posttoday

อิสราเอล-อิหร่าน โจมตีโต้ตอบกันวันที่ 5 จีน-สหรัฐ สั่งอพยพแล้ว

17 มิถุนายน 2568

ทรัมป์เรียกร้องให้พลเมืองอเมริกันอพยพ สถานทูตจีนก็แนะนำพลเมืองให้เร่งเดินทางออกจากกรุงเตหะราน ขณะที่ความขัดแย้งอิหร่าน-อิสราเอลยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ห้า

สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและอิสราเอลทวีความรุนแรงต่อเนื่องเป็นวันที่ห้า โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนอิหร่านอพยพออกจากกรุงเตหะราน โดยอ้างว่าอิหร่านปฏิเสธข้อตกลงในการจำกัดโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์

 

บรรดาผู้นำโลกที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ G7 ณ ประเทศแคนาดา ต่างแสดงความกังวลและเรียกร้องให้มีการลดระดับความรุนแรงในความขัดแย้งครั้งนี้ พร้อมย้ำว่าอิหร่านเป็นต้นตอแห่งความไม่มั่นคง และต้องไม่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ โดยขณะเดียวกันก็แสดงจุดยืนสนับสนุนสิทธิของอิสราเอลในการป้องกันตนเอง

 

แม้ประธานาธิบดีทรัมป์จะเดินทางออกจากการประชุม G7 ก่อนกำหนด โดยให้เหตุผลว่าเกี่ยวเนื่องกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง แต่เขาได้ปฏิเสธข้อกล่าวอ้างของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงแห่งฝรั่งเศส ที่ระบุว่าสหรัฐเป็นผู้เสนอข้อตกลงหยุดยิง โดยทรัมป์โพสต์ผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social ว่า “ผิด! เขาไม่รู้เลยว่าทำไมผมจึงกำลังกลับวอชิงตัน แต่ที่แน่ ๆ ไม่ใช่เรื่องหยุดยิง มันใหญ่กว่านั้นมาก”

 

ก่อนหน้านั้น ทรัมป์ได้ออกคำแนะนำให้ชาวอิหร่านอพยพจากกรุงเตหะราน พร้อมย้ำว่า “อิหร่านไม่ควรละเลยที่จะลงนามในข้อตกลงที่ผมเสนอให้ เสียเวลาและชีวิตโดยเปล่าประโยชน์ พูดง่าย ๆ คือ อิหร่านจะไม่มีวันได้ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ ผมพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า! ทุกคนควรรีบอพยพออกจากเตหะรานทันที!”

 

สถานการณ์การสู้รบและผลกระทบ

 

มีรายงานการระเบิดและการยิงระบบป้องกันภัยทางอากาศในกรุงเตหะรานช่วงเช้าของวันอังคาร โดยสื่ออิหร่านระบุว่ามีควันลอยขึ้นทางฝั่งตะวันออกของเมืองจากการโจมตีของอาวุธนำวิถีซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นของอิสราเอล พร้อมกันนี้ยังมีการเปิดระบบป้องกันภัยทางอากาศในเมืองนาทานซ์ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานนิวเคลียร์ที่สำคัญ

 

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อิสราเอลได้โจมตีสำนักงานใหญ่ของการกระจายเสียงอิหร่าน โดยมีภาพวิดีโอแสดงให้เห็นผู้ประกาศข่าวหลบหนีขณะเกิดระเบิดขึ้น ทั้งนี้ สถานีโทรทัศน์ทางการอิหร่านระบุว่าการโจมตีดังกล่าวคร่าชีวิตประชาชน 3 ราย

 

นอกจากนี้ อิสราเอลยังระบุว่าได้โจมตีเป้าหมายทางการทหารของอิหร่านอย่างกว้างขวาง อาทิ คลังเก็บอาวุธและแท่นยิงขีปนาวุธ ขณะที่ในกรุงเทลอาวีฟมีเสียงสัญญาณเตือนภัยหลายครั้งหลังเที่ยงคืน และมีเสียงระเบิดได้ยินในหลายเมือง รวมถึงกรุงเยรูซาเลมและเฮิร์ซลียา

 

อิหร่านรายงานยอดผู้เสียชีวิต 224 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน ขณะที่อิสราเอลระบุว่ามีผู้เสียชีวิต 24 ราย โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอิสราเอลเปิดเผยว่ามีประชาชนกว่า 3,000 คนถูกอพยพเนื่องจากความเสียหายจากการโจมตี

 

การทูตและความเคลื่อนไหวระหว่างประเทศ

 

มีรายงานว่าอิหร่านได้ร้องขอให้โอมาน กาตาร์ และซาอุดีอาระเบีย ช่วยกดดันให้ทรัมป์โน้มน้าวให้นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลยอมรับข้อเสนอหยุดยิง โดยอิหร่านพร้อมแสดงความยืดหยุ่นในการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์ หากการหยุดยิงเกิดขึ้นจริง

 

รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน นายอับบาส อารักชี ระบุผ่าน X ว่า “หากประธานาธิบดีทรัมป์จริงใจต่อการทูตและต้องการยุติสงครามนี้ ขั้นตอนต่อไปคือสิ่งสำคัญ อิสราเอลต้องยุติการรุกราน หากไม่หยุด เราก็จะยังคงตอบโต้ต่อไป”

 

อิหร่านยืนยันว่าโครงการนิวเคลียร์ของตนมีวัตถุประสงค์เพื่อสันติ และอยู่ภายใต้สนธิสัญญาไม่แพร่ขยายนิวเคลียร์ (NPT) ขณะที่อิสราเอล ซึ่งไม่ได้เป็นภาคีของ NPT เป็นประเทศเดียวในตะวันออกกลางที่เชื่อกันว่ามีอาวุธนิวเคลียร์

 

ผลกระทบในระดับโลก

 

ราคาน้ำมันในตลาดเอเชียพุ่งขึ้นกว่า 2% ในเช้าวันอังคาร หลังคำเตือนของทรัมป์เรื่องการอพยพ โดยก่อนหน้านั้นราคาน้ำมันได้ปรับตัวลดลงจากกระแสข่าวว่าอิหร่านต้องการยุติการสู้รบ

 

สถานเอกอัครราชทูตจีนในอิสราเอลยังได้ออกประกาศขอให้พลเมืองของตนรีบเดินทางออกจากประเทศอิหร่านผ่านทางด่านชายแดนโดยเร็วที่สุด หลังเกิดการปิดน่านฟ้าและปัญหาด้านความปลอดภัยจากสถานการณ์สงคราม

ข่าวล่าสุด

งานเข้า! EU สอบสวน Google ข้อหาผูกขาดเนื้อหาให้กับ AI ของบริษัท