ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำนิวไฮ จากหุ้น Intel หลัง Nvidia เข้าถือหุ้น
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ หลัง Fed ลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ขณะหุ้น Intel พุ่งแรง หลังจาก Nvidia เข้าลงทุนถือหุ้นในบริษัท
KEY
POINTS
- Nvidia ประกาศเข้าลงทุนใน Intel มูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้หุ้น Intel พุ่งขึ้นกว่า 22%
- การปรับตัวขึ้นของหุ้น Intel เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนดัชนีกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์และกลุ่มเทคโนโลยีโดยรวม
- แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีส่งผลให้ดัชนีหุ้นหลักของสหรัฐฯ เช่น S&P 500 และ Nasdaq ปิดตลาดทำสถิติสูงสุดใหม่
หุ้น Intel ทะยานขึ้นถึง 22.8% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นรายวันมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 1987 หลัง Nvidia ประกาศลงทุนมูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในผู้ผลิตชิปที่กำลังเผชิญปัญหา ขณะที่หุ้นคู่แข่งอย่างแอดวานซ์ ไมโคร ดีไวซ์ (AMD) ปรับตัวลดลง 0.8%
หุ้น Nvidia เองก็ปรับเพิ่มขึ้น 3.5% หลังจากดีดตัวกลับจากการปรับลงเมื่อวันพุธ ซึ่งมีรายงานว่า บริษัทเทคโนโลยีจีนอาจหยุดซื้อชิปจาก Nvidia ความเคลื่อนไหวดังกล่าวหนุนให้ดัชนีเซมิคอนดักเตอร์โดยรวมปรับเพิ่มขึ้น 3.6% และช่วยหนุนกลุ่มเทคโนโลยีในดัชนีแนสแด็กและ S&P 500 ปรับตัวขึ้น 1.36% โดยรวมแล้วมี 7 ใน 11 กลุ่มอุตสาหกรรมใน S&P 500 ที่ปิดบวก
หุ้นขนาดเล็กกลับมาทำสถิติสูงสุดอีกครั้ง
ดัชนีรัสเซล 2000 ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นขนาดเล็ก ปิดที่ 2,466 จุด ทำสถิติสูงสุดครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา โดยนักวิเคราะห์มองว่าหุ้นขนาดเล็กจะได้ประโยชน์มากขึ้นในสภาพแวดล้อมดอกเบี้ยขาลง
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นายเจอโรม พาวเวล ประธาน Fed ย้ำว่า ตลาดแรงงานที่อ่อนแอเป็นประเด็นสำคัญ และส่งสัญญาณว่าอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในการประชุมครั้งถัดไป
สรุปการเคลื่อนไหวดัชนีหลัก
• ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 124.10 จุด หรือ 0.27% ปิดที่ 46,142.42 จุด
• ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 31.61 จุด หรือ 0.48% ปิดที่ 6,631.96 จุด
• ดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 209.40 จุด หรือ 0.94% ปิดที่ 22,470.73 จุด
ราคาน้ำมันและทองคำ
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง โดยน้ำมันดิบเบรนท์ลดลง 0.8% ปิดที่ 67.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ลดลง 0.8% ปิดที่ 63.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่ราคาทองคำในตลาดโลกอ่อนตัวลงเล็กน้อย ทองสปอตลดลง 0.38% มาปิดที่ 3,645.89 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากทำสถิติสูงสุดก่อนหน้านี้