มหาอำนาจรวมตัว! G7 เคลียร์ใจภาษีสหรัฐฯ เดินหน้าฟาดกลับจีน
7 ชาติมหาอำนาจเศรษฐกิจ G7 ออกแถลงการณ์ร่วมมือต้านจีน เตรียมรับมือ "ความไม่สมดุลทางเศรษฐกิจ" แม้ยังคาใจปมภาษีสหรัฐฯ ที่ยังไม่คลี่คลาย
สถานการณ์เศรษฐกิจโลกกำลังทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในประเด็นการค้า ล่าสุด มีความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาจากกลุ่ม G7 ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ
สำนักข่าว The Guardian รายงานว่า รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจากประเทศประชาธิปไตยที่ร่ำรวยที่สุดในโลก 7 ประเทศ หรือ G7 ซึ่งประกอบด้วย สหรัฐฯ, แคนาดา, สหราชอาณาจักร, ญี่ปุ่น, เยอรมนี, ฝรั่งเศส และอิตาลี
ได้จัดการประชุมและมีมติร่วมกันที่จะแก้ไข "ความไม่สมดุลทางเศรษฐกิจ" ของโลก แม้ถ้อยคำที่ใช้จะเป็นทางการ แต่ความหมายที่แท้จริงคือการ พุ่งเป้าไปที่นโยบายการค้าของจีน โดยไม่ได้เอ่ยชื่อประเทศโดยตรง
ความตึงเครียดก่อนการประชุม G7
ก่อนการประชุมครั้งนี้ มีความกังวลว่าอาจไม่มีแถลงการณ์ร่วมฉบับสุดท้าย เนื่องจากมีสองประเด็นสำคัญที่ยังเป็นข้อขัดแย้ง
- มาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่สร้างความไม่พอใจในหลายประเทศสมาชิก
- ท่าทีต่อสงครามยูเครน โดยเฉพาะการที่สหรัฐฯ ไม่ต้องการใช้คำว่า "ผิดกฎหมาย" กับการกระทำของรัสเซีย
แต่สุดท้าย หลังจากหารือกันยาวนานกว่า 3 วัน ผลลัพธ์ที่ได้คือเอกสารฉบับยาวที่น่าสนใจทีเดียว
เพราะมีการปรับเปลี่ยนถ้อยคำหลายจุด เช่น ไม่มีภาษาเรื่องการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และลดทอนการอ้างอิงถึงสงครามยูเครน
ฟรองซัวส์-ฟิลิปป์ แชมเปญ รัฐมนตรีคลังแคนาดา กล่าวในการแถลงข่าวปิดการประชุมว่า
"เราพบจุดร่วมในประเด็นระดับโลกที่เร่งด่วนที่สุดที่เราเผชิญอยู่" และย้ำว่านี่คือการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า G7 เป็นหนึ่งเดียวกันทั้งในวัตถุประสงค์และการกระทำ
"ความไม่สมดุลทางเศรษฐกิจ" มุ่งเป้าไปที่จีน
แถลงการณ์ของ G7 ระบุว่าสมาชิกจะติดตาม "นโยบายและการปฏิบัติที่ไม่ใช่กลไกตลาด" ซึ่งเป็นสาเหตุของความไม่สมดุลในการค้าโลก
คำว่า "นโยบายที่ไม่ใช่กลไกตลาด" นี้ โดยทั่วไปแล้วมักหมายถึง การอุดหนุนการส่งออกและการควบคุมค่าเงินของจีน ซึ่งเคยถูกฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวหาว่าทำให้จีนได้เปรียบในการค้าระหว่างประเทศ
น่าสังเกตว่าการประชุมครั้งนี้ บรรยากาศดูราบรื่นกว่าการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ G7 ครั้งก่อนในเดือนมีนาคมเสียอีก ซึ่งในตอนนั้น โดนัลด์ ทรัมป์ ยังอยู่ในช่วงขู่ขึ้นภาษีกับแคนาดาอย่างรุนแรง
ด้านลาร์ส คลิงก์บีล รัฐมนตรีคลังเยอรมนี ก็เน้นย้ำถึงความสำคัญของการแก้ไขข้อพิพาททางการค้าปัจจุบันโดยเร็วที่สุด เพราะมาตรการภาษีได้สร้าง "ภาระต่อเศรษฐกิจโลก" ทั้งยังเสริมว่าเยอรมนีพร้อมให้ความร่วมมือ
ประเด็นภาษีและสงครามยูเครน
แม้จะมีการหารือเรื่องการค้า แต่แถลงการณ์ของ G7 ไม่ได้เอ่ยถึงมาตรการภาษีของสหรัฐฯ โดยตรง ซึ่งเป็นประเด็นที่สร้างความปั่นป่วนให้กับการค้าและห่วงโซ่อุปทานโลก
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีคลังแคนาดา ก็ออกมากล่าวว่าไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะพูดคุยถึงประเด็นนี้ และได้หารือถึงผลกระทบในระหว่างการประชุม
ปัจจุบันแคนาดากำลังพยายามหาข้อตกลงเพื่อยกเลิกภาษี 25% ที่ทรัมป์เก็บจากสินค้าหลายชนิด เช่น เหล็กและอะลูมิเนียม
นอกจากนี้ G7 ยังคงประณามสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า "สงครามอันโหดร้าย" ของรัสเซียต่อยูเครน
และกล่าวว่าหากข้อตกลงหยุดยิงล้มเหลว พวกเขาจะพิจารณามาตรการ "เพิ่มการคว่ำบาตร"
แต่ในรายละเอียด ถ้อยคำที่อธิบายสงครามยูเครนถูกปรับให้นุ่มนวลลงจากแถลงการณ์ G7 ฉบับก่อนหน้าเมื่อเดือนตุลาคม
ซึ่งก่อนทรัมป์จะได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง แถลงการณ์ก่อนหน้านี้ได้เรียกสงครามนี้ว่า "สงครามรุกรานยูเครนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไร้ความยุติธรรม"
การเปลี่ยนแปลงนี้อาจสะท้อนถึงท่าทีของทรัมป์ที่ต้องการลดบทบาทการสนับสนุนยูเครน และเคยแสดงความคิดเห็นว่ายูเครนเองก็มีส่วนผิดในความขัดแย้งนี้
การประชุมครั้งนี้ ถือเป็นการปูทางสำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำ G7 ครั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นในวันที่ 15-17 มิถุนายน ณ รีสอร์ทบนภูเขาคานานาสคิส
โดยทำเนียบขาวได้ยืนยันแล้วว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดดังกล่าว


