


8+









ทั่วโลกจับตา ท่าทีอิหร่าน หลังสหรัฐฯ ถล่มศูนย์นิวเคลียร์
สถานการณ์ในตะวันออกกลางทวีความตึงเครียดขึ้นอย่างรุนแรง หลังจากสหรัฐอเมริกาได้เปิดฉากโจมตีเป้าหมายศูนย์นิวเคลียร์สำคัญของอิหร่าน
ปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่ที่สุดของโลกตะวันตกต่อสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน นับตั้งแต่การปฏิวัติอิหร่านเมื่อปี 1979 เมื่อกองทัพสหรัฐฯ ได้ปล่อยระเบิดทะลวงบังเกอร์น้ำหนัก 30,000 ปอนด์ ลงบนภูเขาเหนือศูนย์นิวเคลียร์ฟอร์โด (Fordow) ของอิหร่าน ส่งผลให้เตหะรานประกาศจะปกป้องตนเอง “ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม” ขณะที่รัฐบาลวอชิงตันเรียกร้องให้อิหร่านไม่ยกระดับสถานการณ์ ขณะเดียวกันเกิดการชุมนุมต่อต้านสงครามในหลายเมืองใหญ่ของสหรัฐฯ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้โพสต์บนแพลตฟอร์ม Truth Social โดยกล่าวถึงแนวคิด “เปลี่ยนระบอบการปกครอง” ว่า “หากระบอบปัจจุบันของอิหร่านไม่สามารถทำให้อิหร่านยิ่งใหญ่อีกครั้งได้ แล้วทำไมจะไม่เปลี่ยนระบอบล่ะ?”
การปะทะและภัยความมั่นคงระลอกใหม่
อิหร่านและอิสราเอลยังคงตอบโต้กันด้วยขีปนาวุธ โดยมีรายงานว่าการระเบิดในภาคตะวันตกของอิหร่านคร่าชีวิตทหารไปอย่างน้อย 6 นาย ขณะเดียวกัน ขีปนาวุธของอิหร่านได้สร้างความเสียหายในกรุงเทลอาวีฟและทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก
ทางกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้สั่งอพยพครอบครัวของเจ้าหน้าที่จากเลบานอน และแนะนำให้ประชาชนในประเทศเพื่อนบ้านของอิหร่านระมัดระวังตน พร้อมประกาศเตือนภัยในสหรัฐฯ เองว่ามีความเสี่ยงต่อการก่อเหตุร้ายที่เพิ่มขึ้น
สายการบินแอร์ฟรองซ์-เคแอลเอ็ม ประกาศยกเลิกเที่ยวบินไปยังดูไบและริยาด ขณะที่กองทัพในเมืองใหญ่ของสหรัฐฯ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ศาสนา วัฒนธรรม และสถานทูต
เตหะรานเตรียมตอบโต้ – การทูตชะงักชั่วคราว
รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน นายอับบาส อารัคชี กล่าวที่กรุงอิสตันบูลว่า ประเทศของเขาจะ “พิจารณาทุกทางเลือกในการตอบโต้” และยืนยันว่าจะไม่มีการเจรจาทางการทูตใดๆ จนกว่าจะมีการตอบโต้กลับ
ที่ปรึกษาผู้นำสูงสุดอิหร่าน นายอาลี ชามคานี ระบุในโพสต์บนแพลตฟอร์ม X ว่า “การเดินเกมต่อจากนี้จะขึ้นอยู่กับผู้ที่มีสติและหลีกเลี่ยงการโจมตีอย่างไร้เหตุผล”
แม้ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวอ้างว่า “เป้าหมายศูนย์เสริมสมรรถนะนิวเคลียร์ของอิหร่านถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง” แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ กลับให้ข้อมูลในเชิงระมัดระวัง โดยหน่วยงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ยืนยันว่า ยังไม่มีการตรวจพบกัมมันตภาพรังสีที่เพิ่มขึ้นบริเวณนอกพื้นที่
แรงกดดันทางยุทธศาสตร์ – ความเสี่ยงเศรษฐกิจโลก
รัฐสภาอิหร่านมีมติให้ปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นจุดผ่านของการขนส่งน้ำมันเกือบหนึ่งในสี่ของโลก หากได้รับการอนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติ นับเป็นการเคลื่อนไหวที่อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อราคาน้ำมันโลก และกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้งโดยตรงกับกองเรือที่ห้าแห่งกองทัพเรือสหรัฐฯ
ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงเตือนว่า หากอิหร่านตกอยู่ในภาวะอ่อนแอมากขึ้น อาจหันไปใช้ยุทธศาสตร์สงครามแบบไม่สมมาตร เช่น การก่อวินาศกรรมหรือการโจมตีทางไซเบอร์
สหประชาชาติเรียกร้องหยุดยิง
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติประชุมฉุกเฉินเมื่อวันอาทิตย์ โดยรัสเซีย จีน และปากีสถาน เสนอร่างมติเรียกร้องให้มีการหยุดยิงโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไขในภูมิภาค ขณะที่เลขาธิการสหประชาชาติ นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส แสดงความกังวลว่าการโจมตีครั้งนี้อาจทำให้ภูมิภาคเข้าสู่ “เส้นทางอันตราย”
ในขณะที่อิสราเอลประกาศเป้าหมายในการโค่นล้มระบอบการปกครองด้วยศาสนาของอิหร่าน สหรัฐฯ กลับยืนยันว่า ปฏิบัติการนี้ไม่เกี่ยวข้องกับแผนการเปลี่ยนแปลงระบอบ
ผลกระทบต่อประชาชนและกระแสต่อต้านสงคราม
ประชาชนชาวอิหร่านจำนวนมากเริ่มอพยพออกจากกรุงเตหะรานเพื่อหนีการโจมตีของอิสราเอล มีรายงานว่าผู้เสียชีวิตกว่า 400 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน ในขณะที่อิหร่านก็ได้ตอบโต้ด้วยขีปนาวุธ ทำให้มีผู้เสียชีวิตในอิสราเอลอย่างน้อย 24 รายในช่วง 9 วันที่ผ่านมา
ในสหรัฐฯ กลุ่มต่อต้านสงครามได้ออกมาชุมนุมในหลายเมืองใหญ่ โดยมีคำขวัญว่า “หยุดยุ่งกับอิหร่าน” ขณะที่ชาวอิหร่านแสดงความวิตกต่อสงครามที่อาจลุกลามในวงกว้าง



8+











