"ทิม คุก" ยิ้มออก! ทรัมป์ชมเปาะ Apple ทุ่มหนักในสหรัฐฯ รอดภาษีชิป

 

โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศกร้าวอีกครั้ง เตรียมตั้งกำแพงภาษีครั้งใหญ่กับชิปเซมิคอนดักเตอร์นำเข้าจากบริษัทต่างชาติ ที่ไม่ยอมย้ายฐานการผลิตมาตั้งในสหรัฐฯ

 

แต่ในขณะเดียวกันก็ส่งสัญญาณชัดเจนว่า บริษัทที่ให้ความร่วมมือและทุ่มเม็ดเงินลงทุนในประเทศอย่าง Apple จะได้รับการละเว้น ตามรายงานจาก CNBC

 

ท่าทีแข็งกร้าวของประธานาธิบดีทรัมป์ในครั้งนี้ เกิดขึ้นในงานเลี้ยงอาหารค่ำที่ทำเนียบขาวเมื่อคืนวันพฤหัสบดี ท่ามกลางวงล้อมของผู้บริหารระดับบิ๊กเทคฯ ของโลกกว่า 20 ชีวิต

 

ไม่ว่าจะเป็น ทิม คุก จาก Apple, มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก จาก Meta และ ซาฟรา แคตซ์ จาก Oracle

 

 

"ผมคุยกับทุกคนที่นี่แล้วเรื่องชิป" ทรัมป์กล่าวอย่างตรงไปตรงมา

 

"บริษัทไหนไม่ย้ายมา เราจะเก็บภาษี และจะเริ่มในเร็วๆ นี้ด้วย คุณน่าจะได้ยินแล้วว่ามันจะเป็นภาษีที่สูงเอาเรื่องเลยทีเดียว"

 

สำหรับ Apple ที่ทรัมป์ระบุว่าจะ "อยู่ในสถานะที่ดี" หรือรอดตัวจากมาตรการนี้ เป็นผลมาจากการขานรับนโยบายอย่างแข็งขัน

 

โดยก่อนหน้านี้ที่ทรัมป์เคยขู่จะเก็บภาษีชิปสูงถึง 100% Apple ก็ได้ประกาศทุ่มงบลงทุนในสหรัฐฯ เพิ่มทันที 1 แสนล้านดอลลาร์ จากแผนเดิมที่ประกาศไว้แล้ว 5 แสนล้านดอลลาร์

 

ท่าทีของทรัมป์ครั้งนี้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติของสหรัฐฯ ที่พยายามดึงห่วงโซ่อุปทานการผลิตชิป ซึ่งเป็นหัวใจของเทคโนโลยีทั้งหมด กลับสู่แผ่นดินอเมริกาตลอดหลายปีที่ผ่านมา

 

 

ซึ่งผู้ผลิตชิปรายใหญ่อย่าง TSMC ของไต้หวัน และ Samsung ของเกาหลีใต้ ก็ได้เข้ามาลงทุนสร้างโรงงานมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ แล้ว จึงคาดว่าน่าจะอยู่ในข่ายได้รับการยกเว้นเช่นกัน

 

 

อย่างไรก็ตาม รายละเอียดของนโยบายภาษีดังกล่าวยังคงคลุมเครือ ทรัมป์ให้เงื่อนไขเพียงกว้างๆ ว่า "ถ้าพวกเขาจะย้ายเข้ามาสร้างโรงงาน หรือมีแผนจะเข้ามา ก็จะไม่มีการเก็บภาษี"

 

 

ทั้งนี้ บรรยากาศในงานเลี้ยงเต็มไปด้วยคำชื่นชมจากเหล่าซีอีโอยักษ์ใหญ่เทคโนโลยี ตั้งแต่ แซม อัลท์แมน (OpenAI) จนถึง เซอร์เกย์ บริน (ผู้ร่วมก่อตั้ง Google)

 

ที่ยกย่องวิสัยทัศน์ของทรัมป์ที่สนับสนุนธุรกิจและ AI ขณะที่ อีลอน มัสก์ (Tesla) ไม่ได้มาร่วมงาน แม้จะได้รับเชิญ โดยให้เหตุผลว่าติดภารกิจ

 

นอกจากนี้ ในช่วงก่อนงานเลี้ยง เมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ยังได้กล่าวในที่ประชุมคณะทำงานด้านการศึกษา AI ของทำเนียบขาว

 

โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการใช้ AI เพื่อพัฒนาการศึกษา แต่เตือนว่า "ต้องบริหารจัดการอย่างมีความรับผิดชอบ"