โป๊ปลีโอเรียกร้องให้สานต่อแนวทางของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส
สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอทรงเรียกร้องให้คณะพระคาร์ดินัลสานต่อ “มรดกอันล้ำค่า” ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส
สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 14 ตรัสเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า พระองค์จะดำเนินตามวิสัยทัศน์และแนวทางปฏิรูปของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส พร้อมทรงยกย่องว่าองค์สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสได้ทรงวางรากฐาน “มรดกอันล้ำค่า” ไว้อย่างมั่นคง ซึ่งจะต้องได้รับการสืบสานอย่างจริงจัง
ในการพบปะกับคณะพระคาร์ดินัลทั่วโลกเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ทรงได้รับเลือกขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอได้ทรงเชิญชวนบรรดาผู้นำสงฆ์ให้ “รื้อฟื้นพันธะสัญญาอย่างเต็มเปี่ยม” ต่อการปฏิรูปครั้งใหญ่ของพระศาสนจักรคาทอลิกที่ริเริ่มขึ้นโดย สังคายนาวาติกันครั้งที่สอง ในคริสต์ทศวรรษ 1960
“ขอให้พวกเราจงรับมรดกอันล้ำค่านี้ไว้ และเดินหน้าต่อไปบนเส้นทางที่พระองค์ได้ทรงเปิดไว้” สมเด็จพระสันตะปาปาตรัส
พระองค์ยังทรงเน้นย้ำถึงพันธกิจของพระศาสนจักรในการสนทนาอย่างกล้าหาญและเปิดใจกับโลกสมัยใหม่ รวมถึงการสานสัมพันธ์กับศาสนาอื่น ๆ และการประกอบพิธีมิสซาในภาษาท้องถิ่นแทนภาษาละตินตามเจตนารมณ์ของสังคายนาฯ
ยึดมั่นในแนวทางแห่งการรับใช้
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ซึ่งสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 21 เมษายน ทรงครองตำแหน่งเป็นระยะเวลา 12 ปี และได้รับการยกย่องจากพระสันตะปาปาลีโอว่า ทรงเป็น “แบบอย่างแห่งการอุทิศตนเพื่อการรับใช้อย่างสมบูรณ์”
แม้ตลอดพระชนมชีพ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสจะทรงเผชิญกับเสียงคัดค้านจากฝ่ายอนุรักษนิยมในประเด็นเรื่องการมีส่วนร่วมของผู้มีความหลากหลายทางเพศและบทบาทสตรีในพระศาสนจักร แต่พระสันตะปาปาลีโอกลับทรงเลือกจะเดินตามรอยแนวทางนั้นต่อไป
บทสนทนาเรื่องจีน และการเจรจาที่ยังคงเปิดอยู่
ในการประชุม มีการกล่าวถึงสถานการณ์ของชาวคาทอลิกในประเทศจีน ซึ่งยังอยู่ภายใต้ข้อตกลงลับระหว่างวาติกันและรัฐบาลปักกิ่งเรื่องการแต่งตั้งพระสังฆราชที่ริเริ่มในปี ค.ศ. 2018 แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากบางฝ่ายว่าเป็นการยอมอ่อนข้อ แต่พระคาร์ดินัลชาวเช็ก โดมินิก ดูกา ยืนยันว่าการเจรจานั้น “จำเป็นเพื่อคงช่องทางการสื่อสารไว้ในดินแดนที่พระศาสนจักรถูกกดดัน”
ทรงกล่าวถึง AI ที่เป็นความท้าทายของคริสตจักร
สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 14 ยังทรงระบุว่า เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังกลายเป็นความท้าทายใหม่ที่พระศาสนจักรต้องเผชิญ โดยกล่าวว่า “เราต้องปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ความยุติธรรม และสิทธิของแรงงานในยุคของการปฏิวัติเทคโนโลยี”
การเปลี่ยนแปลงแห่งการประชุม
ในการประชุมกับคณะพระคาร์ดินัล พระสันตะปาปาทรงเลือกใช้รูปแบบใหม่ โดยเปิดโอกาสให้พระคาร์ดินัลแสดงความคิดเห็นอย่างเสรีภายหลังพระดำรัส ไม่ใช่แค่การฟังฝ่ายเดียวตามธรรมเนียมเดิม
พระคาร์ดินัลชาวไอร์แลนด์ ฌอน เบรดี กล่าวว่า “พระองค์ทรงรับฟังอย่างตั้งใจ และเราพร้อมเป็นพลังสนับสนุนให้การตัดสินพระทัยเป็นไปอย่างรอบคอบ”
พระคาร์ดินัลชาวสเปน อากีลีโน โบโกส เมริโน ก็อธิบายว่าบรรยากาศในการหารือ “เป็นไปอย่างอบอุ่นและเป็นมิตร”
ทั้งนี้ อดีตพระคาร์ดินัล โรเบิร์ต พรีโวสต์ แห่งสหรัฐอเมริกา ผู้ซึ่งเคยเป็นมิชชันนารีในเปรูเป็นเวลานาน ก่อนจะเข้ารับตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของวาติกัน ทรงเลือกพระนาม “ลีโอ” เพื่อถวายเกียรติแด่ สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 13 (ค.ศ. 1878–1903) ผู้โดดเด่นด้านการส่งเสริมความยุติธรรมทางสังคมและสิทธิแรงงาน