รักษาโรคใจต้องแก้ผ้า
จากการคร่ำหวอดคลุกคลีอยู่ในวงการนักบำบัดมาอย่างยาวนาน ซาราห์ ไวท์ นักจิตวิทยาบำบัด
จากการคร่ำหวอดคลุกคลีอยู่ในวงการนักบำบัดมาอย่างยาวนาน ซาราห์ ไวท์ นักจิตวิทยาบำบัด
ก็ค้นพบว่าปัญหาหนึ่งที่ทำให้คนไข้ไม่ประสบความสำเร็จในการรักษาบำบัด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหมอไม่สามารถทำให้คนไข้เชื่อใจได้ ส่งผลผลักดันให้ซาราห์ค้นพบกลยุทธ์ใหม่ที่เรียกชื่ออย่างเก๋ไก๋ และทดลองใช้มาหลายเดือนแล้วจนเห็นผลว่า กลยุทธ์บำบัดด้วยวิธีการนุ่งลมห่มฟ้า
“มีวิธีเดียวเท่านั้นที่จะทำให้คนเราเปิดใจคุยแบบหมดเปลือกได้ นั่นคือต้องแก้ผ้าซะ” หมอไวท์ กล่าว
งานนี้คุณหมอผู้บำบัดมีหน้าที่ต้องแก้ผ้าต่อหน้าคนไข้ โดยตอนแรกคุณหมอจะสวมเสื้อผ้าตามปกติ แต่พอพูดคุยกับคนไข้ไปสักพัก หรืออยู่ในขั้นที่เรียกว่ากำลังคุยออกรส คุณหมอจะค่อยเปลื้องผ้าทีละชิ้น จนไม่เหลืออะไรให้ถอดอีกต่อไป เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าได้ยอมเปลือยกายเปลือยใจพร้อมที่จะรับฟังปัญหาของคนไข้ โดยทันทีที่วิธีดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ ชาวนิวยอร์กผู้ปวดใจทั้งหลายกว่าสามสิบคนต่างแสดงความสนใจติดต่อขอเข้าคิวรักษา
คุณหมอไวท์ย้ำชัดว่า แนวทางดังกล่าวไม่ใช่เรื่องชวนทะลึ่งให้เกิดอารมณ์สยิว แต่เป็นหนึ่งในวิธีการทางจิตวิทยาเพื่อเรียกความไว้เนื้อเชื่อใจจากคนหนึ่งคน โดยในขณะที่ซิกมันด์ ฟรอยด์ เลือกใช้วิธีการปล่อยให้ผู้ป่วยระบายความในใจออกมาอย่างเสรี ซาราห์ ไวท์ ก็แค่เลือกใช้วิธีการเปลือยกายเปลือยใจเท่านั้น
สำหรับค่าใช้จ่ายในการเข้ารับการบำบัดอยู่ที่คราวละ 150 เหรียญสหรัฐ (ราว 4,568 บาท) โดยแรกเริ่มจะเป็นการนัดพูดคุยผ่านทางเว็บแคม ก่อนที่คุณหมอและคนไข้พัฒนาความสัมพันธ์ได้ระดับหนึ่ง จนสามารถนัดพบเจอกันเป็นการส่วนตัว
อย่างไรก็ตาม ไดอานา คริชเนอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยากลับไม่เห็นด้วยกับวิธีการนี้ที่อ้างว่าเป็นการบำบัดได้ โดยคริชเนอร์มองว่าเป็นแค่ระดับหนึ่งของการแพร่ภาพโป๊ออนไลน์
ด้านคัวเมล จอหน์สัน หนึ่งในลูกค้าของซาราห์ ไวท์ กล่าวว่า รู้สึกดีที่ได้เข้าร่วมพูดคุยบำบัดกับซาราห์ ไวท์ แต่ชักจะไม่แน่ใจว่า จะได้รับการบำบัดรักษาให้หายขาดหรือเปล่า เพราะสติสมาธิที่มีดันไปจดจ่อกับอย่างอื่นมากกว่า


