โบอิ้งคืนชีพ! จีนไฟเขียวส่งมอบได้ หลังสงบศึกการค้าสหรัฐฯ
โบอิ้งได้เฮ! จีนยอมคลายล็อกให้ส่งมอบเครื่องบินได้อีกครั้ง หลังสองชาติมหาอำนาจ "สหรัฐฯ-จีน"ตกลงพักรบทางการค้าชั่วคราว
ในที่สุด... ก็มีข่าวดีสำหรับยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมการบินอย่างโบอิ้ง (Boeing Co.) รายงานจาก Bloomberg เผยว่า ทางการจีนได้ตัดสินใจยกเลิก "คำสั่งห้าม" ไม่ให้สายการบินในประเทศรับมอบเครื่องบินของโบอิ้ง หลังจากที่คำสั่งนี้มีผลบังคับใช้มานานราวหนึ่งเดือน
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การยกเลิกคำสั่งธรรมดา แต่เกิดขึ้นพร้อมกับ "สัญญาณดี" ในความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่ดูเหมือนจะตกลง "พักรบ" ปมภาษีนำเข้ากันได้ชั่วคราว
เบื้องหลังคลายล็อก ข้อตกลงพักรบทางการค้า
แหล่งข่าวเผยกับ Bloomberg ว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ในปักกิ่งเริ่มแจ้งไปยังสายการบินและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องว่า การส่งมอบเครื่องบิน "Made in USA"
สามารถกลับมาเดินหน้าได้แล้ว โดยเปิดไฟเขียวให้แต่ละสายการบินไปจัดการเรื่องการรับมอบตามความสะดวกและเงื่อนไขของตัวเอง
การที่จีนยอมอ่อนข้อครั้งนี้ มาพร้อมกับการที่ทั้งสองมหาอำนาจเศรษฐกิจของโลกตกลงกันได้เบื้องต้นว่าจะลดระดับความตึงเครียดลงชั่วคราว โดย:
- สหรัฐฯ: ยอมลดภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าจีนส่วนใหญ่ลงฮวบฮาบ จากที่เคยเก็บรวมๆ กัน 145% เหลือเพียง 30% เป็นเวลา 90 วัน
- จีน: ตอบแทนด้วยการลดภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ จาก 125% เหลือ 10% พร้อมยกเลิกมาตรการตอบโต้อื่นๆ ที่ใช้มาตั้งแต่ 2 เมษายน
นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เครื่องบินโบอิ้ง ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกจากสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้รับอานิสงส์ให้กลับเข้าจีนได้อีกครั้ง
สัญญาณบวกสำหรับโบอิ้ง
ลองคิดดูว่าก่อนหน้านี้ โบอิ้งต้องเจอปัญหาใหญ่แค่ไหน? บริษัทต้องตกเป็น "เหยื่อ" ของสงครามการค้าเต็มๆ เมื่อจีนตอบโต้มาตรการภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์
ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ ทำให้เครื่องบินโบอิ้งมีราคา "แพงหูฉี่" จนสายการบินจีนสู้ราคาไม่ไหว และถึงขั้นโดนคำสั่งห้ามรับมอบเครื่องบินอย่างเด็ดขาด
ในช่วงที่ถูกแบน โบอิ้งถึงกับต้องส่งเครื่องบินบางลำที่ลูกค้าจีนปฏิเสธรับมอบ กลับไปสหรัฐฯ และเคยขู่ว่าจะหาผู้ซื้อรายใหม่ไปให้จบเรื่อง
ซึ่งเรื่องนี้ก็ไปจุดประกายความสนใจจากสายการบินในอินเดีย มาเลเซีย ซาอุดีอาระเบีย ที่มองหาโอกาสคว้า 737 Max ที่ว่างลงไปแทน
แต่การที่จีนยอมคลายล็อกครั้งนี้ คือการต่อลมหายใจเฮือกใหญ่ เพราะโบอิ้งมีเครื่องบิน กว่า 50 ลำ ที่คาดว่าจะต้องส่งมอบให้จีนในปีนี้
การที่ลูกค้าหลักอย่างจีนกลับมารับมอบ ถือเป็นสัญญาณบวกสำหรับโบอิ้ง คือ
1. ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย: ไม่ต้องเสียเวลาไปวิ่งหาลูกค้าใหม่
2. รับประกันรายได้: โบอิ้งจะได้รับเงินค่าเครื่องบินก้อนโตกลับมา ซึ่งเป็นรายได้สำคัญ
ตลาดจีนสำคัญแค่ไหน? และความท้าทายที่ยังอยู่
ต้องบอกว่าตลาดจีนมีความสำคัญกับโบอิ้งมากๆ เพราะถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นตลาดที่มีความต้องการเครื่องบินคิดเป็นสัดส่วนถึง 20% ของตลาดโลกในอีก 20 ปีข้างหน้า
ขนาดปี 2018 ผลิตภัณฑ์ของโบอิ้งเกือบ 1 ใน 4 ก็ถูกส่งมาที่จีน
แต่เส้นทางของโบอิ้งในจีนไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเลยในช่วงหลายปีมานี้ ดีลใหญ่ๆ เงียบหายไป นอกเหนือจากเรื่องสงครามการค้าแล้ว โบอิ้งยังมีปัญหา "ภายในบ้าน" ของตัวเองเช่นกัน อาทิ:
- วิกฤต 737 Max: จีนเป็นประเทศแรกที่สั่งห้ามบินรุ่นนี้ หลังเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง 2 ครั้งในปี 2019
- วิกฤตคุณภาพ: ล่าสุดเมื่อต้นปี 2024 ก็มีปัญหาชิ้นส่วนประตูหลุดกลางอากาศ
ปัญหาเหล่านี้ล้วนทำให้สายการบินจีนเริ่มเอนเอียงไปสั่งซื้อเครื่องบินจากคู่แข่งอย่างแอร์บัส (Airbus SE) จากยุโรปมากขึ้น
สรุปแล้ว...
การที่จีนเปิดประตูให้โบอิ้งกลับมาส่งมอบเครื่องบินได้อีกครั้ง ถือเป็น สัญญาณที่ดีมากๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของทั้งสองฝ่ายที่จะหาทางออกทางการค้าด้วยกัน
อย่างน้อยก็ในระยะสั้น 90 วันนี้
แต่ถึงอย่างนั้น โบอิ้งก็ยังต้องเผชิญความท้าทายอีกมาก ทั้งจากเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ยังไม่แน่นอน
และที่สำคัญคือการกอบกู้ความเชื่อมั่นในคุณภาพและความปลอดภัยของเครื่องบินตัวเอง ที่ยังเป็นประเด็นใหญ่ที่ต้องพิสูจน์ให้ตลาดโลกเห็น โดยเฉพาะตลาดใหญ่อย่างประเทศจีน


