ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบ หุ้นเทคโนโลยีอ่อนตัวก่อนเทศกาลปีใหม่

กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นปัจจัยกดดันดัชนี S&P 500 โดยหุ้นเทคโนโลยีและหุ้นที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง อาทิ Nvidia และ Palantir Technologies

 

นักลงทุนบางส่วนคาดหวังการเกิด “Santa Claus rally” ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ตามฤดูกาลที่ดัชนี S&P 500 มักปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงห้าวันทำการสุดท้ายของปีและสองวันแรกของเดือนมกราคม ตามข้อมูลจาก Stock Trader’s Almanac อย่างไรก็ตาม ดัชนีหลักทั้งสามยังคงมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นในรายเดือน โดยดัชนีดาวโจนส์และ S&P 500 มีโอกาสทำสถิติบวกติดต่อกันเป็นเดือนที่แปด

 

ภาวะตลาดกระทิงซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 ยังคงดำเนินต่อไป แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับมูลค่าหุ้นเทคโนโลยีที่อยู่ในระดับสูงและความผันผวนของตลาด ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของ AI การปรับลดอัตราดอกเบี้ย และความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ ส่งผลให้ดัชนีหลักทั้งสามมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่สาม ขณะที่นักกลยุทธ์ส่วนใหญ่ยังคาดการณ์ว่าตลาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในปี 2569

 

ดัชนี S&P 500 ลดลง 23.84 จุด หรือ 0.34% ปิดที่ระดับ 6,906.10 จุด 

 

ขณะที่ดัชนี Nasdaq Composite ลดลง 118.75 จุด หรือ 0.50% ปิดที่ 23,474.35 จุด 

 

ส่วนดัชนี Dow Jones Industrial Average ลดลง 242.43 จุด หรือ 0.50% ปิดที่ 48,468.54 จุด

 

ด้านราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันเดียวกัน หลังรัสเซียกล่าวหาว่ายูเครนโจมตีที่พักอาศัยของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ขณะที่นักลงทุนจับตาความเสี่ยงด้านอุปทานในตะวันออกกลางจากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในเยเมน 

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 61.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

 

และน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.34 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 58.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ส่วนตลาดโลหะมีค่าปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง หลังนักลงทุนเทขายทำกำไรจากการปรับขึ้นก่อนหน้านี้ 

 

ราคาทองสปอตร่วงลง 4.5% มาอยู่ที่ 4,330.79 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากทำสถิติสูงสุดที่ 4,549.71 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา 

 

ขณะที่สัญญาทองคำล่วงหน้าสหรัฐฯ สำหรับเดือนกุมภาพันธ์ ปิดลดลง 4.6% ที่ระดับ 4,343.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์