posttoday

ทรัมป์ท่าทีอ่อนลงเรื่องสงครามการค้ากับจีน ยันจะพบกับ สี จิ้นผิง

18 ตุลาคม 2568

ทรัมป์ชี้ การเก็บภาษี 100% ต่อสินค้านำเข้าจากจีน “ไม่ยั่งยืน” ยังคงยืนยันจะพบสี จิ้นผิง ที่เกาหลีใต้ ในอีก 2 สัปดาห์

KEY

POINTS

  • ประธานาธิบดีทรัมป์ยอมรับว่ามาตรการภาษี 100% ต่อสินค้าจีนนั้นไม่ยั่งยืน ซึ่งสะท้อนท่าทีที่อ่อนลงในสงครามการค้า
  • ทรัมป์ยืนยันว่าจะมีการพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ที่ประเทศเกาหลีใต้ภายในสองสัปดาห์ข้างหน้า
  • แม้จะยังคงตำหนิจีนว่าเป็นต้นเหตุของปัญหา แต่ทรัมป์แสดงความต้องการที่จะเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงทางการค้าที่ยุติธรรม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า มาตรการเก็บภาษีในอัตรา 100% ต่อสินค้านำเข้าจากจีน “ไม่สามารถดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืน” แต่ยังคงตำหนีจีนว่าเป็นต้นเหตุของภาวะชะงักงันในการเจรจาการค้า ซึ่งเริ่มต้นจากการที่ทางการจีนประกาศควบคุมการส่งออกแร่หายากอย่างเข้มงวดมากยิ่งขึ้น

 

เมื่อถูกถามว่าภาษีดังกล่าวสามารถดำเนินการได้อย่างยั่งยืนหรือไม่ และจะส่งผลต่อเศรษฐกิจอย่างไร ทรัมป์ตอบว่า “ไม่ยั่งยืน แต่นั่นคือตัวเลขที่ตั้งไว้”

 

“พวกเขาบังคับให้ผมต้องทำแบบนั้น” ทรัมป์กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ Fox Business Network ซึ่งออกอากาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

 

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ก่อน ทรัมป์ได้ประกาศมาตรการภาษีเพิ่มเติมในอัตรา 100% ต่อสินค้าที่ส่งออกจากจีนมายังสหรัฐฯ พร้อมกับมาตรการควบคุมการส่งออกซอฟต์แวร์สำคัญทั้งหมด โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งเร็วกว่าเส้นตายการสิ้นสุดการยกเว้นภาษีในปัจจุบันเพียง 9 วัน มาตรการดังกล่าวเป็นการตอบโต้ของสหรัฐฯ ต่อการที่จีนขยายมาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายากอย่างมีนัยสำคัญ โดยจีนถือครองตลาดส่วนใหญ่ของแร่ชนิดนี้ ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตเทคโนโลยี

 

นอกจากนี้ ทรัมป์ยืนยันว่าเขายังคงมีแผนจะพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ภายในสองสัปดาห์ข้างหน้า ที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นการพบปะที่ก่อนหน้านี้ทรัมป์เคยแสดงความไม่แน่ใจว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ พร้อมกล่าวชื่นชมผู้นำจีนว่าเป็น “ผู้นำที่น่ายกย่อง”

 

“ผมคิดว่าเราจะไปได้สวยกับจีน แต่เราต้องได้ข้อตกลงที่ยุติธรรม มันต้องยุติธรรม” ทรัมป์กล่าวในรายการ Mornings with Maria ซึ่งบันทึกเทปไว้เมื่อวันพฤหัสบดี

 

ต่อมา ระหว่างการเตรียมตัวรับประทานอาหารกลางวันที่ทำเนียบขาวร่วมกับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เพื่อหารือเกี่ยวกับความพยายามยุติสงครามกับรัสเซีย ทรัมป์กล่าวเสริมว่า “จีนอยากเจรจา และเราก็อยากเจรจากับจีนเช่นกัน”

 

ท่าทีที่อ่อนลงของทรัมป์และการยืนยันการพบกับสี จิ้นผิง ช่วยให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทฟื้นตัวจากการปรับตัวลดลงในช่วงเช้า โดยดัชนีหุ้นสำคัญของสหรัฐฯ ซึ่งได้รับแรงกดดันจากการประกาศขึ้นภาษีของทรัมป์อย่างกะทันหัน รวมถึงความกังวลต่อภาคการเงิน ได้พลิกกลับมาอยู่ในแดนบวกในช่วงบ่ายของวันศุกร์

 

ข่าวล่าสุด

ตำรวจไซเบอร์-ทหาร ถกเข้มชายแดนสระแก้ว เตรียมรับคนไทยจากกัมพูชากลับบ้าน!