาคตของกลุ่มลูกค้า

จาริตร์ สิทธุ หัวหน้าฝ่ายบริหารจัดการ ไอดีซี ประเทศไทย กล่าวว่า แนวโน้มการลงทุนทางด้านเทคโนโลยีในช่วงไตรมาสแรกอยู่ในภาวะเติบโตเพียงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นช่วงที่ภาครัฐและเอกชนกำลังอยู่ในช่วงดำเนินการตามแผนการลงทุน อย่างไรก็ดี เชื่อว่าไตรมาส 2 การลงทุนทางด้านเทคโนโลยีจะปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงหลังสงกรานต์ไปแล้ว

แม้ว่าเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนไม่โดดเด่นมากนัก แต่มือถือกลายเป็นปัจจัยที่ 5 ของมนุษย์ จึงทำให้ตลาดยังเติบโตได้ ส่วนการลงทุนเทคโนโลยีภาครัฐและเอกชนจะช้าหรือเร็ว จุดหมายปลายทางคือการทรานส์ฟอร์มประเทศให้ได้ภายใน 3 ปี ดังนั้นจึงมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง