ร้อนฉ่า! ปากีสถานประชุมคณะกรรมาธิการนิวเคลียร์วันนี้
ปากีสถานเรียกประชุมหน่วยงานนิวเคลียร์ระดับสูง หลังเปิดปฏิบัติการโจมตีตอบโต้อินเดีย นานาชาติเรียกร้องให้ทั้งคู่หยุดการปะทะ สถานการณ์ตึงเครียดหนัก
ปากีสถานประกาศเรียกประชุม “คณะกรรมาธิการบัญชาการแห่งชาติ” ซึ่งเป็นหน่วยงานสูงสุดที่กำกับดูแลอาวุธนิวเคลียร์ของประเทศ ในวันเสาร์ หลังเปิดปฏิบัติการทางทหารโจมตีหลายฐานทัพของอินเดียในช่วงเช้ามืด รวมถึงคลังเก็บขีปนาวุธทางตอนเหนือของอินเดีย
ความตึงเครียดทวีขึ้นอย่างรวดเร็ว
กองทัพอินเดียกล่าวว่า ปากีสถานยังคง “ยกระดับความขัดแย้งอย่างชัดเจน” โดยมีการใช้โดรนและกระสุนหลากชนิดบริเวณชายแดนตะวันตกของอินเดีย พร้อมยืนยันว่าจะสกัดแผนการของฝ่ายตรงข้ามให้ได้
เจ้าหน้าที่ตำรวจแคว้นชัมมูรายงานว่า มีพลเรือนเสียชีวิต 5 รายในพื้นที่แคชเมียร์ฝั่งอินเดีย ท่ามกลางเสียงเรียกร้องจากนานาชาติ โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ ที่เร่งให้ทั้งสองประเทศยุติการปะทะ
ข้อกล่าวหาและการตอบโต้
ปากีสถานระบุว่า ก่อนเริ่มการโจมตี ในช่วงคืนวันศุกร์ อินเดียได้ยิงขีปนาวุธใส่ฐานทัพอากาศ 3 แห่ง รวมถึงฐานใกล้กรุงอิสลามาบัด แต่ระบบป้องกันภัยทางอากาศของปากีสถานสามารถสกัดได้เกือบทั้งหมด
นายกรัฐมนตรีของปากีสถานจึงได้เรียกประชุมคณะกรรมาธิการบัญชาการแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่พลเรือนและทหารระดับสูง เพื่อหารือเกี่ยวกับทิศทางของสถานการณ์
ความเสี่ยงจากการใช้ขีปนาวุธนิวเคลียร์
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ความขัดแย้งระหว่างสองประเทศคู่ปรับที่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง อาจลุกลามจนถึงระดับที่มีการใช้อาวุธร้ายแรง โดยเฉพาะในพื้นที่แคชเมียร์ซึ่งเป็นจุดปะทะสำคัญ
สหรัฐฯ เสนอไกล่เกลี่ย
มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ โทรศัพท์พูดคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุดของปากีสถาน และเสนอให้สหรัฐฯ ช่วยเป็นคนกลางเจรจา เพื่อลดความตึงเครียด
รายละเอียดการปะทะ
• ปากีสถานระบุว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ใช้ชื่อว่า “Operation Bunyanun Marsoos” แปลว่า “โครงสร้างที่แน่นหนาและเป็นเอกภาพ”
• มีการโจมตีคลังขีปนาวุธ “BrahMos” ในพื้นที่ใกล้เมืองเบียส, ฐานทัพ Pathankot ในแคว้นปัญจาบ และฐานทัพอากาศ Udhampur ในแคชเมียร์
• กองทัพอินเดียระบุว่า โดรนของปากีสถานถูกยิงตกในเมืองอมฤตสาร์ และยังได้สกัดขีปนาวุธที่พุ่งเข้ามาได้หลายลูก
• เสียงระเบิดดังในเมืองศรีนาการ์, ชัมมู, ลาฮอร์ และเปชาวาร์ สะท้อนแนวโน้มความรุนแรงที่อาจขยายวง
การตอบสนองจากนานาชาติ
กลุ่ม G7 เรียกร้องให้ทั้งสองประเทศใช้ความอดกลั้นอย่างสูงสุด และเริ่มต้นเจรจาโดยตรง ด้านอังกฤษระบุว่า กำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด


