อิหร่าน-อิสราเอลตายนับร้อย ร้องสหรัฐกดดันให้หยุดยิง

เรือบรรทุกเครื่องบิน USS Nimitz ของกองทัพเรือสหรัฐฯ เคลื่อนตัวออกจากทะเลจีนใต้เมื่อเช้าวันจันทร์ มุ่งหน้าไปทางตะวันตก สอดคล้องกับข้อมูลจากเว็บไซต์ติดตามเรือ Marine Traffic โดยการเคลื่อนย้ายครั้งนี้เกิดขึ้นหลังการยกเลิกพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการในการเยือนเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ซึ่งเดิมมีกำหนดในวันที่ 20 มิถุนายนนี้

 

กลุ่มกองเรือบรรทุกเครื่องบิน Nimitz ได้ปฏิบัติภารกิจด้านความมั่นคงทางทะเลในน่านน้ำทะเลจีนใต้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเป็นส่วนหนึ่งของ “ภารกิจตามปกติของกองทัพเรือสหรัฐฯ ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก” ตามข้อมูลจากกองบัญชาการกองเรือแปซิฟิก

 

ทั้งนี้ ทิศทางการเดินเรือของ USS Nimitz ชี้ว่าเรือกำลังมุ่งหน้าไปยังตะวันออกกลาง ซึ่งสถานการณ์ระหว่างอิสราเอลและอิหร่านกำลังทวีความรุนแรง

 

 

อิหร่านร้องขอสหรัฐฯ กดดันข้อตกลงหยุดยิง

 

การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในวันจันทร์ส่งผลกระทบต่อสถานีโทรทัศน์แห่งชาติของอิหร่าน ขณะที่ผู้อำนวยการทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) เปิดเผยว่า โรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมที่ใหญ่ที่สุดของอิหร่านที่เมืองนาทานซ์ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุขัดข้องทางไฟฟ้าที่เชื่อว่าเกิดจากการโจมตีของอิสราเอล

 

อิหร่านเรียกร้องให้สหรัฐฯ โดยเฉพาะประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้อิทธิพลโน้มน้าวให้อิสราเอลยุติการโจมตี แลกกับความยืดหยุ่นของอิหร่านในการเจรจานิวเคลียร์ โดยได้ประสานผ่านโอมาน กาตาร์ และซาอุดีอาระเบีย

 

แม้จะร้องขอให้มีการหยุดยิง แต่อิหร่านยังคงยิงขีปนาวุธเข้าใส่อิสราเอลทะลวงระบบป้องกันทางอากาศหลายลูก ขณะที่อิสราเอลเดินหน้าการโจมตีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การเจรจาที่เดิมมีกำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ต้องถูกยกเลิก

 

ปฏิบัติการของอิสราเอล ทำลายโครงสร้างพื้นฐานด้านนิวเคลียร์อิหร่าน

 

การโจมตีครั้งแรกของอิสราเอลคร่าชีวิตผู้บัญชาการทหารระดับสูงของอิหร่านแทบทั้งคณะ รวมถึงนักวิทยาศาสตร์ด้านนิวเคลียร์ชั้นนำ อีกทั้งยังอ้างว่าควบคุมเขตน่านฟ้าของอิหร่านไว้ได้แล้ว โดยล่าสุดมีรายงานการโจมตีเครื่องบิน F-14 ของอิหร่าน ณ สนามบินกรุงเตหะราน รวมถึงการทำลายโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมอย่างน้อยสองแห่งจากทั้งหมดสามแห่ง

 

ราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการ IAEA เปิดเผยว่า โรงงานที่เมืองนาทานซ์ซึ่งมีเครื่องปั่นแยกยูเรเนียมกว่า 15,000 เครื่อง น่าจะได้รับความเสียหายหรือถูกทำลายทั้งหมด

 

 

พลเรือนเสียชีวิตนับร้อย ขณะที่ความตึงเครียดยังไม่มีทีท่าจะยุติ

 

การยิงขีปนาวุธจากอิหร่านครั้งล่าสุดได้คร่าชีวิตประชาชนในอิสราเอลแล้ว 24 ราย โดยทั้งหมดเป็นพลเรือน ขณะที่สื่อของอิหร่านรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตกว่า 224 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็ก ผู้หญิง และผู้สูงอายุ

 

ฉากความโกลาหลปกคลุมเมืองหลวงของอิหร่าน เตหะราน โดยสื่อเผยภาพอาคารรัฐบาลถล่ม รถยนต์ถูกไฟไหม้ ถนนพังยับเยิน ประชาชนแห่ออกจากเมือง แถวเติมน้ำมันและถอนเงินจากตู้ ATM ยาวเหยียด

 

สหรัฐฯ ย้ำเจรจายังเป็นไปได้ แต่เวลาเหลือน้อย

 

ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่าความขัดแย้งอาจยุติลงอย่างรวดเร็ว หากอิหร่านยอมรับข้อเรียกร้องเรื่องการควบคุมโครงการนิวเคลียร์ พร้อมเตือนว่า “อิหร่านไม่กำลังชนะสงครามนี้ และควรเริ่มการเจรจาในทันที ก่อนที่จะสายเกินไป”

 

อย่างไรก็ตาม สภาผู้แทนอิหร่านได้เสนอให้พิจารณาถอนตัวจากสนธิสัญญาห้ามแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (NPT) ซึ่งหากเป็นจริง จะถือเป็นอุปสรรคสำคัญในการเจรจาต่อไป