จีนสั่งประหาร 11 อาชญากรตัวเอ้ เอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์

 

ศาลจีนตัดสินลงดาบขั้นสูงสุด สั่งลงโทษประหารชีวิต 11 อาชญากรตัวการใหญ่ สมาชิกขบวนการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมข้ามชาติ ซึ่งตั้งฐานปฏิบัติการคุ้มกันด้วยอาวุธทางตอนเหนือของเมียนมา

 

หลังก่อสารพัดอาชญากรรมสะเทือนขวัญ ทั้งเปิดบ่อนพนัน ค้ายา และค้าประเวณี สร้างความเสียหายมูลค่ามหาศาลกว่า 4.5 หมื่นล้านบาท และมีผู้เสียชีวิตถึง 14 ราย

 

เมื่อวันจันทร์ที่ 29 กันยายน ศาลท้องถิ่นเมืองเวินโจว ในมณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของจีน ได้มีคำพิพากษาคดีอุกฉกรรจ์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน

 

โดยตัดสินลงโทษผู้กระทำผิดในเครือข่ายอาชญากรรมดังกล่าวรวมหลายสิบราย ท่ามกลางผู้สังเกตการณ์กว่า 160 คน

 

ศาลจีนตัดสินลงดาบขั้นสูงสุด สั่งลงโทษประหารชีวิต 

 

นอกเหนือจากจำเลย 11 รายที่ถูกตัดสินโทษประหารชีวิตทันที ศาลยังมีคำพิพากษาจำเลยรายอื่นๆ ดังนี้:

 

• โทษประหารชีวิต (รอลงอาญา 2 ปี): 5 ราย

 

• โทษจำคุกตลอดชีวิต: 11 ราย

 

• โทษจำคุก 5-24 ปี: 12 ราย

 

นอกจากนี้ ศาลยังมีคำสั่งให้ใช้บทลงโทษเพิ่มเติม ทั้งการปรับเงิน, ยึดทรัพย์สินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด และการเนรเทศออกจากประเทศจีน

 

 

เปิดแฟ้มอาชญากรรมแก๊งข้ามชาติ

 

ศาลระบุในคำตัดสินว่า กลุ่มจำเลยเหล่านี้ได้ร่วมกันจัดตั้งเครือข่ายอาชญากรรมมาตั้งแต่ปี 2015 โดยตั้งฐานที่มั่น หรือ "แหล่งซ่องสุม" หลายแห่งในพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศเมียนมา

 

มีการจัดหากองกำลังพร้อมอาวุธเพื่อคุ้มกันอย่างแน่นหนา และดำเนินธุรกิจผิดกฎหมายครบวงจร ได้แก่

 

• ฉ้อโกงทางโทรคมนาคม (แก๊งคอลเซ็นเตอร์)

 

• เปิดบ่อนพนันออนไลน์

 

• ค้ายาเสพติด

 

• ค้าประเวณี

 

จากการสืบสวนพบว่า เฉพาะการฉ้อโกงและการพนัน มีเงินทุนที่เกี่ยวข้องสูงถึง 1 หมื่นล้านหยวน (ประมาณ 4.53 หมื่นล้านบาท)

 

ยิ่งไปกว่านั้น การกระทำอันโหดเหี้ยมของแก๊งนี้ยังเป็นเหตุให้มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตถึง 14 ราย และบาดเจ็บอีก 6 ราย

 

ศาลย้ำว่า คำพิพากษาทั้งหมดเป็นไปตามข้อกฎหมาย โดยพิจารณาจากข้อเท็จจริง ลักษณะ และพฤติการณ์ของอาชญากรรมที่จำเลยแต่ละรายก่อขึ้น รวมถึงระดับความเสียหายร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวม