ปฐพีพิโรธญี่ปุ่น 8.9 ริกเตอร์ สึนามิสูง 10 เมตรกวาดเรียบ
เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดในรอบ 140 ปีของญี่ปุ่นถึง 8.9 ริกเตอร์ ถล่มพื้นที่ชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงเหนือ ของเกาะฮอนชู เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 11 มี.ค. ก่อให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิสูงถึง 10 เมตร พัดถล่มเมืองเซนได กวาดทุกอย่างที่ขวางหน้าทั้งรถยนต์ เรือ บ้านเรือน อีกทั้งยังเกิดเพลิงไหม้อาคารหลายแห่ง รวมไปถึงโรงกลั่นน้ำมัน แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวยังรู้สึกไปไกลถึงกรุงโตเกียว และกรุงปักกิ่งของจีนทีเดียว นับเป็นแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดอันดับ 5 ของโลกนับตั้งแต่ปี 1900 เป็นต้นมา
เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดในรอบ 140 ปีของญี่ปุ่นถึง 8.9 ริกเตอร์ ถล่มพื้นที่ชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงเหนือ ของเกาะฮอนชู เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 11 มี.ค. ก่อให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิสูงถึง 10 เมตร พัดถล่มเมืองเซนได กวาดทุกอย่างที่ขวางหน้าทั้งรถยนต์ เรือ บ้านเรือน อีกทั้งยังเกิดเพลิงไหม้อาคารหลายแห่ง รวมไปถึงโรงกลั่นน้ำมัน แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวยังรู้สึกไปไกลถึงกรุงโตเกียว และกรุงปักกิ่งของจีนทีเดียว นับเป็นแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดอันดับ 5 ของโลกนับตั้งแต่ปี 1900 เป็นต้นมา
สำนักสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐ ระบุว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ใต้ทะเลที่ความลึกประมาณ 15.2 ไมล์ หรือ 24 กิโลเมตร ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางเหนือประมาณ 373 กิโลเมตร เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 14.24 น. ตามเวลาท้องถิ่นหรือ 12.24 น.ตามเวลาในประเทศไทย และยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกกว่า 30 ครั้ง รุนแรงถึง 7 ริกเตอร์ทีเดียว
คลื่นยักษ์สึนามิที่ก่อตัวขึ้นเป็นกำแพงน้ำทะเลขนาดยักษ์นั้นมีความสูงกว่าเกาะบางเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกด้วยซ้ำ และส่งผลให้เกือบทุกประเทศรอบมหาสมุทรแปซิฟิกออกคำเตือนภัยสึนามิทันทีตามมาถึง 20 ประเทศ
ตำรวจญี่ปุ่นระบุว่าพบร่างผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 200-300 คน อีก 349 คนสูญหาย อย่างไรก็ตาม คาดว่ายอดจะพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีรายงานว่า ในขณะที่คลื่นสึนามิได้พัดเข้าถล่มชายฝั่งเมืองเซนได ในจังหวัดมิยากินั้น ได้ซัดเอาเรือโดยสารซึ่งมีผู้โดยสารอยู่ราว 100 คนบนเรือด้วย
ด้านสำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก โดยประชาชนที่อยู่บริเวณชายฝั่งของเมืองเซนไดต่างวิ่งหนีเอาตัวรอดขึ้นไปบนที่สูงขึ้นของอาคาร และร้องขอความช่วยเหลือ
นอกจากนั้น โรงงานปฏิกรณ์นิวเคลียร์ และโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งถูกปิดลงในทันที ขณะที่มีรายงานว่าเกิดเพลิงลุกไหม้ที่โรงกลั่นน้ำมันแห่งหนึ่งในย่านชิบะของกรุงโตเกียว ในขณะที่โรงงานผลิตเหล็กกล้า แห่งหนึ่งเกิดเพลิงไหม้ และยังเกิดการระเบิดของโรงปิโตรเคมี ที่เมืองเซนไดอย่างรุนแรง รวมไปถึงไฟไหม้ที่ปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ที่เมืองโอนากาวาด้วย
ผลจากแผ่นดินไหวรุนแรงในครั้งนี้ทำให้บ้านเรือน 4.4 ล้านหลังคาเรือนในตอนเหนือของญี่ปุ่นไม่มีไฟฟ้าใช้ ส่วนที่เมืองเซนได ซึ่งได้รับความเสียหายมากที่สุด มีรายงานว่าเกิดเหตุโรงแรมถล่มคาดว่าจะมีคนจำนวนมากถูกฝังอยู่ด้านล่าง
ด้านสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคของญี่ปุ่น รายงานว่าเกิดเพลิงไหม้รุนแรงขึ้นที่อาคารแห่งหนึ่งในเมืองโอไดบะ ชานกรุงโตเกียว ขณะที่การให้บริการรถไฟหัวกระสุนนั้นต้องหยุดให้บริการทันที ส่วนที่นิคมอุตสาหกรรมอิโซโกะ ในเมืองโยโกฮามานั้น ก็เกิดกลุ่มควันหนาขึ้น
ขณะที่ความเสียหายจากสึนามินั้น คลื่นยักษ์ได้ขึ้นฝั่งใกล้กับเมืองเซนได และกวาดทุกอย่างที่ขวางหน้าลึกเข้าไปในฝั่งไกลหลายกิโลเมตร น้ำทะเลทะลักเข้าไปในเมือง และพื้นที่เพาะปลูกในบริเวณใกล้เคียง โดยเมืองดังกล่าวมีประชากรอยู่ราว 1 ล้านคน และถือว่าเป็นเมืองที่อยู่ใกล้กับศูนย์กลางแผ่นดินไหวมากที่สุด
คลื่นยักษ์ได้กวาดเอาทั้งเรือ รถยนต์ และรถบรรทุกเข้าไปในเขตเมืองราวกับน้ำพัดของเล่น สะพานลอยแห่งหนึ่งทนกับกระแสน้ำไม่ไหวถึงกับพังถล่มลงมา สำนักข่าวโตเกียวรายงานว่า น้ำทะเลได้ซัดเอารถยนต์เข้าไปกองยังรันเวย์ของสนามบินเซนไดที่เจิ่งไปด้วยน้ำ ขณะที่รถยนต์ที่วิ่งอยู่บนทางหลวงต่างระดับก็ถูกน้ำซัดลอยไปกองพะเนินรวมกัน
ที่กรุงโตเกียว เมืองหลวงของประเทศ และเป็นเมืองที่คับคั่งที่สุดแห่งหนึ่งของโลกนั้น ได้เกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรงตามอาคารสูงต่างๆ สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนอย่างหนัก
“ผมกลัวมากและยังกลัวอยู่ ผมไม่เคยเจอแผ่นดินไหวใหญ่ขนาดนี้มาก่อน” ฮิเดคัตสึ ฮาตา ผู้จัดการร้านอาหารแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว กล่าว
นอกจากนั้น ที่สถานีรถไฟใจกลางเมือง ประชาชนต่างพยายามฉวยจับที่มั่นกันอลหม่านเมื่อเกิดการสั่นไหวรุนแรงขึ้น เด็กๆ ต่างกรีดร้องด้วยความกลัว ประชาชนต่างหาทางกลับบ้านให้เร็วที่สุด
ด้านนายกรัฐมนตรี นาโอโตะ คัง ได้ขอร้องให้ประชาชนอยู่ในความสงบ พร้อมกับให้ความมั่นใจว่าไม่มีรายงานการรั่วไหลของสารกัมมันตภาพรังสีจากโรงงานปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขึ้น
รายงานระบุว่า ในช่วง 2 วันก่อนหน้านี้ บริเวณนอกชายฝั่งเกาะฮอนชู ซึ่งเป็นศูนย์กลางแผ่นดินไหวครั้งนี้ ก็เกิดการสั่นไหวต่อเนื่องหลายครั้งมาแล้วในระดับความรุนแรงที่ราว 6.07.0 ริกเตอร์
ทางด้าน เซนชา เฉิน เจ้าหน้าที่สำรวจธรณีของสหรัฐ กล่าวว่า แผ่นดินไหวที่มีระดับความรุนแรงขนาด 8.9 ริกเตอร์ และเกิดในทะเลที่ความตื้นเช่นนี้ จะก่อให้เกิดพลังงานในระดับที่สูงมากและจะก่อให้เกิดคลื่นยักษ์ขึ้น ซึ่งจะเดินทางเข้าสู่อีกหลายประเทศรอบนอกในมหาสมุทรแปซิฟิก
ที่ฟิลิปปินส์ รัฐบาลกรุงมะนิลา ได้สั่งอพยพประชาชนหลายแสนคนใน 19 จังหวัดชายทะเลอย่างเร่งด่วนทันที นอกจากนั้นหลายประเทศก็ยังประกาศเตือนภัยขึ้นทั้งรัสเซีย อินโดนีเซีย กัวเตมาลา เอลซัลวาดอร์ คอสตาริกา และรัฐฮาวายของสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ทางด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของไต้หวันเปิดเผยหลังเกิดแผ่นดินไหวในญี่ปุ่นนานราว 3 ชั่วโมง คลื่นสึนามิได้พัดมาถึงชายฝั่งตอนเหนือของไต้หวันแต่ทว่ามีขนาดเล็ก และไม่ได้สร้างความเสียหายแต่อย่างใด และที่หมู่บ้าน มาโลคูริคส์ บนคาบสมุทรคามชาตกา สึนามิได้พัดขึ้นฝั่งแต่มีความสูง 50 เซนติเมตรเท่านั้น
นอกจากนั้น สึนามิ ยังได้เคลื่อนตัวไปถึงเกาะฮาวายเมื่อเวลา 03.07 น. ตามเวลาท้องถิ่นหรือประมาณเวลา 20.07 น. ตามเวลาในประเทศไทยเมื่อวานนี้ โดยคลื่นมีความสูงประมาณ 12 เมตร และคาดว่าหลังจากนั้นคลื่นจะซัดไปยังชายฝั่งรัฐโอเรกอน และรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐตามเวลาท้องถิ่นประมาณเวลา 07.15 และ 07.30 น. ตามลำดับ
ทางด้าน ชิพ แมคเครียรี เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์เตือนภัยสึนามิ กล่าวว่า แผ่นดินไหวรุนแรงที่เกิดขึ้นนอกชายฝั่งญี่ปุ่นนั้นทำให้ระดับน้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกดันตัวขึ้นสูงจากระดับปกติถึง 2 เมตรทีเดียว
“เป็นแผ่นดินไหวครั้งใหญ่มาก เราประเมินว่าแรงสั่นสะเทือนมีขนาดพอๆ กับเมื่อครั้งการสั่นไหวที่ชิลี (8.8 ริกเตอร์) เมื่อปีที่แล้ว อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับฮาวายมากกว่าเมื่อครั้งที่ชิลีด้วย”
ประเทศที่อยู่ในความเสี่ยงและได้เตรียมตัวรับมือแล้ว มีทั้งรัสเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ปาปัวนิวกินี ออสเตรเลีย ฟิจิ เม็กซิโก นิวซีแลนด์ กัวเตมาลา เอลซัลวาดอร์ คอสตาริกา นิการากัว ปานามา ฮอนดูรัส ชิลี เอกวาดอร์ โคลัมเบีย เปรู และสหรัฐ ตลอดจนเกาะเล็กๆ ต่างๆ อีกทั่วมหาสมุทรแปซิฟิก
ทั้งนี้ แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในโลกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 เม.ย. ปี 1960 ในชิลี ซึ่งวัดแรงสั่นสะเทือนได้ถึง 9.5 ริกเตอร์ ส่วนแผ่นดินไหวที่จังหวัดอาเจะห์ ของอินโดนีเซียเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2004 ซึ่งก่อให้เกิดคลื่นสึนามิพัดถล่มหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทย จนมีผู้เสียชีวิตกว่า 2.2 แสนคนนั้น มีความรุนแรงอยู่ที่ 9.1 ริคเตอร์


